คำถาม

สวัสดีค่ะ ต้องการคำแนะนำในการปรับสูตรผลิตภัณฑ์ 3 ชนิดที่มีส่วนผสมดังนี้ค่ะ

สูตรครีมกลางคืน:
ต้องการใส่สารสกัดดังต่อไปนี้ในสูตรครีมกลางคืน ขอคำแนะนำว่าสมควรใช้เบสสำเร็จรูปตัวไหนได้บ้างคะ ที่ทนได้ทั้งกรดและ electrolyte? หรือสามารถใช้เบส, Emulsifier ตัวไหนขึ้นเนื้อครีมได้บ้างคะ? (ได้ทั้ง 2 ระบบค่ะ)
- Squalane (Olive) 4%
- Argan Oil (Organic - Virgin - Deodorized) 4%
- Rose Hip Oil (Virgin, Fresh) 4%
- Kojic Acid Dipalmitate 3%
- Alpha Arbutin 2%
- Disodium EDTA 0.2%
- Allantoin 0.2%
- Dipotassium Glycyrrhizate 1%
- ActiveRelease™ Salicylic Acid 2%
- Glycolic Acid (AHA) 100% Powder 2%
- Safe-B3™ 5%
- GlucoBright™ 4%
- Natural Betaine 3%
- Mannitol 3%
- Zinc PCA 1%
- Panthenol (DL- Panthenol , Powder) 3%
- Colem TT 1%
- Ethoxydiglycol 2%
- MOIST24 5%
- HumecMax™ 5%
- Vitamin E Tocopheryl Acetate 0.2%
- Preserve-Free PHL™ 0.5%
- DI Water 20%
- เบสสำเร็จรูป QS to 100%
ปัญหาเนื้อสัมผัสครีมกลางวัน:
ใช้สูตรดังต่อไปนี้สำหรับครีมกลางวัน ลองทาแล้วรู้สึกว่าเหนียว เหนอะหนะหน้าและซึมช้า พร้อมทั้งหน้าแวววาวมาก ฉ่ำกลีเซอรีนเกินไปค่ะ ถามว่าแก้ไขใส่อะไรเพิ่มเติมเพื่อช่วยให้ไม่หนียวเหนอะหนะ ซึมผิวเร็ว ไม่หน้ามันแวววาวได้บ้างคะ?
- Moisturizing Lotion Base (Compare to Cetaphil) 80%
- Safe-B3™ 5%
- Panthenol (DL- Panthenol , Powder) 2%
- Mannitol 3%
- Natural Betaine 3%
- Pure-Succinic™ 1%
- DI Water 19.5%
- Preserve-Free PHL™ 0.5%
ปัญหาความเงาในเซรั่ม:
ใช้สูตรเซรั่มดังต่อไปนี้แล้วหน้าแวววาวมากเลยค่ะ ใส่อะไรเพื่อแก้ความแวววาวนี้ได้บ้างคะ?
- Nano-TXA™ ( Tranexamic Acid Nano Emulsion, Penetration Base) 95%
- HumecMax™ 2.5%
- MOIST24 2.5%
- Preserve-Free PHL™ 0.3%
- Alpha Arbutin 1%
- Dipotassium Glycyrrhizate 0.5%
- Trans-Resveratrol EZ™ (10% Water Soluble Powder) 1.5%

คำตอบ

คำแนะนำการปรับสูตร

นี่คือคำแนะนำการปรับสูตรตามคำถามของคุณและข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ได้รวบรวมมาค่ะ

1. เบส/อิมัลซิไฟเออร์สำหรับครีมกลางคืน

สูตรครีมกลางคืนของคุณมีส่วนผสมที่เป็นกรดและอิเล็กโทรไลต์ในปริมาณมาก ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับเบสสำเร็จรูปและอิมัลซิไฟเออร์หลายชนิด ทำให้สูตรไม่เสถียรหรือแยกชั้นได้

แทนที่จะใช้เบสสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียว แนะนำให้ขึ้นเนื้อครีมเองโดยใช้อิมัลซิไฟเออร์และสารสร้างเนื้อที่ทราบว่ามีความเสถียรในสภาวะ pH ต่ำและทนอิเล็กโทรไลต์ได้

ตัวเลือกที่เหมาะสมได้แก่:

Carbomer U21: เป็นสารสร้างเนื้อเจลที่ทำงานได้ดีในช่วง pH กว้าง (5-11) และทนต่ออิเล็กโทรไลต์ได้ดี ช่วยสร้างโครงสร้างเจลในส่วนน้ำ ทำให้สูตรโดยรวมมีความเสถียร
Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer: เป็นสารสร้างเนื้ออีกชนิดที่ไม่ต้องใช้ความร้อนในการทำงาน มีความเสถียรในช่วง pH กว้าง (3-12) และสามารถรองรับน้ำมันและอิเล็กโทรไลต์ได้ดี มีประสิทธิภาพในการสร้างเนื้อครีม โลชั่น หรือเจลที่เสถียร
Ceteareth-25 ใช้ร่วมกับ Cetyl Alcohol: Ceteareth-25 เป็นอิมัลซิไฟเออร์ชนิด O/W ที่ช่วยรวมน้ำกับน้ำมันเข้าด้วยกัน ให้เนื้อสัมผัสและความเสถียร โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับโค-อิมัลซิไฟเออร์อย่าง Ceteareth-6 (แม้ว่า Ceteareth-25 เพียงอย่างเดียวก็สามารถใช้ได้) Cetyl Alcohol เป็นแฟตตี้แอลกอฮอล์ที่ทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความข้นและทำให้ผิวนุ่ม ช่วยเพิ่มเนื้อให้กับครีม แม้ว่าจะเป็นอิมัลซิไฟเออร์ทั่วไป แต่ความเสถียรกับส่วนผสมที่เป็นกรดและอิเล็กโทรไลต์ในปริมาณสูงของคุณจำเป็นต้องมีการทดสอบอย่างรอบคอบ การใช้ร่วมกับโพลิเมอร์ที่ทนกรด/อิเล็กโทรไลต์ เช่น Carbomer U21 หรือ Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer สามารถช่วยเพิ่มความเสถียรได้

