คำถามเกี่ยวกับสูตรน้ำหอมสเปรย์ฉีดพ่นกาย การระคายเคือง และความติดทนของกลิ่น

ถามโดย: maigonix เมื่อ: September 04, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีคำถามเกี่ยวกับสูตรน้ำหอมสเปรย์ฉีดพ่นกายดังนี้ค่ะ:

1. จำเป็นต้องใช้ Flora Fix และ Last Fix ร่วมกันในสูตรเพื่อช่วยให้น้ำหอมติดทนนานหรือไม่คะ?
2. หลังจากฉีดสเปรย์แล้วรู้สึกผ่าวๆ และมีรอยแดงบริเวณผิว อาการนี้เกิดจากอัตราส่วนของแอลกอฮอล์ หรือมีแนวโน้มสูงกว่าที่จะเกิดจาก Tea Tree Oil ที่ใส่ไป 5% ในหัวน้ำหอม (คิดเป็น 1.5% ในสเปรย์สำเร็จรูป) คะ?
3. เวลาผสมหัวน้ำหอม รู้สึกว่าความเข้มข้นของกลิ่นในส่วนประกอบแต่ละชนิดแตกต่างกันมาก แม้จะใช้ Fresh Melon ในสัดส่วนที่สูงกว่า แต่กลิ่นที่แรงกว่าอย่าง Tea Tree Oil ก็สามารถกลบกลิ่นอื่นได้ง่าย เป็นเรื่องปกติไหมคะที่ความเข้มข้นของกลิ่นแต่ละตัวจะต่างกันมาก และจะศึกษาเรื่องการผสมน้ำหอมและความแรงของกลิ่นให้เข้าใจมากขึ้นได้อย่างไรคะ?
4. Tea Tree Oil มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ สามารถนำมาใช้กับแผลสดหรือแผลที่กำลังสมาน เช่น บริเวณที่เจาะหู ได้หรือไม่คะ?
5. ส่วนประกอบน้ำหอมที่อยู่ในรูปผง โดยทั่วไปแล้วจะมีอัตราการระเหยช้ากว่าของเหลว ทำให้กลิ่นติดทนบนผิวได้นานกว่าใช่ไหมคะ?

คำตอบ

คำถามเกี่ยวกับการผสมน้ำหอมสเปรย์

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการผสมน้ำหอมสเปรย์:

1. การใช้ Flora Fix และ Last Fix ร่วมกัน

จากข้อมูล การใช้ Flora Fix และ Last Fix ร่วมกันในสูตรสเปรย์ฉีดพ่นกายของคุณนั้นไม่จำเป็น โดยทั่วไปแล้ว Last Fix มีประสิทธิภาพในการช่วยให้น้ำหอมติดทนนานได้ดีกว่า Flora Fix การใช้ทั้งสองตัวร่วมกันจะไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับการใช้ Last Fix เพียงอย่างเดียว

2. อาการระคายเคืองผิว

อาการรู้สึกผ่าวๆ และรอยแดงบริเวณผิวหลังจากฉีดน้ำหอมสเปรย์ มีแนวโน้มสูงว่าเกิดจาก Tea Tree Oil ในสูตรของคุณ ไม่ใช่อัตราส่วนของแอลกอฮอล์ Tea Tree Oil โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเข้มข้นที่คุณใช้ (5% ในหัวน้ำหอม ซึ่งเท่ากับ 1.5% ในสเปรย์สำเร็จรูป) สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้สูง อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ Tea Tree Oil บนผิวตัวคือ 0.1-1% และไม่เกิน 0.5% สำหรับผิวหน้า

3. การผสมน้ำหอมและความแรงของกลิ่น

เป็นเรื่องปกติที่ความเข้มข้นของกลิ่นในส่วนประกอบน้ำหอมแต่ละชนิดจะแตกต่างกันมาก แม้ว่าคุณจะใช้ Fresh Melon ในสัดส่วนที่สูงกว่า แต่กลิ่นที่แรงกว่าอย่าง Tea Tree Oil ก็สามารถกลบกลิ่นอื่นได้ง่าย แม้จะใช้ในความเข้มข้นที่ต่ำกว่าก็ตาม การผสมน้ำหอมมีความซับซ้อนและต้องอาศัยการฝึกฝนและการทดสอบอย่างต่อเนื่องเพื่อทำความเข้าใจว่าสารเคมีต่างๆ มีปฏิกิริยาและสมดุลกันอย่างไร การศึกษาเคมีน้ำหอมสามารถช่วยได้ สำหรับแหล่งเรียนรู้ คุณอาจลองติดต่อที่ บริษัท Perfumersworld

4. การใช้ Tea Tree Oil กับแผล

แม้ว่า Tea Tree Oil จะมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อ แต่ไม่แนะนำอย่างยิ่งให้ใช้กับแผลสดหรือแผลที่กำลังสมาน เช่น บริเวณที่เจาะหู Tea Tree Oil สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวอย่างรุนแรง และการระคายเคืองนี้จะรุนแรงยิ่งขึ้นบนผิวที่เสียหายหรือกำลังฟื้นตัว การใช้กับแผลอาจขัดขวางกระบวนการสมานแผลและก่อให้เกิดความไม่สบายหรืออาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ

5. ความทนทานของส่วนประกอบน้ำหอมที่เป็นผง

ใช่ โดยทั่วไปแล้ว ส่วนประกอบน้ำหอมที่อยู่ในรูปผงมักจะมีอัตราการระเหยช้ากว่าของเหลว การระเหยที่ช้าลงนี้หมายความว่ากลิ่นจะติดทนบนผิวได้นานกว่า แม้ว่าความเข้มข้นเริ่มต้นอาจจะอ่อนกว่าส่วนประกอบที่เป็นของเหลวที่ระเหยง่ายกว่าก็ตาม

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Tea Tree Oil (Extra Grade)
Tea Tree Oil (Extra Grade)
เครื่องสำอาง
Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade)
Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade)
เครื่องสำอาง
Coumarin
Coumarin
เครื่องสำอาง
Fresh Melon
Fresh Melon
เครื่องสำอาง
Jasmine Petal
Jasmine Petal
เครื่องสำอาง
Cool Summer Citrus
Cool Summer Citrus
เครื่องสำอาง