คำถามเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรและส่วนผสมสำหรับก้านไม้หอม
คำถาม
สนใจสร้างแบรนด์ทำก้านไม้หอมขายค่ะ แต่มีข้อสงสัยเรื่องส่วนผสม:
ส่วนผสมที่ใช้
Diffuser base
type 1 หรือ 2 70% และน้ำมันหอมระเหย
30%:- ถ้าหากอยากให้
น้ำหอม
ระเหยช้าลง ควรใส่สารDPG
หรือ musk กี่เปอร์เซ็นต์คะ
- ถ้าหากอยากให้
สาร
Dipropylene glycol
(DPG) กับ Musk แตกต่างกันอย่างไรคะ (พอดีเท่าที่อ่านมา คล้ายกับเป็นสารลดแรงตึงผิวเช่นกัน) แล้วสารไหนเหมาะกับการทำก้านไม้หอมมากกว่ากันค่ะDiffuser base
กับReed Diffuser Base
เหมือนกันไหมคะ แล้วส่วนผสมของ base มีแอลกอฮอล์ไหมคะ อยากจะทำแบบไม่ติดไฟง่าย ปลอดภัยต่อผู้บริโภคค่ะเบกกิ้งโซดาเป็นสารช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ แล้วถ้าเราจะผสมลงไปในส่วนผสมของ
น้ำหอม
สามารถผสมลงไปได้ไหมคะ จะมีผลกระทบอะไรต่อส่วนผสมอื่นหรือการกระจายตัวของน้ำหอม
ไหมคะ
คำตอบ
คำถามเกี่ยวกับการทำก้านไม้หอม
นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการทำก้านไม้หอม:
1. การทำให้การระเหยช้าลงด้วย DPG หรือ Musk
เพื่อให้ส่วนผสมสำหรับก้านไม้หอมของคุณ (เบส 70%, น้ำหอม/น้ำมันหอมระเหย 30%) ระเหยช้าลง คุณสามารถเพิ่มสารช่วยตรึงกลิ่น (fixative) เช่น Dipropylene Glycol (DPG) หรือสารกลุ่มมัสก์บางชนิดได้
- Dipropylene Glycol (DPG): DPG ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายและสารช่วยตรึงกลิ่น ช่วยให้น้ำหอมระเหยช้าลงและติดทนนานขึ้น จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ DPG สามารถใช้ผสมกับน้ำหอมได้ในอัตราส่วน 1-100% ในการทำให้การระเหยในก้านไม้หอมช้าลง คุณสามารถเพิ่ม DPG ในสัดส่วนที่เหมาะสมลงในส่วนผสมเบสและน้ำหอมของคุณ ปริมาณที่แน่นอนขึ้นอยู่กับความเร็วในการระเหยที่ต้องการและชนิดของน้ำหอมที่ใช้ ซึ่งอาจต้องมีการทดลองปรับสัดส่วน
- Musk: สารเคมีกลุ่มมัสก์บางชนิดก็ทำหน้าที่เป็นสารช่วยตรึงกลิ่นและช่วยยืดอายุความหอมได้ อย่างไรก็ตาม มัสก์ยังเป็นส่วนประกอบของน้ำหอมเองด้วย ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดกลิ่นโดยรวม
2. ความแตกต่างระหว่าง DPG และ Musk สำหรับก้านไม้หอม
Dipropylene Glycol (DPG) และ Musk มีวัตถุประสงค์หลักที่แตกต่างกันในการผสมน้ำหอม แม้ว่าทั้งคู่จะทำหน้าที่เป็นสารช่วยตรึงกลิ่นได้ก็ตาม:
- Dipropylene Glycol (DPG): DPG เป็นหลักคือตัวทำละลายและตัวนำพาน้ำหอม บทบาทหลักในก้านไม้หอมคือการเจือจางน้ำหอมและช่วยให้น้ำหอมเคลื่อนที่ขึ้นไปตามก้านไม้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติเป็นสารช่วยตรึงกลิ่นที่ช่วยชะลออัตราการระเหยของน้ำหอม เป็นของเหลวที่ละลายน้ำหอมได้ดี
- Musk: มัสก์เป็นกลุ่มของสารเคมีอะโรมาติกที่ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นเฉพาะตัว (มักอธิบายว่าหวาน แป้ง หรือคล้ายกลิ่นสัตว์) และความสามารถในการเสริมและตรึงกลิ่นน้ำหอมอื่นๆ ทำให้กลิ่นโดยรวมติดทนนานขึ้น แม้ว่าจะมีคุณสมบัติช่วยตรึงกลิ่น แต่ก็ถูกเพิ่มเข้าไปเพื่อทั้งกลิ่นและการตรึงกลิ่น ในขณะที่ DPG ใช้เป็นหลักเพื่อการละลายและการควบคุมการระเหย
สำหรับก้านไม้หอม DPG เป็นตัวเลือกที่นิยมและมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะสำหรับการควบคุมอัตราการระเหยและช่วยให้น้ำหอมกระจายตัวผ่านก้านไม้ได้ดี มัสก์สามารถเพิ่มเข้าไปเพื่อกลิ่นและผลในการตรึงกลิ่นเพิ่มเติมได้ แต่ DPG ถูกใช้เป็นส่วนประกอบหลักของเบสเพื่อจัดการความเร็วในการระเหย ทั้ง DPG และมัสก์โดยทั่วไปไม่ได้จัดเป็นสารลดแรงตึงผิว (surfactants) DPG เป็นตัวทำละลายประเภทไกลคอล และมัสก์เป็นโมเลกุลของน้ำหอม
3. Diffuser Base กับ Reed Diffuser Base และปริมาณแอลกอฮอล์
"Diffuser base" และ "Reed Diffuser Base" โดยทั่วไปหมายถึงผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับก้านไม้เพื่อกระจายกลิ่น
เกี่ยวกับปริมาณแอลกอฮอล์ จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ Reed Diffuser Base (Type 1) ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ชนิดใดๆ, Dipropylene Glycol หรือ Propylene Glycol ทำให้เป็นตัวเลือกที่ติดไฟยากและปลอดภัยกว่าเมื่อเทียบกับเบสที่อาจมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
4. การเติมเบกกิ้งโซดาลงในส่วนผสมน้ำหอม
ไม่แนะนำ ให้เติมเบกกิ้งโซดา (โซเดียมไบคาร์บอเนต) ลงในส่วนผสมน้ำหอมสำหรับก้านไม้หอมของคุณ
- เบกกิ้งโซดาเป็นผงของแข็ง ซึ่งจะไม่ละลายอย่างเหมาะสมในของเหลวสำหรับก้านไม้หอมที่เป็นเบสน้ำมันหรือไกลคอล จะทำให้ส่วนผสมขุ่นและอาจอุดตันก้านไม้ ทำให้การกระจายกลิ่นไม่ดี
- เบกกิ้งโซดามีความเป็นด่าง การเติมลงในส่วนผสมน้ำหอมอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีที่ไม่พึงประสงค์กับส่วนประกอบของน้ำหอม ทำให้กลิ่นเปลี่ยนไปหรือเสื่อมสภาพได้
เบกกิ้งโซดามีประสิทธิภาพในการดูดซับกลิ่นในรูปแบบแห้ง แต่ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานกับน้ำหอมที่เป็นของเหลว เช่น ก้านไม้หอม
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Dipropylene glycol

Musk Ketone

Cosmone
