ความแตกต่างระหว่าง 4D และ 8D Hyaluronic Acid

ความแตกต่างหลักระหว่าง 4D Hyaluronic Acid และ 8D Hyaluronic Acid อยู่ที่ความหลากหลายของโมเลกุลไฮยาลูรอนิค แอซิดที่ประกอบอยู่ ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวในชั้นต่างๆ

• 4D Hyaluronic Acid ประกอบด้วยโมเลกุลไฮยาลูรอนิค แอซิด 4 ชนิด ได้แก่ ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ และชนิดประจุบวก การผสมผสานนี้ช่วยสร้างโครงข่ายสามมิติที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นบนผิวและในชั้นผิวตื้นๆ (ชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้)

• 8D Hyaluronic Acid ประกอบด้วยโมเลกุลไฮยาลูรอนิค แอซิดที่หลากหลายกว่าถึง 8 ชนิด ซึ่งรวมถึงโมเลกุล 4 ขนาดที่แตกต่างกัน (เล็ก 10K, กลาง 800K และ 1M, ใหญ่ 2M ดาลตัน) บวกกับชนิดประจุบวก ชนิดครอสโพลิเมอร์ (cross-polymer) และชนิดอะเซทิเลเต็ด (acetylated) การเพิ่มชนิดครอสโพลิเมอร์และอะเซทิเลเต็ดเข้ามาถือเป็นจุดสำคัญ

แม้ว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดจะออกแบบมาเพื่อความชุ่มชื้นและมีอัตราการใช้ที่แนะนำเท่ากัน (1-20%) แต่ส่วนประกอบที่ซับซ้อนกว่าของ 8D Hyaluronic Acid มีจุดประสงค์เพื่อให้ประโยชน์ที่ครอบคลุมมากกว่า:

• Hyaluronic Acid ชนิดครอสโพลิเมอร์ สร้างโครงข่ายที่เสถียรคล้ายเจล ซึ่งให้ความชุ่มชื้นยาวนานและช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
• Hyaluronic Acid ชนิดอะเซทิเลเต็ด (หรือที่เรียกว่า Super Hyaluron) มีความสามารถในการซึมเข้าสู่ผิวได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับไฮยาลูรอนชนิดอื่นๆ

ดังนั้น ใช่ครับ 8D Hyaluronic Acid คาดว่าจะให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่าและครอบคลุมมากกว่า เนื่องจากมีชนิดของไฮยาลูรอนิค แอซิดที่หลากหลายกว่า ซึ่งสามารถเข้าถึงผิวในระดับความลึกที่แตกต่างกัน และให้ประโยชน์เพิ่มเติม เช่น การดูดซึมที่ดีขึ้นและการกักเก็บความชุ่มชื้นที่ยาวนานกว่าเมื่อเทียบกับ 4D Hyaluronic Acid ครับ