คำตอบสำหรับคำถามเกี่ยวกับ Hyaluronic Acid และ Repair Activator™

Hyaluronic Acid (HA)

นอกเหนือจากคุณสมบัติหลักในการกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวแล้ว Hyaluronic Acid ยังมีคุณสมบัติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความชุ่มชื้นและสุขภาพผิวค่ะ

• การเติมร่องลึก/ลดเลือนริ้วรอย: HA ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวส่วนใหญ่ทำงานโดยการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ซึ่งช่วยให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น ทำให้ริ้วรอยเล็กๆ ที่เกิดจากความแห้งกร้านดูจางลงได้ แต่สำหรับการ "เติมร่องลึก" ในความหมายของการปรับโครงสร้างผิวให้ตื้นขึ้นอย่างชัดเจน มักจะต้องใช้ HA ในรูปแบบที่ฉีดเข้าไปใต้ผิวหนัง (ที่เรียกว่า Filler) ซึ่งแตกต่างจากการทาบนผิวค่ะ HA ชนิดโมเลกุลขนาดเล็กมาก (Nano Molecule) สามารถซึมลึกเข้าสู่ผิวชั้นในได้ดีกว่า ช่วยให้ความชุ่มชื้นจากภายใน ในขณะที่โมเลกุลขนาดใหญ่จะช่วยเคลือบผิวและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ที่ผิวชั้นนอก HA บางชนิด เช่น 4D Hyaluronic Acid เป็นการรวม HA หลายขนาดเข้าด้วยกันเพื่อประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นครอบคลุมทุกชั้นผิว
• ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น: แม้ว่า HA ที่ใช้ในเครื่องสำอางจะไม่ได้มีคุณสมบัติในการรักษาแผลโดยตรง แต่การที่ผิวมีความชุ่มชื้นที่ดีอยู่เสมอ จะช่วยส่งเสริมกระบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเองตามธรรมชาติของผิว ทำให้ผิวที่ชุ่มชื้นมีแนวโน้มที่จะหายจากรอยถลอกหรือความเสียหายเล็กๆ น้อยๆ ได้ดีกว่าผิวที่แห้งค่ะ

โดยสรุปคือ การทา Hyaluronic Acid บนผิวมีประโยชน์หลักคือการให้ความชุ่มชื้น ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์รองคือช่วยให้ริ้วรอยตื้นๆ ดูจางลงและสนับสนุนสุขภาพผิวโดยรวมค่ะ

Repair Activator™

Repair Activator™ ซึ่งมีส่วนประกอบหลักคือ Bifida Ferment Lysate มีคุณสมบัติเด่นในการช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซม DNA ของเซลล์ผิวค่ะ

• การทำงาน: สารสกัดจาก Bifida Ferment Lysate นี้จะเข้าไปช่วยส่งเสริมกลไกตามธรรมชาติของเซลล์ผิวในการตรวจจับและซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ DNA โดยเฉพาะความเสียหายที่เกิดจากรังสี UVA จากแสงแดด
• ผลต่อเซลล์ผิว: การกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซม DNA นี้มีความสำคัญต่อการคงไว้ซึ่งสุขภาพและความแข็งแรงของเซลล์ผิว เมื่อ DNA ได้รับความเสียหาย เซลล์อาจทำงานได้ไม่เต็มที่ หรืออาจนำไปสู่สัญญาณของความเสื่อมสภาพ เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ การที่ Repair Activator™ ช่วยให้เซลล์ผิวซ่อมแซม DNA ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงเป็นการช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายใน ทำให้เซลล์ผิวมีสุขภาพดีขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผิวโดยรวมดูแข็งแรง ลดเลือนสัญญาณแห่งวัย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้รับไม่ได้ระบุรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างระดับโมเลกุลที่ซับซ้อนค่ะ แต่เน้นที่การกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซม DNA เป็นหลัก

ดังนั้น Repair Activator™ จึงเป็นส่วนผสมที่มุ่งเน้นการดูแลผิวในระดับเซลล์เพื่อต่อสู้กับสัญญาณแห่งวัย โดยเฉพาะที่เกิดจากความเสียหายของ DNA ค่ะ