คำถามเกี่ยวกับสารไวท์เทนนิ่ง สารสร้างเนื้อครีม ซิลิโคน และการกำหนดสูตร

ข้อมูลเกี่ยวกับคำถามของคุณเกี่ยวกับการกำหนดสูตรเครื่องสำอางมีดังนี้:

1. ความเข้ากันได้และความคล้ายคลึงของสารไวท์เทนนิ่ง

สารไวท์เทนนิ่งหลายชนิดที่คุณระบุสามารถนำมาผสมรวมกันในสูตรเดียวกันได้ ในขณะที่บางชนิดมีกลไกการทำงานหรือโครงสร้างที่คล้ายคลึงกัน

• การผสมที่เข้ากันได้:

  • Ethyl Ascorbic Acid โดยทั่วไปสามารถผสมรวมกับ MSH White Absorb™ และ N-Acetyl Glucosamine ได้ ควรหลีกเลี่ยงการผสมกับ Vitamin B3 หรือ Zinc PCA
  • Alpha Arbutin สามารถผสมรวมกับ MSH White Absorb™, Vitamin C, Vitamin B3 และ N-Acetyl Glucosamine ได้
  • MSH White Absorb™ ทำงานผ่านกลไกที่แตกต่างกัน (ลด Alpha-MSH) จากสารไวท์เทนนิ่งอื่นๆ และมักจะสามารถผสมรวมกับส่วนผสมต่างๆ เช่น Vitamin C, Vitamin B3 และ N-Acetyl Glucosamine เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับผิวให้ขาวกระจ่างใสโดยรวม
  • Activated Resorcinol™ สามารถใช้ร่วมกับ Vitamin B3 และ N-Acetyl Glucosamine ได้
  • Sym-White™ (Phenylethyl Resorcinol) เข้ากันได้ดีกับ Vitamin C, Niacinamide (Vitamin B3), Kojic Acid และสารกันแดด
  • ODA-White Plus™ สามารถรวมอยู่ในสูตรครีมหรือโลชั่นที่ใช้สารสร้างเนื้อครีมแบบน้ำ-น้ำมัน และสามารถผสมรวมกับสารไวท์เทนนิ่งอื่นๆ ได้

• โครงสร้างและกลไกที่คล้ายคลึงกัน:

  • Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol) และ Sym-White™ (Phenylethyl Resorcinol) เป็นอนุพันธ์ของ Resorcinol และทำงานหลักโดยการยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการผลิตเม็ดสี Activated Resorcinol มีข้อสังเกตว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า Alpha Arbutin ในขณะที่ Sym-White มีข้อสังเกตว่ามีประสิทธิภาพมากกว่า Kojic Acid และ Alpha Arbutin ในการทดสอบในห้องปฏิบัติการ เนื่องจากกลไกที่คล้ายคลึงกัน คุณอาจเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งแทนที่จะใช้ทั้งสองอย่าง ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพที่คุณต้องการและข้อกำหนดความเข้ากันได้ของสูตร (เช่น ช่วง pH และความเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ)
  • ส่วนผสมอื่นๆ ที่ทำงานหลักโดยการยับยั้ง Tyrosinase ได้แก่ Alpha Arbutin, Ethyl Ascorbic Acid และ ODA-White Plus™ แม้ว่าจะมีเป้าหมายที่เอนไซม์เดียวกัน แต่โครงสร้างทางเคมีและสภาวะการกำหนดสูตรที่เหมาะสม (เช่น pH และความสามารถในการละลาย) แตกต่างกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อวิธีการใช้และการผสม

2. สารสร้างเนื้อครีมทางเลือกแทน Light Cream Maker™

หากคุณกำลังมองหาสารสร้างเนื้อครีมที่ใช้งานง่าย คล้ายกับ Light Cream Maker™ ลองพิจารณาตัวเลือกเหล่านี้:

• Easy Cream Maker™: สารสร้างเนื้อครีมนี้สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องใช้ความร้อน (กระบวนการเย็น) ทำให้ผสมได้ง่ายมาก อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถทนต่ออิเล็กโทรไลต์ (เกลือ สารสกัดจากธรรมชาติบางชนิด) และสามารถรวมน้ำมันในสูตรได้สูงสุด 10% เท่านั้น มีแนวโน้มที่จะให้เนื้อครีมที่หนักกว่า Light Cream Maker™ เล็กน้อย และมีราคาถูกกว่า
• Light Lotion Maker: สารสร้างเนื้อครีมนี้ได้รับการรับรอง ECOCERT และสามารถใช้กับกระบวนการเย็นได้ สามารถรวมน้ำมันได้สูงสุด 40% และให้เนื้อสัมผัสที่บางเบา เหมาะสำหรับสูตรที่เป็นสเปรย์ได้

ตัวเลือกอื่นๆ เช่น Soft Cream Maker™ และ Milk Lotion Maker™ ต้องใช้ความร้อนในระหว่างกระบวนการผสม ซึ่งอาจไม่สะดวกเท่าหากคุณต้องการวิธีที่ง่ายที่สุด Velvet Cream Maker™ ละลายในน้ำมันและให้ความรู้สึกแบบแมตต์