คำแนะนำ: เพื่อความเสถียรสูงสุดสำหรับส่วนผสมแอคทีฟที่ซับซ้อนของคุณ แนะนำให้ขึ้นเนื้อครีมเองโดยใช้โพลิเมอร์ที่ทนกรด/อิเล็กโทรไลต์ เช่น Carbomer U21 หรือ Hydroxyethyl Acrylate/Sodium Acryloyldimethyl Taurate Copolymer ในส่วนน้ำ ร่วมกับอิมัลซิไฟเออร์ทั่วไปอย่าง Ceteareth-25 และสารเพิ่มความข้นอย่าง Cetyl Alcohol ในส่วนน้ำมัน โดยให้แน่ใจว่าใช้วิธีการอิมัลซิไฟเออร์ที่ถูกต้องและปรับค่า pH หลังจากใส่ส่วนผสมทั้งหมดแล้ว

2. การปรับปรุงเนื้อสัมผัสครีมกลางวัน

ครีมกลางวันของคุณที่ใช้ Moisturizing Lotion Base (Compare to Cetaphil) และเพิ่มส่วนผสมแอคทีฟเข้าไป รู้สึกเหนียว ซึมช้า และทิ้งความเงาบนผิว ซึ่งอาจเกิดจากเนื้อสัมผัสของเบสเองและส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นและแอคทีฟที่เพิ่มเข้าไป

เพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัส ลดความเหนียวเหนอะหนะ และเพิ่มความเร็วในการซึม รวมถึงลดความเงา คุณสามารถใส่ส่วนผสมที่ช่วยปรับปรุงความรู้สึกบนผิวได้:

Dimethicone (Very Light/10, Low-Odor): ซิลิโคนเนื้อบางเบามากนี้ให้ความรู้สึกนุ่มลื่น ไม่เหนียวเหนอะหนะบนผิว และช่วยเคลือบผิวโดยไม่รู้สึกหนัก การเติมในปริมาณเล็กน้อยสามารถช่วยปรับปรุงการเกลี่ยและลดความรู้สึกเหนอะหนะได้อย่างมาก
Hemisqualane (C13-15 Alkane): เป็นสารทำให้ผิวนุ่มเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบเร็ว ช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสของผิวและเพิ่มการเกลี่ยของสูตร ช่วยต้านทานความรู้สึกหนักของเนื้อครีม
Starch Care™ (Maltooligosyl Glucoside): ส่วนผสมนี้ให้เนื้อสัมผัสที่ "ชุ่มชื้นแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ" และสามารถช่วยปรับปรุงความรู้สึกโดยรวมของสูตรได้

คำแนะนำ: ลองเติม Dimethicone (Very Light/10, Low-Odor) หรือ Hemisqualane (C13-15 Alkane) ในปริมาณ 1-3% ลงในสูตรครีมกลางวันเดิมของคุณ คุณอาจทดลองใช้ Starch Care™ ในปริมาณ 1-5% เริ่มจากปริมาณน้อยๆ และปรับเพิ่มตามความเหมาะสมเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ ส่วนผสมเหล่านี้ควรช่วยลดความเหนียวเหนอะหนะ เพิ่มความเร็วในการซึม และลดความเงาบนผิว

3. การลดความเงาในเซรั่ม

เซรั่มของคุณที่ใช้ Nano-TXA™ ร่วมกับส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นและแอคทีฟอื่นๆ ทำให้ผิวดูเงาหลังใช้ นาโนอิมัลชันบางครั้งอาจรู้สึกเคลือบผิวเล็กน้อยหรือทิ้งฟิล์มบนผิว ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบและส่วนผสมที่เพิ่มเข้าไป

เพื่อลดความเงา:

Dimethicone (Very Light/10, Low-Odor): เช่นเดียวกับครีมกลางวัน การเติมซิลิโคนเนื้อบางเบานี้ในปริมาณเล็กน้อยสามารถช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและเงาน้อยลง โดยปรับปรุงความรู้สึกและลดความเหนอะหนะบนพื้นผิว
WaterSil™ 8/12 (Water Gel Detackifier): แม้ว่าจะออกแบบมาสำหรับเจลน้ำ แต่ส่วนผสมของซิลิโคนนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อลดความเหนียวเหนอะหนะและให้ความรู้สึกนุ่มลื่นดุจแพรไหมในระบบที่เป็นน้ำ อาจช่วยลดความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะและความเงาในเซรั่มนาโนอิมัลชันของคุณได้
Starch Care™ (Maltooligosyl Glucoside): ส่วนผสมนี้สามารถปรับปรุงเนื้อสัมผัสและให้ความรู้สึกไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึ่งอาจช่วยลดความเงาได้

คำแนะนำ: พิจารณาเติม Dimethicone (Very Light/10, Low-Odor) หรือ WaterSil™ 8/12 (Water Gel Detackifier) ในปริมาณ 0.5-2% ลงในสูตรเซรั่มของคุณ Starch Care™ ในปริมาณ 1-5% ก็อาจเป็นประโยชน์ต่อเนื้อสัมผัสได้เช่นกัน ใส่ส่วนผสมเหล่านี้ลงในส่วนน้ำหรือในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปโดยคนเบาๆ