คู่มือการทำโลชั่นกันยุง IR3535 สำหรับเด็ก: การขึ้นสูตรและคำแนะนำ

สำหรับการใช้ Ethyl butylacetylaminopropionate (IR3535) ในการทำโลชั่นกันยุงสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป มีคำแนะนำดังนี้ค่ะ:

1) ขั้นตอน/พาร์ทที่ควรใส่และอุณหภูมิที่เหมาะสม

Ethyl butylacetylaminopropionate (IR3535) เป็นสารที่ละลายน้ำได้โดยตรง (ละลายน้ำได้ประมาณ 5%) และละลายได้ดีในเอทานอลและโพรพิลีนไกลคอล จึงแนะนำให้เติมใน Water phase (เฟสน้ำ) หรือใน Cool-down phase (เฟสเย็นตัว) หลังจากการสร้างอิมัลชันเสร็จสิ้นและอุณหภูมิของเนื้อผลิตภัณฑ์ลดลงมาแล้ว

• อุณหภูมิที่เหมาะสม: ควรเติมที่อุณหภูมิไม่เกิน 40-45 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาประสิทธิภาพและความเสถียรของสาร เนื่องจากเป็นสารที่ควรเก็บให้พ้นจากแสงแดดและความร้อนสูง

2) ปริมาณใช้ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับเด็ก 3 ขวบขึ้นไป

• ช่วงที่แนะนำ: สำหรับเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ปริมาณที่แนะนำคือ 10-20% ซึ่งเป็นช่วงที่ให้ประสิทธิภาพในการป้องกันยุงได้ดีและมีความปลอดภัยสูง
• เพดานสูงสุดที่แนะนำ: สามารถใช้ได้สูงสุดถึง 30% แต่สำหรับเด็กเล็ก การใช้ในปริมาณที่ต่ำกว่าแต่ยังคงประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่ดีกว่า เพื่อลดโอกาสการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้

3) ค่า pH ช่วงที่เหมาะสม และความเข้ากันได้กับสารอื่นๆ

• ค่า pH ที่เหมาะสม: IR3535 มีความเสถียรดีในช่วง pH ที่เป็นกรดอ่อนๆ ถึงกลาง (ประมาณ pH 5.0-7.0) ซึ่งเป็นช่วง pH ที่เหมาะสมกับผิวหนัง
• ความเข้ากันได้:
  • สารกันเสีย (Preservatives): โดยทั่วไปเข้ากันได้ดีกับสารกันเสียที่ใช้ในเครื่องสำอางทั่วไป เช่น Phenoxyethanol, Caprylyl Glycol, Benzyl Alcohol, หรือสารกันเสียกลุ่มกรดอินทรีย์
  • น้ำหอม (Fragrances): เข้ากันได้ดี เนื่องจากตัว IR3535 เองไม่มีกลิ่นรบกวน
  • อีมัลซิไฟเออร์ (Emulsifiers): เข้ากันได้กับอีมัลซิไฟเออร์ส่วนใหญ่ ทั้งชนิดไม่มีประจุ (Non-ionic) และมีประจุลบ (Anionic) ที่ใช้ในโลชั่น
• สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:
  • หลีกเลี่ยงการใช้ในสูตรที่มีค่า pH เป็นกรดจัดหรือด่างจัดมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อความเสถียรของสาร
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อนสูงเป็นเวลานาน

4) ตัวอย่างไกด์สูตรโลชั่นกันยุงสำหรับเด็ก (โครงสร้างสูตร พร้อมขั้นตอนการทำแบบย่อ)

โครงสร้างสูตร (ตัวอย่าง)

A. Water Phase (เฟสน้ำ)

• น้ำกลั่น (Distilled Water): 60-70%
• กลีเซอรีน (Glycerin): 3-5% (สารให้ความชุ่มชื้น)
• คาร์โบเมอร์ (Carbomer) หรือ แซนแทนกัม (Xanthan Gum): 0.2-0.5% (สารสร้างเนื้อเจล/เพิ่มความหนืด)
• Disodium EDTA: 0.1% (สารคีเลต)

B. Oil Phase (เฟสน้ำมัน)

• Caprylic/Capric Triglyceride: 5-10% (สารบำรุงผิว/น้ำมันเบา)
• Isopropyl Myristate: 3-5% (สารบำรุงผิว/น้ำมันเบา)
• Glyceryl Stearate SE หรือ Cetearyl Alcohol + Polysorbate 60: 3-5% (อีมัลซิไฟเออร์)

C. Cool-down Phase (เฟสเย็นตัว)

• Ethyl butylacetylaminopropionate (IR3535): 10-20%
• สารกันเสีย (เช่น Phenoxyethanol): 0.5-1.0%
• น้ำหอม (Fragrance): 0.1-0.3% (ถ้าต้องการ)
• สารปรับ pH (เช่น Triethanolamine หรือ NaOH 10% solution): ปรับตามต้องการ (ให้ได้ pH 5.0-7.0)

ขั้นตอนการทำแบบย่อ

1. เตรียมเฟสน้ำ (A): นำน้ำกลั่นไปตั้งความร้อน เติม Disodium EDTA และกลีเซอรีนลงไป คนให้ละลาย จากนั้นค่อยๆ โปรย Carbomer หรือ Xanthan Gum ลงไปช้าๆ คนหรือปั่นให้เข้ากันจนเนื้อเจลขึ้น ตั้งอุณหภูมิประมาณ 70-75 องศาเซลเซียส
2. เตรียมเฟสน้ำมัน (B): ในภาชนะแยกต่างหาก ผสมส่วนผสมทั้งหมดในเฟสน้ำมัน (B) เข้าด้วยกัน ตั้งความร้อนประมาณ 70-75 องศาเซลเซียส คนให้เข้ากันจนอีมัลซิไฟเออร์ละลายหมด
3. รวมเฟส: ค่อยๆ เทเฟสน้ำมัน (B) ลงในเฟสน้ำ (A) อย่างช้าๆ พร้อมกับคนหรือปั่นด้วยความเร็วปานกลางอย่างต่อเนื่องจนเกิดอิมัลชัน
4. ลดอุณหภูมิ: ปั่นต่อไปเรื่อยๆ พร้อมกับลดอุณหภูมิของเนื้อโลชั่นลงจนเหลือประมาณ 40-45 องศาเซลเซียส
5. เติมเฟสเย็นตัว (C): เมื่ออุณหภูมิลดลงแล้ว ค่อยๆ เติม Ethyl butylacetylaminopropionate (IR3535), สารกันเสีย, และน้ำหอม (ถ้าใช้) ลงไป คนให้เข้ากัน
6. ปรับ pH: ตรวจสอบค่า pH ของโลชั่น หากจำเป็น ให้ค่อยๆ เติมสารปรับ pH ทีละน้อยจนได้ค่า pH ที่ต้องการ (5.0-7.0)
7. บรรจุ: เมื่อโลชั่นเย็นตัวเต็มที่และมีเนื้อสัมผัสที่สม่ำเสมอ สามารถบรรจุลงในภาชนะได้