คำแนะนำการปรับสูตรและขั้นตอนการบำรุงผิวสำหรับผิวผสม มีสิวและริ้วรอย
คำถาม
ลักษณะผิวของดิฉันคือผิวผสม ขาดน้ำ เก็บความชุ่มชื่นไม่ค่อยดี เริ่มมีริ้วรอยบ้าง มีความมันบริเวณทีโซนเล็กน้อย มีสิวเสี้ยนเม็ดเล็กๆ บริเวณจมูกและช่วงคาง ลักษณะของโทนเนอร์ที่ต้องการคือ เช็ดแล้วชุ่มชื่นผิว ไม่เหนอะหนะ
1. ไม่ทราบว่าจะพิจารณาเติม `Encapsulated Salicylic Acid (Timed Release BHA)` แทนดีไหม หรือไม่ต้องผสม แต่เอาไปใส่ในสูตรล้างหน้าลดสิวอุดตันแทน
2. ขั้นตอนบำรุงผิวตอนกลางคืนคือ หลังการล้างหน้า ต้องการเช็ดโทนเนอร์ + `Vitamin C E Ferulic` ถ้าทาไนท์ครีมตาม ควนเว้นช่วงไว้กี่นาทีคะ และตัวไนท์ครีมไม่ควรมีส่วนผสมของ `Vitamin B3 (Niacinamide)` ใช่ไหมคะ
คำตอบ
คำแนะนำการปรับสูตรสำหรับผิวผสม ขาดน้ำ มีริ้วรอยเล็กน้อย และสิวเสี้ยน
จากลักษณะผิวของคุณ (ผิวผสม ขาดน้ำ มีริ้วรอยเล็กน้อย และสิวเสี้ยนเล็กๆ) และคำถามเกี่ยวกับการเพิ่ม BHA และขั้นตอนการบำรุงผิวตอนกลางคืน มีคำแนะนำดังนี้ค่ะ:
การเพิ่ม BHA (Salicylic Acid) ในโทนเนอร์ของคุณ
โดยทั่วไป ไม่แนะนำ ให้เพิ่ม Encapsulated Salicylic Acid ลงในสูตรโทนเนอร์ที่คุณใช้อยู่ เนื่องจาก Salicylic Acid อาจทำให้ค่า pH ของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจส่งผลต่อความเสถียรและลดประสิทธิภาพของส่วนผสมบางอย่างในโทนเนอร์เดิมของคุณได้ค่ะ
หากคุณต้องการใช้ BHA เพื่อจัดการกับสิวเสี้ยนเล็กๆ แนะนำให้ทำ BHA Toner สำหรับเช็ดแล้วล้างออกแยกต่างหาก โดยผสม Encapsulated Salicylic Acid กับ น้ำกลั่นบริสุทธิ์ ใช้เช็ดบริเวณที่มีปัญหา (เช่น จมูกและคาง) ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วจึงล้างออก ปรับความถี่และระยะเวลาในการใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปริมาณสิวเสี้ยนค่ะ
ขั้นตอนการบำรุงผิวตอนกลางคืน
ขั้นตอนปัจจุบันที่คุณใช้โทนเนอร์ตามด้วย Vitamin C E Ferulic เป็นวิธีที่ดีสำหรับการดูแลเรื่องริ้วรอยและให้ประโยชน์ด้านสารต้านอนุมูลอิสระค่ะ
หากคุณต้องการทาไนท์ครีมหลังจากลง Vitamin C E Ferulic แนะนำให้เว้นช่วงเวลาอย่างน้อย 30 นาที ก่อนทาครีม เพื่อให้เซรั่มซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างเหมาะสมค่ะ
สำหรับส่วนผสมในไนท์ครีม ไม่ควรมีส่วนผสมของ Vitamin B3 (Niacinamide) หากใช้ร่วมในขั้นตอนเดียวกันกับ Vitamin C E Ferulic เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนการทำงานหรือลดประสิทธิภาพระหว่างส่วนผสมเหล่านี้เมื่อใช้ร่วมกันค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin C E Ferulic

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
