ตรวจสอบสูตรเจล/เซรั่มเพื่อผลิต (สำหรับขวดปั๊ม)

ขอบคุณที่ส่งสูตรทั้งสองสูตรมาให้ตรวจสอบครับ ผมได้พิจารณาส่วนผสมแล้ว และสามารถให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความเข้ากันได้ของส่วนผสม ความเหมาะสมของเนื้อเจลสำหรับขวดปั๊ม และกระบวนการปรับค่า pH ในระหว่างการผลิตได้ครับ

นี่คือการตรวจสอบแต่ละสูตร:

การตรวจสอบสูตรที่ 1 (ใช้กลางวัน)

สูตรนี้ประกอบด้วยส่วนผสมออกฤทธิ์ที่หลากหลาย มุ่งเน้นไปที่การปรับผิวให้กระจ่างใส การต่อต้านริ้วรอย และการเสริมเกราะป้องกันผิว

• ส่วนผสมออกฤทธิ์: ประกอบด้วย Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate), Bakuchiol, Melatonin, DMAE, เปปไทด์หลายชนิด (Pep®-Coll, Hexapeptide-9, Tetrapeptide-21, Quick-Coll®), Wrinkle-Fill™, Wrinkle-Lax™, Allantoin และ L-Carnitine ส่วนผสมเหล่านี้ให้ประโยชน์ เช่น การกระตุ้นคอลลาเจน การลดเลือนริ้วรอย การต้านอนุมูลอิสระ และการปลอบประโลมผิว
• เนื้อสัมผัส: สูตรนี้ใช้ Pro Polymer™ เป็นสารสร้างเนื้อเจลที่ความเข้มข้น 1.00% ความเข้มข้นนี้ เมื่อรวมกับตัวทำละลาย/สารนำพา เช่น Pentylene Glycol, Dimethyl Isosorbide (DMI), Phospholipid และ 1,2-Hexanediol รวมถึงสารให้ความนุ่มลื่น LipidSoft™ Dry II ควรให้เนื้อเจลที่มีความเหลว ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเหมาะสมสำหรับการบรรจุในขวดปั๊ม
• ความเข้ากันได้และความคงตัว:
  • Perfect-C™ ต้องการค่า pH ของสูตรระหว่าง 5.0-5.5 เพื่อความคงตัวสูงสุด และไม่ควรใช้ร่วมกับ Vitamin B3 (ซึ่งไม่มีในสูตรนี้ จึงไม่มีปัญหา)
  • Bakuchiol เหมาะที่สุดที่ค่า pH ระหว่าง 3.5-6.5 และจะทำงานได้ดีขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับสารคีเลต เช่น Disodium EDTA (มีในสูตร) และสารนำพา เช่น DMI (มีในสูตร)
  • Melatonin มีความคงตัวที่ค่า pH 4-10
  • DMAE ควรผสมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C
  • เปปไทด์ส่วนใหญ่ไวต่อความร้อน และควรผสมในขั้นตอนสุดท้ายเมื่อสูตรเย็นลง
  • Wrinkle-Fill™ มีความเป็นกรด ซึ่งจะส่งผลต่อค่า pH สุดท้ายของสูตร
  • Allantoin มีความคงตัวที่ค่า pH 3-8
  • L-Carnitine มีความคงตัวที่ค่า pH 3.5-8
  • การมี ActiveProtec™ UV เป็นประโยชน์ในการปกป้องส่วนผสมที่ไวต่อแสงและความคงตัวโดยรวมของสูตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากบรรจุในขวดใส
  • Disodium EDTA ช่วยจับไอออนของโลหะ ซึ่งช่วยเพิ่มความคงตัวของส่วนผสมหลายชนิด
  • Odor-Kill™ สามารถช่วยลดกลิ่นที่อาจเกิดขึ้นจากส่วนผสมบางชนิด เช่น DMI ได้

การตรวจสอบสูตรที่ 2 (ใช้กลางคืน)

สูตรนี้มุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูผิว ความชุ่มชื้น การเสริมเกราะป้องกันผิว และการต่อต้านริ้วรอยสำหรับการใช้ในเวลากลางคืน

