การตรวจสอบสูตร: มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อเจล

จากเปอร์เซ็นต์ส่วนผสมที่คุณให้มา สูตรของคุณมีส่วนประกอบของสารที่ช่วยเคลือบผิว (Occlusive) ในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง (Dimethicone 100Cs, Cyclopentasiloxane, และ Shea Butter Melt) รวมกันถึง 42.5% ในขณะที่น้ำ (DI Water) ระบุไว้ที่ 25% องค์ประกอบนี้ค่อนข้างแตกต่างจากเนื้อเจลทั่วไปที่มักจะมีสัดส่วนของน้ำสูงกว่ามาก และมีส่วนของน้ำมัน/ซิลิโคนน้อยกว่า

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามเฉพาะของคุณ:

1.) สูตรเหลวหรือหนืดไปหรอครับ แก้ไขอย่างไรหรอครับ

จากสัดส่วนของซิลิโคนและน้ำมันที่สูง (42.5%) สูตรนี้น่าจะมีเนื้อที่ค่อนข้างหนืด และให้ความรู้สึกเหมือนเซรั่มที่มีซิลิโคนสูง หรืออาจจะคล้ายบาล์ม มากกว่าเนื้อเจลที่บางเบา เนื้อสัมผัสจะลื่นเนียนจากซิลิโคน แต่อาจรู้สึกหนักหรือมัน ไม่เหมือนเจลที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและไม่เหนอะหนะ

• วิธีแก้ไข: หากต้องการให้ได้เนื้อเจลที่บางเบา คุณจำเป็นต้องลดเปอร์เซ็นต์ของส่วนประกอบที่เป็นน้ำมันและซิลิโคน (Dimethicone 100Cs, Cyclopentasiloxane, Shea Butter Melt) ลงอย่างมาก และเพิ่มสัดส่วนของน้ำ (DI Water) ให้สูงขึ้น นอกจากนี้ คุณอาจต้องปรับชนิดและปริมาณของสารก่อเจล (Xanthan Gum) หรือพิจารณาใช้ระบบสารก่อเจลแบบอื่นที่เหมาะสมกับเนื้อเจลที่ต้องการและความเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ

2.) ถ้ามี Prebiotic ไม่ต้องใส่ preservatives ใช่ไหมครับ

ไม่ใช่ครับ การมี Prebiotic (Prebio-care) ไม่ได้ หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องใส่สารกันเสีย Prebiotic เป็นสารที่ช่วยบำรุงจุลินทรีย์ที่ดีบนผิว แต่ไม่ได้ช่วยป้องกันผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางของคุณจากการปนเปื้อนของแบคทีเรีย ยีสต์ และเชื้อราที่เป็นอันตราย สูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักมีความเสี่ยงสูงต่อการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ ระบบสารกันเสียแบบ Broad-spectrum จึงจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัย ความคงตัว และอายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์ของคุณ คำอธิบายของ Xanthan Gum ก็ระบุชัดเจนว่าไม่มีสารกันเสีย และจำเป็นต้องใช้สารกันเสียในสูตร

3.) ตัว emulsifer พอไหมครับ

อิมัลซิไฟเออร์ที่คุณเลือกใช้ Lauryl PEG-9 Polydimethylsiloxyethyl Dimethicone เป็นอิมัลซิไฟเออร์ชนิด W/Si หรือ W/O ซึ่งเหมาะสำหรับสูตรที่มีสัดส่วนของน้ำ 70-99% (หมายถึงส่วนของน้ำมัน/ซิลิโคน 1-30%) สูตรปัจจุบันของคุณมีส่วนของน้ำมัน/ซิลิโคนถึง 42.5% (Dimethicone 100Cs 27.5% + Cyclopentasiloxane 10% + Shea Butter Melt 5%) การใช้อิมัลซิไฟเออร์นี้กับสัดส่วนน้ำมัน/ซิลิโคนที่สูงเช่นนี้อยู่นอกช่วงที่แนะนำ และมีแนวโน้มสูงที่จะทำให้อิมัลชันไม่คงตัวและแยกชั้นได้

• วิธีแก้ไข: หากคุณต้องการคงสัดส่วนน้ำมัน/ซิลิโคนไว้สูง คุณจะต้องใช้อิมัลซิไฟเออร์ชนิดอื่น หรือใช้หลายชนิดร่วมกันที่ออกแบบมาสำหรับอิมัลชัน W/Si หรือ W/O ที่มีส่วนของน้ำมันสูง ซึ่งอาจต้องใช้ในความเข้มข้นที่สูงกว่า 2% หรือทางที่ดีกว่าคือ ลดสัดส่วนของน้ำมัน/ซิลิโคนลงให้อยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับ Lauryl PEG-9 Polydimethylsiloxyethyl Dimethicone เพื่อให้สามารถใช้อิมัลซิไฟเออร์นี้ได้อย่างเหมาะสม

4.) ตัวพาสารเข้าผิวควรเปลี่ยนหรือใช้ตัวไหนไหมครับ

ในสูตรของคุณมี Hydrogenated Lecithin (Phospholipid) และ TransMoist™ (PPG-24-Glycereth-24) ซึ่งทั้งสองชนิดสามารถทำหน้าที่เป็นสารช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิวได้

• Hydrogenated Lecithin (3%) สามารถช่วยห่อหุ้มสารสำคัญเพื่อเพิ่มการดูดซึมและความสามารถในการละลาย
• TransMoist™ (2%) มีคุณสมบัติเฉพาะในการช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิวและช่วยให้เนื้อสูตรซึมเร็วขึ้น
  ส่วนผสมทั้งสองชนิดนี้เหมาะสมสำหรับการช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิว และใช้ในปริมาณที่อยู่ในช่วงปกติ การจะเปลี่ยนหรือเพิ่มสารอื่นขึ้นอยู่กับเป้าหมายเฉพาะในการนำพาสารสำคัญและองค์ประกอบของสูตรที่ปรับปรุงแล้ว การผสมผสานปัจจุบันถือว่าเหมาะสม โดยสมมติว่าสูตรโดยรวมมีความคงตัว หากคุณปรับเปลี่ยนองค์ประกอบของสูตรอย่างมีนัยสำคัญ (เช่น ทำให้มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักมากขึ้น) คุณอาจต้องพิจารณาอีกครั้งว่าสารเหล่านี้ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหรือไม่ หรือมีสารอื่นที่เหมาะสมกว่า

สรุปโดยรวม ปัญหาหลักของสูตรนี้หากต้องการให้เป็น "เนื้อเจลบางเบา" คือสัดส่วนของน้ำมัน/ซิลิโคนที่สูงเกินไป และความเหมาะสมของอิมัลซิไฟเออร์สำหรับสัดส่วนน้ำมันที่สูงนี้ ซึ่งจะส่งผลต่อทั้งเนื้อสัมผัสและความคงตัว การแก้ไขจุดเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติตามที่ต้องการ