คำถามเกี่ยวกับสูตรเจล: การผสม ความคงตัว และความเหนอะหนะ
คำถาม
ดิฉันมีสูตรเจลที่มีส่วนผสมดังนี้ค่ะ:
Past A
DI Water 62.8%
Disodium EDTA 0.2%
Safe-B3 5%
GlucoBright 4%
Wrinkle-Lax 0.5%
Panthenol (Pro Vitamin B5 )2%
Rose (Rosa Damascena) Extract 5%
Quick-Coll 2%
ActiveProtec OX 1%
Pep-Coll 3%
Pro Polymer 1.5%
Past B
Activated Resorcinol 1%
MSH White 1%
Ultra Solve HPS 5%
Past C
DMAE 5%
Mild Preserved Eco 1%
(ต้องการเนื้อสูตรเป็นเจลใสเกลี่ยง่ายโดยหลีกเสี่ยงส่วนผสมที่เป็นน้ำมันเนื่องจากเป็นคนที่มีผิวมันอยู่แล้วค่ะ)
คำถามของดิฉันคือ:
- สูตรสามารถผสมได้ไหม (ใช้มือผสม)
- สูตรสามารถคงตัวได้ดีไหม
- สูตรที่ได้มีจะมีความเหนอะหนะหรือเปล่า
- ทีมงานมีข้อแนะนำปรับเพิ่มหรือลดส่วนไหนในสูตรหรือไม่
คำตอบ
การวิเคราะห์สูตรและคำแนะนำ
สูตรนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นเจลเนื้อน้ำ ซึ่งตรงกับความต้องการของคุณที่ต้องการหลีกเลี่ยงน้ำมันสำหรับผิวหน้ามัน สูตรประกอบด้วยส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิดที่ช่วยดูแลปัญหาต่างๆ เช่น ริ้วรอย ความกระจ่างใส และความชุ่มชื้น พร้อมด้วยสารขึ้นเนื้อเจล สารคีเลต สารช่วยละลาย สารต้านอนุมูลอิสระ และสารกันเสีย
นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณ:
1. สูตรสามารถผสมด้วยมือได้หรือไม่?
การผสมด้วยมือ สามารถทำได้แต่ไม่เหมาะสม สำหรับสูตรนี้ ความท้าทายหลักคือการละลาย Pro Polymer
ให้เข้ากันดีจนเป็นเนื้อเจลที่เรียบเนียน และการละลายส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน (Activated Resorcinol
, MSH White
) โดยใช้ Ultra Solve HPS
ให้มีประสิทธิภาพ
- Pro Polymer: สารขึ้นเนื้อเจลนี้ต้องการการกระจายตัวและการดูดซับน้ำอย่างทั่วถึงเพื่อให้ได้เนื้อเจลที่สม่ำเสมอ การคนด้วยมือจะใช้เวลานานและต้องออกแรงมากเมื่อเทียบกับการใช้เครื่องผสม คำอธิบายผลิตภัณฑ์แนะนำให้ทิ้งไว้ให้ดูดซับน้ำเต็มที่เป็นเวลาหนึ่งวันหลังจากการกระจายตัวครั้งแรก หากไม่ได้ใช้เครื่องผสมความเร็วสูง
- Activated Resorcinol และ MSH White: สารเหล่านี้เป็นผงที่ต้องละลายใน
Ultra Solve HPS
โดยอาจใช้ความร้อนอ่อนๆ (ประมาณ 80°C ตามคำอธิบายของMSH White
) ก่อนนำไปผสมกับส่วนของน้ำ การทำให้ละลายหมดและเข้ากันดีด้วยมืออาจเป็นเรื่องยาก
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในด้านเนื้อสัมผัสและความคงตัว แนะนำอย่างยิ่ง ให้ใช้เครื่องผสมแบบกลไกความเร็วต่ำ (เช่น เครื่องปั่นมือถือ หรือเครื่องกวนแบบตั้งโต๊ะ) โดยเฉพาะในขั้นตอนการขึ้นเนื้อเจลและการละลายสารที่ละลายในน้ำมัน
2. สูตรสามารถคงตัวได้ดีหรือไม่?
ความคงตัวของสูตรนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการผสมและเทคนิคการทำสูตรที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก
- ความเข้ากันได้ของส่วนผสม: ส่วนผสมส่วนใหญ่ละลายในน้ำและเข้ากันได้ดี อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการขึ้นเนื้อเจลของ