• ส่วนผสมออกฤทธิ์: ประกอบด้วย Repair Activator™ (Bifida Ferment Lysate), 4D Hyaluronic Acid, Safe-B3™ (Vitamin B3/Niacinamide), GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine), Ceramide Complex, Cholesterol, LipidSoft™ F (Ethyl Linoleate), Ectoine, Squalane และ Palmitamide MEA ส่วนผสมเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้ความชุ่มชื้น เสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดเลือนจุดด่างดำ และให้ประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระและปกป้องผิวจากมลภาวะ
• เนื้อสัมผัส: สูตรนี้ใช้ Pro Polymer™ ที่ความเข้มข้นต่ำกว่าเล็กน้อย (0.80%) เมื่อเทียบกับสูตรกลางวัน ความเข้มข้นนี้ เมื่อรวมกับ 4D Hyaluronic Acid (ซึ่งเป็นเจลที่มีความหนืด), สารให้ความนุ่มลื่นหลายชนิด (LipidSoft™ F, Squalane, LipidSoft™ Solve, LipidSoft™ Lite) และตัวทำละลาย/สารนำพา (Pentylene Glycol, Dimethyl Isosorbide (DMI), Phospholipid, 1,2-Hexanediol) ควรให้เนื้อเจลที่มีความเหลวเหมาะสมสำหรับขวดปั๊ม ความเข้มข้นของ Pro Polymer™ ที่ต่ำกว่าอาจทำให้เนื้อสัมผัสมีความหนืดน้อยลงเล็กน้อย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของเนื้อเจลเหลว
• ความเข้ากันได้และความคงตัว:
  • Repair Activator™ ต้องการค่า pH ของสูตรระหว่าง 4-5.5 และควรผสมในขั้นตอนสุดท้าย หลีกเลี่ยงความร้อน
  • Safe-B3™ (Niacinamide) เหมาะที่สุดที่ค่า pH 4.0-7.0
  • GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine) มีความคงตัวที่ค่า pH 3-7
  • Ceramide Complex (Water Dispersible Powder) ควรกระจายตัวในน้ำก่อน และใช้ร่วมกับ Cholesterol จะได้ประสิทธิภาพสูงสุด Cholesterol มีจุดหลอมเหลวสูงมาก (150°C) ต้องใช้ความร้อนสูงในการละลายในส่วนของน้ำมันระหว่างการผลิต ซึ่งต้องจัดการอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ส่วนผสมอื่นเสียหาย
  • LipidSoft™ F และ Palmitamide MEA สามารถทนความร้อนได้ถึง 80°C ในระยะเวลาจำกัด
  • Ectoine มีความคงตัวในช่วง pH กว้าง (1-9) และทนความร้อนได้สูง (ถึง 80°C)
  • Squalane ควรหลีกเลี่ยงความร้อน
  • เช่นเดียวกับสูตรกลางวัน ActiveProtec™ UV, Disodium EDTA และ Odor-Kill™ ช่วยเพิ่มความคงตัวและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์

การปรับค่า pH ในระหว่างการผลิต

ใช่ครับ การปรับค่า pH เป็นขั้นตอนมาตรฐานและจำเป็นในกระบวนการผลิตเครื่องสำอาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสูตรที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ต้องการค่า pH เฉพาะเพื่อความคงตัวและประสิทธิภาพ ดังที่เห็นในสูตรทั้งสองของคุณ (เช่น Perfect-C™, Bakuchiol, Repair Activator™)

ในระหว่างการผลิต จะมีการวัดค่า pH ของส่วนผสมสุดท้ายและปรับให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมในแต่ละสูตร สำหรับสูตรกลางวัน ค่า pH ที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 5.0-5.5 สำหรับสูตรกลางคืน ค่า pH ที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 4-5.5 การปรับค่า pH นี้ช่วยให้ส่วนผสมมีความคงตัว มีประสิทธิภาพ และผลิตภัณฑ์มีความเหมาะสมกับผิว

สรุป

สูตรทั้งสองสูตรได้รับการออกแบบมาอย่างดี โดยมีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่คัดสรรมาอย่างดี สารสร้างเนื้อเจล (Pro Polymer™) ที่ความเข้มข้นที่ระบุ เมื่อรวมกับส่วนผสมอื่นๆ ควรให้เนื้อเจลที่มีความเหลวตามที่ต้องการ ซึ่งเหมาะสมสำหรับการบรรจุในขวดปั๊ม

กระบวนการผลิตจะต้องพิจารณาคำแนะนำในการผสมและอุณหภูมิที่เหมาะสมของส่วนผสมบางชนิดอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะ Cholesterol ในสูตรกลางคืน และเปปไทด์/ส่วนผสมที่ไวต่อความร้อนในทั้งสองสูตร การปรับค่า pH จะเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมออกฤทธิ์ในแต่ละสูตรมีความคงตัวและมีประสิทธิภาพสูงสุดครับ