คำถามการปรุงสูตร: การละลายน้ำมัน, สารประสาน, เนื้อสัมผัส, และความเสถียร

ถามโดย: best_singnontad เมื่อ: April 24, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังทดลองปรุงสูตรเครื่องสำอางและมีคำถามหลายข้อจากประสบการณ์ที่ผ่านมาค่ะ:

  1. การละลายน้ำมัน: ต้องการใส่น้ำมัน (โดยเฉพาะ Squalane + Vitamin E + Bisabolol รวม 5%) ลงในสูตรเบสน้ำที่ต้องการความใส ก่อนหน้านี้เคยลองใช้ Soy Lecithin แต่พบว่าละลายยากเมื่อปริมาณน้ำมันน้อย (Bisabolol 0.5%, Vitamin E 0.2%) และเคยพิจารณา Polysorbate 20 สำหรับกระบวนการเย็น แต่ดูเหมือนจะไม่เพียงพอสำหรับน้ำมัน 5% อยากทราบปริมาณที่แนะนำและวิธีการผสมสำหรับ Flora Solve Clear เพื่อช่วยละลายน้ำมัน 5% (Squalane + Vitamin E + Bisabolol) ในสูตรที่ต้องการความใสค่ะ

  2. ความคงตัวของน้ำมันต่อความร้อน: มีน้ำมันธรรมชาติชนิดใดบ้างที่ทนความร้อนสูง หรือน้ำมันธรรมชาติส่วนใหญ่จะเสื่อมคุณภาพเมื่อโดนความร้อนสูงถึง 80°C? ถ้าเสื่อม ควรใส่น้ำมันในสูตรที่ต้องใช้ความร้อนอย่างไรคะ?

  3. การใช้ Squalane: เคยทำสูตร Vitamin C E Ferulic แล้วรู้สึกเหนียวจาก Vitamin E และ Hyaluronic Acid เข้าใจว่า Squalane ช่วยปรับ Skin Feel ได้ อยากทราบปริมาณ Squalane ที่เหมาะสมในการเริ่มต้นใส่ในสูตรครีม 100 กรัม เพื่อให้ได้เนื้อที่เบาและไม่เหนอะหนะค่ะ

  4. ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสารประสาน: ช่วยอธิบายความหมายของค่า HLB (Hydrophilic-Lipophilic Balance) และความแตกต่างระหว่างอิมัลชันแบบ Oil-in-Water (O/W) กับ Water-in-Oil (W/O) โดยเฉพาะในแง่ของอัตราส่วนหรือปริมาณของเฟสน้ำมันและน้ำด้วยค่ะ

นอกจากนี้ ยังได้ทดลองทำสูตร Glutathione (พบว่าผิวแห้งเมื่อใส่ Hyaluronic Acid น้อย แต่ช่วยป้องกัน oxidation ได้ดี) และครีมไวท์เทนนิ่ง Alpha Arbutin (ซึ่งเห็นผลลัพธ์ที่ดีในการปรับสีผิว) อยากได้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงเทคนิคการปรุงสูตรค่ะ

คำตอบ

คำแนะนำการปรุงและคุณสมบัติของส่วนผสม

ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์การปรุงและคำถามนะคะ เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณกำลังทดลองเพื่อหาสูตรที่เหมาะกับผิวของคุณที่สุดค่ะ

ความคงตัวของน้ำมันธรรมชาติเมื่อโดนความร้อน

สำหรับคำถามเกี่ยวกับน้ำมันธรรมชาติที่ทนความร้อนสูงถึง 80°C คำตอบของทีมงานถูกต้องแล้วค่ะ น้ำมันธรรมชาติโดยทั่วไปจะเสื่อมคุณภาพเร็วขึ้นเมื่อสัมผัสกับความร้อนสูง เช่น 80°C โดยเฉพาะสารที่เป็นประโยชน์ เช่น วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในน้ำมัน นั่นเป็นเหตุผลที่วิธีการสกัดแบบสกัดเย็น (cold-pressing) เป็นที่นิยมในการสกัดน้ำมัน เพราะหลีกเลี่ยงความร้อนเพื่อรักษาคุณภาพของน้ำมันไว้ค่ะ