3. การลดความเหนอะหนะของครีม (ปราศจากซิลิโคน)

เพื่อลดความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะของครีมและให้ผิวสัมผัสที่แห้ง ซึมง่าย โดยไม่ใช้ซิลิโคน ลองพิจารณาเพิ่มสารให้ความนุ่มลื่น (emollients) ที่ให้ความรู้สึกบางเบาและซึมซาบเร็ว:

• LipidSoft™ Moist: สารให้ความนุ่มลื่นนี้ออกแบบมาเพื่อให้ความชุ่มชื้นที่ดีโดยไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะหรือหนักผิว มีเนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่าย และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมัน
• LipidSoft™ B: มักใช้ในสูตรกันแดด สารให้ความนุ่มลื่นนี้ขึ้นชื่อว่าเกลี่ยง่าย แห้งเร็ว ให้สัมผัสที่เรียบเนียน บางเบา และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน

สารให้ความนุ่มลื่นเหล่านี้สามารถช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสของครีม ทำให้ไม่เหนอะหนะและสบายผิวมากขึ้น

4. การใช้ซิลิโคนหากไม่มีอาการแพ้

หากคุณเคยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของซิลิโคนในอดีตโดยไม่มีอาการแพ้ใดๆ โดยทั่วไปแสดงว่าคุณไม่ไวต่อซิลิโคนชนิดเฉพาะที่อยู่ในผลิตภัณฑ์เหล่านั้น คุณน่าจะสามารถใช้ซิลิโคนเป็นส่วนผสมในสูตรเครื่องสำอางของคุณเองได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าความไวของผิวแต่ละบุคคลสามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเวลาผ่านไป และบางครั้งอาจเกิดอาการแพ้ได้เมื่อใช้ความเข้มข้น ชนิดของซิลิโคน หรือการผสมผสานของส่วนผสมที่แตกต่างกัน ควรทดสอบกับผิวบริเวณเล็กๆ ก่อนเสมอเมื่อใช้สูตรใหม่หากคุณมีความกังวล

5. การใช้ซิลิโคนในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเทียบกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว (ความถูกต้องของบทความ)

ข้อความในบทความที่ระบุว่าควรหลีกเลี่ยงซิลิโคนในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมอย่างเด็ดขาด (โดยเฉพาะบนหนังศีรษะ) แต่ยอมรับได้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางชนิด (เช่น ครีมกันแดด รองพื้น หรือทาเป็นขั้นตอนสุดท้าย) เป็นการสรุปที่ง่ายเกินไปและไม่ถูกต้องทั้งหมด

• ซิลิโคนมีหลายชนิดที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ซิลิโคนบางชนิดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม โดยเฉพาะบางชนิดในครีมนวดผมหรือผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม สามารถสะสมบนเส้นผมและหนังศีรษะเมื่อเวลาผ่านไป หากไม่สามารถล้างออกได้ง่ายด้วยแชมพู การสะสมนี้อาจนำไปสู่ปัญหาสำหรับบางคน โดยเฉพาะบนหนังศีรษะ
• อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ซิลิโคนทุกชนิดที่ทำให้เกิดการสะสมอย่างมีนัยสำคัญ และหลายชนิดสามารถล้างออกได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการทำความสะอาดที่เหมาะสม ข้อกังวลอยู่ที่ ชนิด ของซิลิโคนและ รูปแบบของผลิตภัณฑ์ (เช่น ผลิตภัณฑ์บำรุงหนังศีรษะแบบไม่ต้องล้างออก เทียบกับครีมนวดผมแบบล้างออก)
• สำหรับผิว ซิลิโคนถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ไพรเมอร์ ครีมกันแดด และรองพื้น เนื่องจากความสามารถในการให้ความรู้สึกเรียบเนียน เติมเต็มริ้วรอยเล็กๆ และปรับปรุงการเกลี่ยของผลิตภัณฑ์และความสามารถในการกันน้ำ ตราบใดที่บุคคลนั้นไม่ประสบปัญหาการระคายเคืองหรือความไว การใช้ซิลิโคนในการดูแลผิวโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการให้คุณสมบัติทางเนื้อสัมผัสและประสิทธิภาพบางอย่าง
• นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมที่ไม่ใช่ซิลิโคนซึ่งสามารถให้คุณสมบัติการปรับสภาพและทำให้ผมนุ่มลื่นคล้ายคลึงกันในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ซึ่งเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงซิลิโคนหรือเคยประสบปัญหาการสะสม

โดยสรุป ปัญหาเกี่ยวกับซิลิโคน โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม มีความซับซ้อนมากกว่ากฎการหลีกเลี่ยงแบบครอบคลุม ขึ้นอยู่กับซิลิโคนชนิดเฉพาะ ประเภทของผลิตภัณฑ์ และความทนทานส่วนบุคคลและพฤติกรรมการทำความสะอาด