Pro Polymer
อาจได้รับผลกระทบจากอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งสูตรนี้มีอิเล็กโทรไลต์หลายชนิด (Disodium EDTA
,ActiveProtec OX
, ส่วนประกอบในQuick-Coll
) แม้ว่าPro Polymer
จะทนทานต่ออิเล็กโทรไลต์ได้ดี แต่ผลกระทบโดยรวมที่ความเข้มข้นเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการทดสอบ - การละลาย: การทำให้
Activated Resorcinol
และMSH White
ละลายหมดและเข้ากันดีกับUltra Solve HPS
ก่อนนำไปผสมกับส่วนของน้ำเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง การละลายที่ไม่สมบูรณ์อาจทำให้เกิดการตกตะกอนหรือการแยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไป - ความไวต่อแสง:
Activated Resorcinol
ไวต่อแสงและอาจทำให้สูตรเปลี่ยนสีได้ มีการใส่ActiveProtec OX
เพื่อช่วยป้องกันปัญหานี้ แต่ แนะนำอย่างยิ่ง ให้บรรจุผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในภาชนะทึบแสงเพื่อรักษาความคงตัวของสีในระยะยาว - การกันเสีย:
Mild Preserved Eco
ทำหน้าที่เป็นสารกันเสีย ซึ่งจำเป็นต่อความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์และอายุการเก็บรักษา
โดยรวมแล้ว แม้ว่าส่วนผสมจะมีความคงตัวที่ดี แต่ความคงตัวของสูตรสำเร็จรูป (ความหนืด ลักษณะปรากฏ ประสิทธิภาพ) จำเป็นต้องได้รับการยืนยันผ่านการทดสอบความคงตัวที่เหมาะสม (เช่น การสังเกตการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไปที่อุณหภูมิต่างๆ)
3. สูตรที่ได้มีจะมีความเหนอะหนะหรือเปล่า?
ใช่ สูตรที่ได้ มีแนวโน้มที่จะมีความเหนอะหนะอยู่บ้าง โดยเฉพาะสำหรับผิวหน้ามัน
- Pro Polymer: ที่ความเข้มข้น 1.5%
Pro Polymer
อาจทำให้รู้สึกเหนียวหรือเหมือนมีฟิล์มเคลือบ โดยเฉพาะในช่วง 30 วินาทีแรกหลังทา ตามที่ระบุในคำอธิบาย - Panthenol: แม้ว่า
Panthenol
2% จะอยู่ในช่วงการใช้งานปกติ แต่ความเข้มข้นที่สูงขึ้น (มากกว่า 5%) อาจทำให้รู้สึกรู้สึกเหนียวได้ 2% อาจเพิ่มความรู้สึกโดยรวมเล็กน้อย - DMAE: ที่ความเข้มข้น 5%
DMAE
อยู่ที่ขีดจำกัดสูงสุดของอัตราการใช้งานที่แนะนำ ก่อนที่มันจะทำให้รู้สึก "เหนอะหนะมาก" ตามคำอธิบาย นี่คือส่วนผสมที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะทำให้เกิดความเหนอะหนะที่คุณต้องการหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะบนผิวหน้ามัน
การใช้ Pro Polymer
ร่วมกับ DMAE
5% ทำให้มีโอกาสสูงที่สูตรจะรู้สึกเหนอะหนะ
4. ทีมงานมีข้อแนะนำปรับเพิ่มหรือลดส่วนไหนในสูตรหรือไม่?
จากเป้าหมายของคุณที่ต้องการเจลใส เกลี่ยง่าย ไม่เหนอะหนะ สำหรับผิวหน้ามัน นี่คือคำแนะนำบางประการสำหรับการปรับสูตร:
- ลดความเข้มข้นของ DMAE: ความเข้มข้น 5% ของ
DMAE
เป็นสาเหตุหลักที่น่าจะทำให้เกิดความเหนอะหนะ พิจารณาลดDMAE
