คำแนะนำการทำสเปรย์ดับกลิ่นเท้า

จากสูตรสเปรย์ดับกลิ่นเท้าที่คุณเสนอมา:

• Anti-Sweat™ (Aluminum Chlorohydrate) 15%
• Odor-Kill™ (ละลายน้ำ) 1%
• DeoMax™ Liquid 1%
• Mild Preserve Eco 1%
• น้ำ ส่วนที่เหลือถึง 100%

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณ:

1. วิธีการผสม

การเขย่าส่วนผสมให้เข้ากันเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ

• Anti-Sweat™ เป็นผงที่ต้องละลายในน้ำ ที่ความเข้มข้น 15% จำเป็นต้องมีการปั่นหรือคนให้เข้ากันอย่างทั่วถึงเพื่อให้ละลายและกระจายตัวได้ดี อาจมีลักษณะขุ่นในตอนแรกและอาจใช้เวลาถึง 24 ชั่วโมงจึงจะใสขึ้น
• Odor-Kill™ เป็นผงที่ละลายน้ำได้เช่นกัน และต้องปั่นหรือคนจนกว่าจะละลายในส่วนของน้ำ หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 50°C
• Mild Preserve Eco ละลายในน้ำ แต่จะใสขึ้นเมื่อปั่นประมาณ 5 นาที

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้ปั่นหรือคนส่วนผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึงแทนการเขย่าเพียงอย่างเดียว ลำดับการผสมที่แนะนำคือ ละลาย Anti-Sweat™ ในน้ำก่อน จากนั้นเติม DeoMax™ Liquid และ Mild Preserve Eco (พร้อมปั่นให้เข้ากันดี) และสุดท้ายเติม Odor-Kill™ (ปั่นเบาๆ หลีกเลี่ยงความร้อน)

2. ประสิทธิภาพในการดับกลิ่นเท้าและการปรับปรุง

สูตรนี้มีส่วนผสมที่ช่วยทั้งลดเหงื่อและดับกลิ่น จึงมีศักยภาพที่ดีในการดับกลิ่นเท้า

• Anti-Sweat™ ช่วยลดเหงื่อ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกลิ่น
• Odor-Kill™ และ DeoMax™ Liquid เป็นสารดับกลิ่นที่ช่วยกำจัดหรือดูดซับกลิ่นที่มีอยู่
• Mild Preserve Eco ทำหน้าที่เป็นสารกันเสียและยังมีคุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่น

ความเข้มข้นที่คุณเลือกใช้อยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับส่วนผสมเหล่านี้

ข้อแนะนำในการปรับปรุงเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด:

• ค่า pH: Aluminum Chlorohydrate ทำงานได้ดีที่สุดในสภาพแวดล้อมที่เป็นกรดเล็กน้อย โดยทั่วไปคือ pH 4-6 ควรตรวจสอบค่า pH ของส่วนผสมสุดท้ายและปรับให้อยู่ในช่วงนี้หากจำเป็น
• ความคงตัว: พิจารณาเพิ่ม Disodium EDTA 0.1-0.2% ในส่วนของน้ำ ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุงความคงตัวและความใสของสูตรที่มี Aluminum Chlorohydrate
• ความรู้สึกบนผิว: สูตรของคุณใช้น้ำในปริมาณสูงเมื่อเทียบกับ Anti-Sweat™ ซึ่งอาจทำให้ผลิตภัณฑ์รู้สึกเปียกบนผิวเมื่อเทียบกับสูตรที่มีน้ำน้อยกว่า หรือสูตรที่ใช้แอลกอฮอล์หรือซิลิโคนเป็นเบส ซึ่งออกแบบมาให้รู้สึกแห้งกว่า

โดยรวมแล้ว สูตรนี้น่าจะมีประสิทธิภาพที่ดี แต่การตรวจสอบและปรับค่า pH รวมถึงการเพิ่ม Disodium EDTA สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคงตัวได้

3. อายุการเก็บรักษา

อายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงส่วนผสมที่ใช้ ระบบสารกันเสีย และสภาพการเก็บรักษา

สูตรของคุณมี Mild Preserve Eco ในความเข้มข้นที่เหมาะสม (1%) สำหรับผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ซึ่งทำหน้าที่เป็นสารกันเสียเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์

เมื่อพิจารณาจากส่วนผสมและการมีสารกันเสีย โดยทั่วไปแล้ว คุณสามารถคาดหวังอายุการเก็บรักษาได้อย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี หากเก็บรักษาอย่างถูกต้อง

เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากคำแนะนำสำหรับ DeoMax™ Liquid การเก็บสเปรย์ที่ผสมเสร็จแล้วไว้ในที่เย็น ห่างจากแสงแดดและความร้อนโดยตรง (การแช่เย็นจะดีที่สุดถ้าทำได้) จะช่วยรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ไว้ได้

สำหรับผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ จำเป็นต้องมีการทดสอบ Challenge Test อย่างเป็นทางการเพื่อกำหนดอายุการเก็บรักษาที่แม่นยำและเพื่อให้แน่ใจว่าระบบสารกันเสียมีประสิทธิภาพเต็มที่.