ตรวจสอบสูตรครีมและอัตราส่วนส่วนผสม

การตรวจสอบสูตรครีม

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรครีมของคุณเพื่อตรวจสอบค่ะ นี่คือการประเมินส่วนผสมที่คุณระบุ พร้อมอัตราส่วนการใช้งานทั่วไปและข้อควรพิจารณาสำหรับสูตรของคุณ:

• Cetearyl Alcohol: ทำหน้าที่เป็นสารเพิ่มความข้นและอิมัลซิไฟเออร์ร่วม ช่วยให้เนื้อครีมมีความคงตัวและมีเนื้อสัมผัสที่ดี นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกนุ่มลื่นบนผิว อัตราการใช้งานทั่วไปคือ 1-20% ต้องใช้ความร้อนละลายในส่วนของน้ำมัน
• Isopropyl Myristate: เป็นน้ำมันที่ให้ความรู้สึกบางเบา ช่วยให้เกลี่ยง่ายและลดความเหนอะหนะ อัตราการใช้งานทั่วไปคือ 1-50% ผสมในส่วนของน้ำมัน ควรระวังการใช้ในปริมาณสูงเพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันได้ในบางสภาพผิว
• Glyceryl Monostearate SE: เป็นสารเพิ่มความข้นและอิมัลซิไฟเออร์ชนิด Self-Emulsifying ช่วยให้เนื้อครีมมีความคงตัวและช่วยเชื่อมส่วนของน้ำมันกับน้ำเข้าด้วยกัน อัตราการใช้งานทั่วไปคือ 1-10% ต้องใช้ความร้อนละลายและผสมในส่วนของน้ำมัน
• Apricot Kernel Oil: เป็นน้ำมันธรรมชาติที่ให้ความนุ่มลื่นและบำรุงผิว อุดมด้วยกรดไขมันและวิตามิน อัตราการใช้งานทั่วไปในครีมสามารถใช้ได้ตั้งแต่ 1-10% หรือสูงกว่า ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นที่ต้องการ ผสมในส่วนของน้ำมัน
• Dimethicone: เป็นซิลิโคนออยล์ที่ให้ความรู้สึกเรียบเนียนดุจแพรไหมบนผิว ช่วยให้เกลี่ยง่าย อัตราการใช้งานทั่วไปคือ 0.5-10% ผสมในส่วนของน้ำมัน
• Glycerin: เป็นสารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) ที่ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อัตราการใช้งานทั่วไปในครีมมักจะอยู่ที่ 1-10% ผสมในส่วนของน้ำ
• Sodium PCA: เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่ดีเยี่ยมอีกชนิดหนึ่ง และเป็นส่วนหนึ่งของ Natural Moisturizing Factor (NMF) ในผิว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น อัตราการใช้งานทั่วไปสำหรับสารละลาย 50% คือ 0.5-2% ผสมในส่วนของน้ำ
• Polysorbate 20 (Tween 20): เป็นอิมัลซิไฟเออร์/สารช่วยละลายชนิด HLB สูง มีประโยชน์ในการช่วยละลายน้ำมันปริมาณเล็กน้อยในน้ำ หรือใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ร่วมในสูตร O/W emulsion อัตราการใช้งานทั่วไปคือ 1-20% สามารถผสมได้ทั้งในส่วนของน้ำหรือน้ำมัน ขึ้นอยู่กับสูตร
• Sorbitan Laurate (Span 20): เป็นอิมัลซิไฟเออร์ชนิด HLB ต่ำ มักใช้เป็นอิมัลซิไฟเออร์ร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับอิมัลซิไฟเออร์ชนิด HLB สูง เช่น Polysorbate 20 หรือ PEG-40 Stearate เพื่อสร้างอิมัลชันที่คงตัว อัตราการใช้งานทั่วไปคือ 2-4% ผสมในส่วนของน้ำมัน
• PEG-40 Stearate: เป็นอิมัลซิไฟเออร์ชนิด O/W อีกชนิดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความคงตัวให้กับอิมัลชัน อัตราการใช้งานทั่วไปคือ 0.5-10% สามารถผสมได้ทั้งในส่วนของน้ำหรือน้ำมัน
• Astaxanthin (10% Oil): เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากเป็นสารออกฤทธิ์ที่ละลายในน้ำมัน จึงควรเติมในส่วนของน้ำมัน อัตราการใช้งานทั่วไปสำหรับสารสกัดน้ำมัน 10% นี้มักจะอยู่ที่ประมาณ 0.5-5%
• Phenoxyethanol: เป็นสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่จำเป็นสำหรับการป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในครีมของคุณ อัตราการใช้งานทั่วไปคือ 0.5-1.0% เติมในช่วงที่สูตรเย็นตัวลง (อุณหภูมิต่ำกว่า 60°C)
• Fragrance oil: ใช้เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้กับผลิตภัณฑ์ อัตราการใช้งานทั่วไปมักจะอยู่ที่ 0.1-1% แต่ควรตรวจสอบคำแนะนำจากผู้จำหน่ายเสมอ เนื่องจากอาจแตกต่างกันไป เติมในช่วงที่สูตรเย็นตัวลง

