คำแนะนำสำหรับ T-Zone ที่มันและเซรั่มลดริ้วรอย

ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์จากการใช้สูตรที่คุณทำนะคะ ดีใจที่โทนเนอร์ BHA ช่วยลดสิวอักเสบและทำให้สิวอุดตันกดออกง่ายขึ้นค่ะ ส่วนปัญหาเรื่องเนื้อเจลที่รู้สึกเหนอะหนะและทำให้ T-zone มันมากขึ้นในช่วงบ่ายนั้นเข้าใจได้ค่ะ โดยเฉพาะกับส่วนผสมบางอย่างและสภาพผิวบางประเภท

การแยกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับ T-zone และ U-zone เป็นแนวทางที่ดีมากค่ะ เมื่อผิวหน้าแต่ละบริเวณมีความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น T-zone ที่มันกว่าบริเวณอื่น หรือแก้มที่อาจจะแห้งกว่า

สูตรเบสซิลิโคนเซรั่มที่คุณแจ้งมา พร้อมกับส่วนผสมที่แนะนำสำหรับควบคุมความมัน (L-Carnitine 5%, MSM 5%, Licochalcone A, และ Vitamin B3 5%) เป็นแนวทางที่ดีในการทำเซรั่มสำหรับ T-zone ที่เน้นควบคุมความมันก่อนแต่งหน้าค่ะ

สำหรับเปอร์เซ็นต์การใช้ Licochalcone A โดยทั่วไปมี 2 รูปแบบหลักๆ ค่ะ:

• Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble): สำหรับควบคุมความมัน ลดสิว ลดการอักเสบ และลดการระคายเคือง แนะนำให้ใช้ในอัตรา 0.5-1.0% รูปแบบนี้ละลายน้ำได้ค่ะ
• Hi-LiconeA™ Licorice Extract (Licochalcone A 20%): เป็นรูปแบบที่เข้มข้นกว่า สำหรับควบคุมความมัน ลดสิว ลดการอักเสบ และลดการระคายเคือง แนะนำให้ใช้ในอัตรา 0.1-0.2% รูปแบบนี้ละลายได้ใน Glycol (เช่น Propylene Glycol ที่อยู่ในเบสของคุณ) แต่ไม่ละลายน้ำโดยตรงค่ะ

คุณสามารถเลือกใช้รูปแบบที่เหมาะสมกับเบสที่คุณต้องการทำและระดับความเข้มข้นที่ต้องการได้เลยค่ะ ทั้งสองรูปแบบมีประสิทธิภาพในการควบคุมความมันและลดการอักเสบ

สำหรับการเพิ่มส่วนผสมลดริ้วรอยที่ไม่ทำให้หน้ามัน Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000) เป็นตัวเลือกที่ดีมากตามที่เคยมีคำแนะนำไปค่ะ เป็นกลุ่มเปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอย และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว โดยไม่เพิ่มความมัน แนะนำให้ใช้ Matrixyl 3000 ในอัตรา 3-5% โดยทั่วไปแนะนำที่ 3% ค่ะ เป็นส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ และควรผสมในขั้นตอนสุดท้ายของการทำสูตร โดยอุณหภูมิของสูตรควรต่ำกว่า 40°C

การนำส่วนผสมเหล่านี้มาใช้ในเบสที่เหมาะสมสำหรับ T-zone ของคุณ จะช่วยให้ได้เซรั่มที่เน้นควบคุมความมันและมีคุณสมบัติลดริ้วรอย เพื่อเตรียมผิวก่อนแต่งหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