คำถามการปรุงสูตร: การละลายน้ำมัน, สารประสาน, เนื้อสัมผัส, และความเสถียร
คำถาม
กำลังทดลองปรุงสูตรเครื่องสำอางและมีคำถามหลายข้อจากประสบการณ์ที่ผ่านมาค่ะ:
การละลายน้ำมัน: ต้องการใส่น้ำมัน (โดยเฉพาะ Squalane + Vitamin E + Bisabolol รวม 5%) ลงในสูตรเบสน้ำที่ต้องการความใส ก่อนหน้านี้เคยลองใช้ Soy Lecithin แต่พบว่าละลายยากเมื่อปริมาณน้ำมันน้อย (Bisabolol 0.5%, Vitamin E 0.2%) และเคยพิจารณา Polysorbate 20 สำหรับกระบวนการเย็น แต่ดูเหมือนจะไม่เพียงพอสำหรับน้ำมัน 5% อยากทราบปริมาณที่แนะนำและวิธีการผสมสำหรับ Flora Solve Clear เพื่อช่วยละลายน้ำมัน 5% (Squalane + Vitamin E + Bisabolol) ในสูตรที่ต้องการความใสค่ะ
ความคงตัวของน้ำมันต่อความร้อน: มีน้ำมันธรรมชาติชนิดใดบ้างที่ทนความร้อนสูง หรือน้ำมันธรรมชาติส่วนใหญ่จะเสื่อมคุณภาพเมื่อโดนความร้อนสูงถึง 80°C? ถ้าเสื่อม ควรใส่น้ำมันในสูตรที่ต้องใช้ความร้อนอย่างไรคะ?
การใช้ Squalane: เคยทำสูตร Vitamin C E Ferulic แล้วรู้สึกเหนียวจาก Vitamin E และ Hyaluronic Acid เข้าใจว่า Squalane ช่วยปรับ Skin Feel ได้ อยากทราบปริมาณ Squalane ที่เหมาะสมในการเริ่มต้นใส่ในสูตรครีม 100 กรัม เพื่อให้ได้เนื้อที่เบาและไม่เหนอะหนะค่ะ
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสารประสาน: ช่วยอธิบายความหมายของค่า HLB (Hydrophilic-Lipophilic Balance) และความแตกต่างระหว่างอิมัลชันแบบ Oil-in-Water (O/W) กับ Water-in-Oil (W/O) โดยเฉพาะในแง่ของอัตราส่วนหรือปริมาณของเฟสน้ำมันและน้ำด้วยค่ะ
นอกจากนี้ ยังได้ทดลองทำสูตร Glutathione (พบว่าผิวแห้งเมื่อใส่ Hyaluronic Acid น้อย แต่ช่วยป้องกัน oxidation ได้ดี) และครีมไวท์เทนนิ่ง Alpha Arbutin (ซึ่งเห็นผลลัพธ์ที่ดีในการปรับสีผิว) อยากได้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงเทคนิคการปรุงสูตรค่ะ
คำตอบ
คำแนะนำการปรุงและคุณสมบัติของส่วนผสม
ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์การปรุงและคำถามนะคะ เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณกำลังทดลองเพื่อหาสูตรที่เหมาะกับผิวของคุณที่สุดค่ะ
ความคงตัวของน้ำมันธรรมชาติเมื่อโดนความร้อน
สำหรับคำถามเกี่ยวกับน้ำมันธรรมชาติที่ทนความร้อนสูงถึง 80°C คำตอบของทีมงานถูกต้องแล้วค่ะ น้ำมันธรรมชาติโดยทั่วไปจะเสื่อมคุณภาพเร็วขึ้นเมื่อสัมผัสกับความร้อนสูง เช่น 80°C โดยเฉพาะสารที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในน้ำมัน นั่นเป็นเหตุผลที่วิธีการสกัดแบบสกัดเย็น (cold-pressing) เป็นที่นิยมในการสกัดน้ำมัน เพราะหลีกเลี่ยงความร้อนเพื่อรักษาคุณภาพของน้ำมันไว้ค่ะ