ข้อควรพิจารณาในการทำสูตร:

1. ระบบอิมัลซิไฟเออร์: คุณมีส่วนผสมของอิมัลซิไฟเออร์ (Glyceryl Monostearate SE, Polysorbate 20, Span 20, PEG-40 Stearate) และสารเพิ่มความข้น (Cetearyl Alcohol) ซึ่งเป็นเรื่องปกติสำหรับการสร้างอิมัลชันที่คงตัว Glyceryl Monostearate SE เป็นอิมัลซิไฟเออร์/สารเพิ่มความข้นหลักชนิด O/W ส่วน PEG-40 Stearate และ Polysorbate 20 ก็เป็นอิมัลซิไฟเออร์ชนิด O/W ในขณะที่ Span 20 เป็นชนิด W/O การใช้ส่วนผสมของอิมัลซิไฟเออร์ชนิด HLB ต่ำและสูง (เช่น Span 20 และ Polysorbate 20 หรือ PEG-40 Stearate) สามารถช่วยสร้างอิมัลชันที่คงตัวได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Fatty Alcohol เช่น Cetearyl Alcohol ปริมาณทั้งหมดและอัตราส่วนของส่วนน้ำมันต่อส่วนน้ำ รวมถึงอัตราส่วนเฉพาะของอิมัลซิไฟเออร์เหล่านี้ จะเป็นตัวกำหนดความคงตัวและเนื้อสัมผัสสุดท้ายของครีม คุณจะต้องทดลองเพื่อหาสมดุลที่เหมาะสม
2. การแยกเฟส: โดยทั่วไป คุณจะต้องให้ความร้อนส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน (Cetearyl Alcohol, Isopropyl Myristate, Glyceryl Monostearate SE, Apricot Kernel Oil, Dimethicone, Span 20, PEG-40 Stearate, Astaxanthin) เข้าด้วยกันในเฟสหนึ่ง และส่วนผสมที่ละลายในน้ำ (Glycerin, Sodium PCA, Polysorbate 20, น้ำ) ในอีกเฟสหนึ่ง โดยให้ความร้อนทั้งสองเฟสจนถึงประมาณ 70-75°C จากนั้นค่อยๆ เติมส่วนน้ำลงในส่วนน้ำมัน หรือกลับกัน ขณะที่ทำการผสม และผสมต่อไปในขณะที่สูตรเย็นตัวลงเพื่อสร้างอิมัลชัน ส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน เช่น Phenoxyethanol และ Fragrance Oil จะถูกเติมในช่วงที่สูตรเย็นตัวลงต่ำกว่า 60°C
3. น้ำ: คุณไม่ได้ระบุน้ำไว้ในรายการ แต่จะเป็นส่วนประกอบหลักในส่วนของน้ำ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของสูตร (เช่น 60-80% ขึ้นไป) ควรใช้น้ำกลั่นหรือน้ำ DI (Deionized Water)
4. การทดสอบความคงตัว: หลังจากทำครีมเสร็จแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องทำการทดสอบความคงตัว (เช่น การเก็บที่อุณหภูมิต่างๆ) เพื่อให้แน่ใจว่าอิมัลชันยังคงตัวอยู่ได้นาน
5. ส่วนผสมที่อาจเพิ่มเติม: ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่ต้องการ คุณอาจพิจารณาเพิ่มสารคีเลต (เช่น Disodium EDTA) เพื่อช่วยเพิ่มความคงตัวของสูตร หรือสารออกฤทธิ์อื่นๆ

รายการส่วนผสมนี้เป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับครีมบำรุงผิว การปรับอัตราส่วนภายในช่วงที่แนะนำจะช่วยให้คุณปรับเนื้อสัมผัสและความรู้สึกของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายได้ตามต้องการ