แม้ว่าน้ำมันบางชนิดอาจมีความคงตัวมากกว่าชนิดอื่น แต่การให้ความร้อนที่ 80°C เป็นเวลานานมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการเสื่อมคุณภาพในระดับหนึ่ง หากคุณจำเป็นต้องผสมน้ำมันในขั้นตอนที่ต้องใช้ความร้อน ควรลดระยะเวลาในการให้ความร้อนให้น้อยที่สุดค่ะ

การใช้ Squalane เพื่อปรับ Skin Feel

Squalane เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับการปรับปรุง Skin Feel ค่ะ ตามที่ทีมงานกล่าวไว้ เป็นน้ำมันที่เนื้อเบามาก ซึมเร็ว และไม่เหนอะหนะ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลดความรู้สึกเหนียวที่คุณเคยเจอจาก Vitamin E และ Hyaluronic Acid สามารถใช้ได้ในความเข้มข้นสูง แม้กระทั่ง 100% เป็นผลิตภัณฑ์เดี่ยวๆ ก็ได้ค่ะ

สำหรับการปรับปรุง Skin Feel ในสูตรครีม 100 กรัม ปริมาณที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับสูตรโดยรวมของคุณ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เห็นผลชัดเจนในเรื่องความเบาและการซึมเร็วในครีม 100 กรัม คุณสามารถเริ่มต้นโดยการใส่ Squalane ในช่วง 5-15% คุณสามารถปรับปริมาณนี้ได้ตาม Skin Feel ที่คุณต้องการ โดยเพิ่มปริมาณขึ้นหากต้องการเนื้อที่เบาและซึมเร็วขึ้นค่ะ

สารประสาน (Emulsifiers): Soy Lecithin, Polysorbate 20, และ Flora Solve Clear

ข้อสังเกตของคุณที่ว่า Soy Lecithin ละลายยากในปริมาณน้ำมันที่น้อย (Bisabolol 0.5% และ Vitamin E 0.2%) นั้นถูกต้องค่ะ Soy Lecithin โดยทั่วไปต้องการปริมาณน้ำมันที่สูงกว่า (มักจะ 3-10% หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำ) และต้องใช้ความร้อนในการประสานน้ำกับน้ำมันให้เข้ากันได้ดี

การเปลี่ยนมาใช้ Polysorbate 20 เป็นความคิดที่ดีหากคุณต้องการหลีกเลี่ยงความร้อน เนื่องจากสามารถผสมได้โดยไม่ต้องใช้ความร้อน อย่างไรก็ตาม ตามที่สมาชิกท่านอื่นและทีมงานได้ชี้แจง Polysorbate 20 เป็นหลักคือสารช่วยละลาย (solubilizer) และสารประสานรอง (co-emulsifier) สามารถช่วยละลายน้ำมันได้ในปริมาณน้อยเท่านั้น (โดยทั่วไป 1-2%) สำหรับปริมาณน้ำมัน 5% (Squalane + Vitamin E + Bisabolol) การใช้ Polysorbate 20 เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะสร้างอิมัลชันที่คงตัวหรือสารละลายที่ใส อาจทำให้ได้ส่วนผสมที่ขุ่นหรือแยกชั้นได้ค่ะ

หากเป้าหมายของคุณคือการสร้างสารละลายที่ใส ไม่ใช่ครีมอิมัลชัน Flora Solve Clear เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่ามากสำหรับการช่วยละลายน้ำมัน 5% ในสูตรที่เป็นเบสน้ำ ทีมงานแนะนำให้ใช้ Flora Solve Clear ในปริมาณประมาณ 2-5 เท่าของปริมาณเฟสน้ำมัน สำหรับเฟสน้ำมัน 5% ของคุณ จะหมายถึงการใช้ Flora Solve Clear 10-25% คุณสามารถเริ่มต้นที่ 10% (2 เท่าของน้ำมัน) และเพิ่มปริมาณได้หากต้องการความใสที่มากขึ้นค่ะ

วิธีการผสมกับ Flora Solve Clear: ในการใช้ Flora Solve Clear ให้ผสม Flora Solve Clear กับเฟสน้ำมันของคุณ (Squalane, Vitamin E, Bisabolol) ให้เข้ากันดีก่อน จากนั้นค่อยๆ เติมส่วนผสมน้ำมัน/สารช่วยละลายนี้ลงในเฟสน้ำของคุณ พร้อมคนหรือปั่นจนเข้ากันและใสค่ะ