แม้ว่าน้ำมันบางชนิดอาจมีความคงตัวมากกว่าชนิดอื่น แต่การให้ความร้อนที่ 80°C เป็นเวลานานมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการเสื่อมคุณภาพในระดับหนึ่ง หากคุณจำเป็นต้องผสมน้ำมันในขั้นตอนที่ต้องใช้ความร้อน ควรลดระยะเวลาในการให้ความร้อนให้น้อยที่สุดค่ะ
การใช้ Squalane เพื่อปรับ Skin Feel
Squalane เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับการปรับปรุง Skin Feel ค่ะ ตามที่ทีมงานกล่าวไว้ เป็นน้ำมันที่เนื้อเบามาก ซึมเร็ว และไม่เหนอะหนะ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลดความรู้สึกเหนียวที่คุณเคยเจอจาก Vitamin E และ Hyaluronic Acid สามารถใช้ได้ในความเข้มข้นสูง แม้กระทั่ง 100% เป็นผลิตภัณฑ์เดี่ยวๆ ก็ได้ค่ะ
สำหรับการปรับปรุง Skin Feel ในสูตรครีม 100 กรัม ปริมาณที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับสูตรโดยรวมของคุณ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เห็นผลชัดเจนในเรื่องความเบาและการซึมเร็วในครีม 100 กรัม คุณสามารถเริ่มต้นโดยการใส่ Squalane ในช่วง 5-15% คุณสามารถปรับปริมาณนี้ได้ตาม Skin Feel ที่คุณต้องการ โดยเพิ่มปริมาณขึ้นหากต้องการเนื้อที่เบาและซึมเร็วขึ้นค่ะ
สารประสาน (Emulsifiers): Soy Lecithin, Polysorbate 20, และ Flora Solve Clear
ข้อสังเกตของคุณที่ว่า Soy Lecithin ละลายยากในปริมาณน้ำมันที่น้อย (Bisabolol 0.5% และ Vitamin E 0.2%) นั้นถูกต้องค่ะ Soy Lecithin โดยทั่วไปต้องการปริมาณน้ำมันที่สูงกว่า (มักจะ 3-10% หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำ) และต้องใช้ความร้อนในการประสานน้ำกับน้ำมันให้เข้ากันได้ดี
การเปลี่ยนมาใช้ Polysorbate 20 เป็นความคิดที่ดีหากคุณต้องการหลีกเลี่ยงความร้อน เนื่องจากสามารถผสมได้โดยไม่ต้องใช้ความร้อน อย่างไรก็ตาม ตามที่สมาชิกท่านอื่นและทีมงานได้ชี้แจง Polysorbate 20 เป็นหลักคือสารช่วยละลาย (solubilizer) และสารประสานรอง (co-emulsifier) สามารถช่วยละลายน้ำมันได้ในปริมาณน้อยเท่านั้น (โดยทั่วไป 1-2%) สำหรับปริมาณน้ำมัน 5% (Squalane + Vitamin E + Bisabolol) การใช้ Polysorbate 20 เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะสร้างอิมัลชันที่คงตัวหรือสารละลายที่ใส อาจทำให้ได้ส่วนผสมที่ขุ่นหรือแยกชั้นได้ค่ะ
หากเป้าหมายของคุณคือการสร้างสารละลายที่ใส ไม่ใช่ครีมอิมัลชัน Flora Solve Clear เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่ามากสำหรับการช่วยละลายน้ำมัน 5% ในสูตรที่เป็นเบสน้ำ ทีมงานแนะนำให้ใช้ Flora Solve Clear ในปริมาณประมาณ 2-5 เท่าของปริมาณเฟสน้ำมัน สำหรับเฟสน้ำมัน 5% ของคุณ จะหมายถึงการใช้ Flora Solve Clear 10-25% คุณสามารถเริ่มต้นที่ 10% (2 เท่าของน้ำมัน) และเพิ่มปริมาณได้หากต้องการความใสที่มากขึ้นค่ะ