ลงเหลือ 3% (อัตราการใช้งานที่แนะนำ) หรือต่ำกว่านั้น (เช่น 1-2%) เพื่อลดความเหนอะหนะลงอย่างมาก คุณยังคงได้รับประโยชน์ในการยกกระชับผิวที่ความเข้มข้นต่ำลงได้ แม้ว่าผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนเท่าหรือใช้เวลานานขึ้น - ปรับความเข้มข้นของ Pro Polymer ให้เหมาะสม: แม้ว่า 1.5% อาจจำเป็นเพื่อให้ได้ความหนืดของเจลที่ต้องการและจัดการกับอิเล็กโทรไลต์ได้ หากการลด
DMAE
ช่วยให้เนื้อสัมผัสโดยรวมดีขึ้น คุณอาจพิจารณาลดPro Polymer
ลงเล็กน้อย (เช่น 1.0-1.2%) หากเนื้อเจลข้นหรือเหนียวเกินไป อย่างไรก็ตาม ต้องแน่ใจว่าความเข้มข้นที่ลดลงยังคงให้ความหนืดและความคงตัวที่เพียงพอ - ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผสมอย่างถูกต้อง: ใช้เครื่องผสมแบบกลไก (เครื่องปั่นมือถือ หรือเครื่องกวนแบบตั้งโต๊ะ) เพื่อให้แน่ใจว่า
Pro Polymer
ดูดซับน้ำเต็มที่ และส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน (Activated Resorcinol
,MSH White
) ละลายหมดในUltra Solve HPS
ก่อนนำไปผสมกับส่วนของน้ำ ปฏิบัติตามคำแนะนำการผสมสำหรับPro Polymer
(ค่อยๆ โปรยลงในน้ำที่กำลังกวน หลีกเลี่ยงการใช้ความเร็วสูง) และสำหรับการละลายActivated Resorcinol
/MSH White
ในUltra Solve HPS
(อาจใช้ความร้อนอ่อนๆ) - ตรวจสอบและปรับค่า pH: หลังจากผสมส่วนผสมทั้งหมดแล้ว ให้ตรวจสอบค่า pH ของสูตรสำเร็จรูป ส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิด (
Safe-B3
,GlucoBright
,Activated Resorcinol
,Rose Extract
) และสารกันเสีย (Mild Preserved Eco
) ทำงานได้ดีที่สุดหรือมีความคงตัวมากกว่าในช่วง pH ที่กำหนด (โดยทั่วไปคือกรดอ่อนๆ ถึงกลางๆ ประมาณ pH 4.5-7.0) โดยเฉพาะActivated Resorcinol
ชอบ pH 4.5-5.5 ปรับค่า pH หากจำเป็นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคงตัว - พิจารณา Rose Extract: คำอธิบายสำหรับ
Rose (Rosa Damascena) Extract
ระบุว่าส่วนใหญ่ใช้เพื่อกลิ่น/การตลาด และยังไม่มีการวิจัยที่พิสูจน์ประสิทธิภาพต่อผิว หากคุณเน้นที่ประสิทธิภาพเพียงอย่างเดียว คุณอาจพิจารณาตัดส่วนผสมนี้ออก หรือแทนที่ด้วยสารสกัดธรรมชาติที่มีการวิจัยรองรับ หรือคงไว้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านความหอมหากต้องการ แต่ควรเข้าใจว่าบทบาทของมันอาจไม่ได้ออกฤทธิ์ต่อผิวโดยตรง
การลดความเข้มข้นของ DMAE
และการใช้เทคนิคการผสมที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณได้เนื้อเจลที่เหนอะหนะน้อยลง ซึ่งเหมาะสมกับผิวหน้ามันมากขึ้น ในขณะที่ยังคงได้รับประโยชน์จากส่วนผสมออกฤทธิ์อื่นๆ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Disodium EDTA

Pro Polymer™ (Gel Maker)

Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol)

DMAE (SkinTight MD™) Liquid

MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

Wrinkle-Lax™ คลายริ้วรอย

Quick-Coll®

Rose (Rosa Damascena) Extract สารสกัดกุหลาบมอญ

D-Panthenol Care (Pro-Vitamin B5, 100% Liquid)

Ultra Solve™