ความเข้าใจเกี่ยวกับ HLB และประเภทของอิมัลชัน

  • HLB (Hydrophilic-Lipophilic Balance) คือค่าที่บ่งชี้ว่าสารประสานหรือสารลดแรงตึงผิวละลายน้ำได้ดีหรือละลายน้ำมันได้ดีเพียงใด ค่า HLB ที่สูง (โดยทั่วไปสูงกว่า 10) หมายความว่าสารนั้นละลายน้ำได้ดีกว่า และมักใช้สำหรับอิมัลชันแบบ Oil-in-Water (O/W) (น้ำมันกระจายตัวในน้ำ) ค่า HLB ที่ต่ำกว่า (โดยทั่วไปต่ำกว่า 10) หมายความว่าสารนั้นละลายน้ำมันได้ดีกว่า และมักใช้สำหรับอิมัลชันแบบ Water-in-Oil (W/O) (น้ำกระจายตัวในน้ำมัน)
  • Oil-in-Water (O/W) อิมัลชัน คืออิมัลชันที่หยดน้ำมันกระจายตัวอยู่ในเฟสน้ำที่เป็นเนื้อเดียวกัน อิมัลชันประเภทนี้มักจะมีเนื้อที่เบาและไม่เหนอะหนะ เช่น โลชั่นและครีมส่วนใหญ่
  • Water-in-Oil (W/O) อิมัลชัน คืออิมัลชันที่หยดน้ำกระจายตัวอยู่ในเฟสน้ำมันที่เป็นเนื้อเดียวกัน อิมัลชันประเภทนี้มักจะมีเนื้อที่เข้มข้นกว่า เหนอะหนะกว่า และช่วยปกป้องผิวได้ดีกว่า เช่น ครีมหรือขี้ผึ้งบางชนิด

ความเข้าใจของคุณที่ว่า Oil-in-Water คือส่วนน้ำมากกว่าน้ำมัน และ Water-in-Oil คือส่วนน้ำมันมากกว่าน้ำ นั้นถูกต้องโดยทั่วไปในแง่ของเฟสที่เป็นเนื้อเดียวกัน แม้ว่าปริมาณรวมของแต่ละเฟสในอิมัลชันทั้งสองประเภทจะแตกต่างกันไปอย่างมากก็ตามค่ะ

ประสบการณ์การปรุงของคุณ

เป็นเรื่องดีที่ได้ทราบเกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณกับการปรุงสูตรต่างๆ รวมถึงสูตร Vitamin C E Ferulic (ที่รู้สึกเหนียวจาก Vitamin E และ Hyaluronic Acid) สูตร Glutathione (ที่พบว่าทำให้ผิวแห้งเมื่อใส่ Hyaluronic Acid น้อย แต่ช่วยเรื่องการชะลอการ oxidation ได้ดี) และครีมไวท์เทนนิ่ง Alpha Arbutin (ที่เห็นผลลัพธ์ที่ดีในการปรับสีผิวให้สว่างขึ้น) ประสบการณ์ของคุณแสดงให้เห็นว่าส่วนผสมแต่ละชนิดส่งผลต่อ Skin Feel และประสิทธิภาพอย่างไร และการปรับสูตรตามความชอบส่วนตัวและความต้องการของผิวเป็นสิ่งสำคัญค่ะ

ขอให้สนุกกับการทดลองต่อไปนะคะ การหาสมดุลที่เหมาะสมของส่วนผสมและเทคนิคต่างๆ จะช่วยให้คุณได้ครีมที่สมบูรณ์แบบสำหรับผิวและไลฟ์สไตล์ของคุณค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Alpha Arbutin (Switzerland)
Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง
Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)
Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
เครื่องสำอาง
Squalane (Olive)
Squalane (Olive)
เครื่องสำอาง
Polysorbate 20 (Tween 20)
Polysorbate 20 (Tween 20)
เครื่องสำอาง
Soy Lecithin (Soy Bean Oil, Liquid Lecithin)
Soy Lecithin (Soy Bean Oil, Liquid Lecithin)
เครื่องสำอาง