วิธีการผสมกับ Flora Solve Clear: ในการใช้ Flora Solve Clear ให้ผสม Flora Solve Clear กับเฟสน้ำมันของคุณ (Squalane, Vitamin E, Bisabolol) ให้เข้ากันดีก่อน จากนั้นค่อยๆ เติมส่วนผสมน้ำมัน/สารช่วยละลายนี้ลงในเฟสน้ำของคุณ พร้อมคนหรือปั่นจนเข้ากันและใสค่ะ
ความเข้าใจเกี่ยวกับ HLB และประเภทของอิมัลชัน
- HLB (Hydrophilic-Lipophilic Balance) คือค่าที่บ่งชี้ว่าสารประสานหรือสารลดแรงตึงผิวละลายน้ำได้ดีหรือละลายน้ำมันได้ดีเพียงใด ค่า HLB ที่สูง (โดยทั่วไปสูงกว่า 10) หมายความว่าสารนั้นละลายน้ำได้ดีกว่า และมักใช้สำหรับอิมัลชันแบบ Oil-in-Water (O/W) (น้ำมันกระจายตัวในน้ำ) ค่า HLB ที่ต่ำกว่า (โดยทั่วไปต่ำกว่า 10) หมายความว่าสารนั้นละลายน้ำมันได้ดีกว่า และมักใช้สำหรับอิมัลชันแบบ Water-in-Oil (W/O) (น้ำกระจายตัวในน้ำมัน)
- Oil-in-Water (O/W) อิมัลชัน คืออิมัลชันที่หยดน้ำมันกระจายตัวอยู่ในเฟสน้ำที่เป็นเนื้อเดียวกัน อิมัลชันประเภทนี้มักจะมีเนื้อที่เบาและไม่เหนอะหนะ เช่น โลชั่นและครีมส่วนใหญ่
- Water-in-Oil (W/O) อิมัลชัน คืออิมัลชันที่หยดน้ำกระจายตัวอยู่ในเฟสน้ำมันที่เป็นเนื้อเดียวกัน อิมัลชันประเภทนี้มักจะมีเนื้อที่เข้มข้นกว่า เหนอะหนะกว่า และช่วยปกป้องผิวได้ดีกว่า เช่น ครีมหรือขี้ผึ้งบางชนิด
ความเข้าใจของคุณที่ว่า Oil-in-Water คือส่วนน้ำมากกว่าน้ำมัน และ Water-in-Oil คือส่วนน้ำมันมากกว่าน้ำ นั้นถูกต้องโดยทั่วไปในแง่ของเฟสที่เป็นเนื้อเดียวกัน แม้ว่าปริมาณรวมของแต่ละเฟสในอิมัลชันทั้งสองประเภทจะแตกต่างกันไปอย่างมากก็ตามค่ะ
ประสบการณ์การปรุงของคุณ
เป็นเรื่องดีที่ได้ทราบเกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณกับการปรุงสูตรต่างๆ รวมถึงสูตร Vitamin C E Ferulic (ที่รู้สึกเหนียวจาก Vitamin E และ Hyaluronic Acid) สูตร Glutathione (ที่พบว่าทำให้ผิวแห้งเมื่อใส่ Hyaluronic Acid น้อย แต่ช่วยเรื่องการชะลอการ oxidation ได้ดี) และครีมไวท์เทนนิ่ง Alpha Arbutin (ที่เห็นผลลัพธ์ที่ดีในการปรับสีผิวให้สว่างขึ้น) ประสบการณ์ของคุณแสดงให้เห็นว่าส่วนผสมแต่ละชนิดส่งผลต่อ Skin Feel และประสิทธิภาพอย่างไร และการปรับสูตรตามความชอบส่วนตัวและความต้องการของผิวเป็นสิ่งสำคัญค่ะ
ขอให้สนุกกับการทดลองต่อไปนะคะ การหาสมดุลที่เหมาะสมของส่วนผสมและเทคนิคต่างๆ จะช่วยให้คุณได้ครีมที่สมบูรณ์แบบสำหรับผิวและไลฟ์สไตล์ของคุณค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Alpha Arbutin (Switzerland)

Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

Squalane (Olive)

Polysorbate 20 (Tween 20)
