คำถามการผสมสูตร: สารไวความร้อน, การเลือกอิมัลซิไฟเออร์, O/W vs W/O
คำถาม
มีคำถามเกี่ยวกับการผสมสูตร 3 ข้อค่ะ:
เนื่องจากใช้
Emulsifier
(Sensitive Cream Maker
) ที่ต้องใช้ความร้อน 70-80 องศา ในการหลอมเหลว แต่ active ingredient ทุกตัวที่ต้องการใช้ละลายในน้ำ และต้องผสมในอุณหภูมิไม่เกิน 60 องศา สูตรเป็นWater-Phase 80% Oil-Phase 20%
ค่ะ อยากสอบถามว่าในขั้นตอนผสมคือเราสามารถเอา Oil +Emulsifier
+น้ำกลั่น
(ล้วน)ที่แบ่งมาสัก 70-75% มาอุ่น 70-80 องศา เพื่อสร้างเป็นเนื้อครีมก่อน แล้วค่อยเอาน้ำกลั่น
ส่วนที่ผสม Active Ingredients 5-10% มาผสมกับเนื้อครีมทีหลัง เมื่ออุณหภูมิลดต่ำกว่า 60 องศาได้มั้ยคะ เพราะถ้าผสมไปเลยตอน 70-80 องศา กลัวประสิทธิภาพของสารจะเสื่อมหรือมี
Emulsifier
ชนิดครีมตัวไหนมั้ยคะที่ไม่ต้องใช้ความร้อน ,PEG-free
, และทนอิเล็กโทรไลต์
ได้หลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าเราควรประสานแบบ
Oil-in-Water
หรือWater-in-Oil
คืออะไรหรอคะ เนื้อสัมผัสที่เราอยากได้หรือคะ ไม่เกี่ยวกับว่าในสูตรมีฝั่งน้ำหรือฝั่งออยล์มากกว่ากันใช่มั้ยคะ
คำตอบ
คำถามเกี่ยวกับการผสมสูตร
นี่คือคำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับการผสมสูตรของคุณค่ะ:
1. การเติมสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อน
ใช่ค่ะ วิธีที่คุณอธิบายมาเป็นวิธีที่ถูกต้องและนิยมใช้ในการผสมสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อนลงในสูตรครีมที่ใช้อิมัลซิไฟเออร์ที่ต้องใช้ความร้อนสูง เช่น Sensitive Cream Maker หรือ SureCream™
คุณสามารถเตรียมเนื้อครีมหลักได้โดยการนำส่วนของน้ำมันที่มีอิมัลซิไฟเออร์และส่วนของน้ำส่วนใหญ่ (70-75%) ไปอุ่นที่อุณหภูมิที่กำหนด (70-80°C) และผสมจนเกิดเป็นเนื้อครีม หลังจากที่เนื้อครีมเย็นลงจนอุณหภูมิต่ำกว่า 60°C ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สารออกฤทธิ์ของคุณทนได้ คุณจึงค่อยเติมส่วนของน้ำที่เหลือซึ่งมีสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อน (5-10%) ลงไปผสมให้เข้ากันดี เพื่อให้แน่ใจว่าสารออกฤทธิ์กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอโดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพจากความร้อนค่ะ
2. อิมัลซิไฟเออร์ชนิดครีมที่ PEG-free, ไม่ใช้ความร้อน, และทนอิเล็กโทรไลต์
การหาอิมัลซิไฟเออร์ตัวเดียวที่ PEG-free, ไม่ต้องใช้ความร้อน, และทนอิเล็กโทรไลต์ได้ดีสำหรับส่วนของน้ำมัน 20% อาจเป็นเรื่องที่ท้าทายค่ะ
- ทางเลือกแบบ Cold Process: ส่วนผสมบางชนิดสามารถใช้ในกระบวนการผลิตแบบเย็นได้ ซึ่งหมายความว่าไม่ต้องใช้ความร้อนสูง CreamMaker EG™ เป็นสารช่วยประสาน/สารเพิ่มความข้นแบบ Cold Process ที่ช่วยให้เนื้ออิมัลชั่นคงตัวและเหมาะสำหรับส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน อย่างไรก็ตาม มีส่วนประกอบของ Polysorbate 80 ซึ่งเกี่ยวข้องกับ PEG ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเป็น PEG-free ค่ะ
- การทนอิเล็กโทรไลต์และการเพิ่มความข้น: ส่วนผสมอย่าง Carbomer Ultrez 30 และ Sepimax Zen เป็นสารเพิ่มความข้นที่ทนอิเล็กโทรไลต์ได้ดีเยี่ยมและไม่ต้องใช้ความร้อน แม้ว่าส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เพิ่มความข้นในส่วนของน้ำและช่วยให้เนื้ออิมัลชั่นคงตัว แต่โดยทั่วไปแล้วไม่ได้ใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์หลักสำหรับส่วนของน้ำมันถึง 20% สามารถใช้ร่วมกับอิมัลซิไฟเออร์ตัวอื่นได้ค่ะ
คุณอาจต้องพิจารณาใช้สารช่วยประสานแบบ Cold Process ร่วมกับสารเพิ่มความข้นที่ทนอิเล็กโทรไลต์ หรือพิจารณาอิมัลซิไฟเออร์แบบ Cold Process ที่อาจจะไม่ใช่ PEG-free โดยสมบูรณ์ หากการทนอิเล็กโทรไลต์และการไม่ใช้ความร้อนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ
3. หลักเกณฑ์ในการพิจารณา Oil-in-Water (O/W) หรือ Water-in-Oil (W/O)
หลักการสำคัญในการเลือกระหว่างอิมัลชั่นแบบ Oil-in-Water (O/W) และ Water-in-Oil (W/O) คือ ความรู้สึกบนผิวและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ต้องการ ไม่ใช่อัตราส่วนของน้ำกับน้ำมันในสูตรค่ะ
- Oil-in-Water (O/W): น้ำเป็นเฟสภายนอก อิมัลชั่นประเภทนี้โดยทั่วไปจะให้ความรู้สึกบางเบา ไม่เหนอะหนะ และซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว เหมาะสำหรับโลชั่นและครีมที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่ต้องการความรู้สึกที่ไม่เคลือบผิว
- Water-in-Oil (W/O): น้ำมันเป็นเฟสภายนอก อิมัลชั่นประเภทนี้มักจะให้ความรู้สึกเข้มข้น เคลือบผิวได้ดี และทิ้งชั้นปกป้องไว้บนผิว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผิวที่แห้งมาก ให้ความชุ่มชื้นและกันน้ำได้ดีขึ้น อิมัลชั่นแบบ W/O เช่นที่ทำด้วย Water-in-Oil EZ™ หรือ Water-in-Oil Max™ ยังเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์อย่างครีมกันแดดและรองพื้น เนื่องจากให้คุณสมบัติกันน้ำได้ดีกว่า และสามารถกระจายเม็ดสีในเฟสน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ปกปิดได้ดีและติดทนยาวนาน
แม้ว่าอัตราส่วนของน้ำกับน้ำมันจะส่งผลต่อความคงตัวและความหนืด แต่การตัดสินใจว่าจะทำอิมัลชั่นแบบ O/W หรือ W/O นั้นขึ้นอยู่กับการใช้งานที่ตั้งใจไว้และความรู้สึกที่ต้องการบนผิวค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Water-in-Oil EZ™ (Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone)

Water-in-Oil Max™

Carbomer Ultrez 30 (Electrolyte Tolerance)

Sepimax Zen

SureCream™ (Non-Ionic Cream Maker)
