การตรวจสอบสูตรเซรั่มลดริ้วรอย

ขอขอบคุณที่แบ่งปันสูตรเซรั่มลดริ้วรอยของคุณค่ะ สูตรนี้มีส่วนประกอบสำคัญหลายชนิดที่ดีต่อการลดริ้วรอยและบำรุงผิว

มาดูส่วนประกอบและอัตราส่วนที่คุณใช้กันค่ะ:

• WATER 50%: เป็นส่วนประกอบหลักของเซรั่ม
• DMAE (SkinTight MD™) Liquid 5%: DMAE ดีเยี่ยมสำหรับการยกกระชับผิวและลดริ้วรอย อย่างไรก็ตาม ที่ความเข้มข้น 5% อาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะหรือระคายเคืองสำหรับบางสภาพผิว อัตราส่วนที่แนะนำมักจะอยู่ที่ประมาณ 3% เพื่อให้สบายผิวมากขึ้นและยังคงประสิทธิภาพที่ดี
• L-Carnitine 3%: อยู่ในอัตราส่วนที่แนะนำ ช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้ความชุ่มชื้น และควบคุมความมัน
• Galactomyces Ferment Filtrate (Pitera) 20%: ความเข้มข้นที่ดีสำหรับการฟื้นฟูผิว แม้ว่าปริมาณที่สูงมากอาจทำให้รู้สึกมันเล็กน้อยได้
• Safe-B3™ 5%: ส่วนประกอบอเนกประสงค์ที่ดีเยี่ยมสำหรับริ้วรอย สีผิว เกราะป้องกันผิว และความมัน 5% เป็นความเข้มข้นมาตรฐานที่มีประสิทธิภาพ
• Silicone Blend (Heavy & Silky) 5%: ช่วยให้เนื้อสัมผัสเนียนนุ่มและเกลี่ยง่าย
• Warp Cream Maker™ 4%: เป็นอิมัลซิไฟเออร์ชนิด Water-in-Oil แสดงว่าเซรั่มของคุณน่าจะเป็นอิมัลชัน W/O 4% อยู่ในอัตราส่วนที่แนะนำ
• Mild Preserved Eco™ 1%: ทำหน้าที่เป็นสารกันเสียของคุณ 1% อยู่ในเกณฑ์ต่ำของอัตราส่วนที่แนะนำ (1-1.5%) สำหรับเครื่องสำอางทั่วไป แต่อาจเพียงพอขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของสูตรและสุขอนามัยระหว่างการผลิต/ใช้งาน
• Activated Resorcinol 1%: สารให้ความกระจ่างใสที่มีประสิทธิภาพสูง 1% เป็นปริมาณสูงสุดที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์แบบ Leave-on สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า Activated Resorcinol อาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่ความเข้มข้นสูง และต้องการสภาวะเฉพาะเพื่อความคงตัว

อัตราส่วนรวมปัจจุบันของคุณคือ 94% เหลืออีก 6% สำหรับน้ำหรือส่วนประกอบอื่นๆ เพิ่มเติม

ข้อแนะนำในการปรับปรุง:

1. ลดโอกาสการระคายเคืองและปรับปรุงเนื้อสัมผัส: พิจารณาลด DMAE (SkinTight MD™) Liquid จาก 5% เหลือ 3% นี่คืออัตราส่วนที่แนะนำเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดโดยลดความเสี่ยงที่จะเหนอะหนะหรือระคายเคือง โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับสารออกฤทธิ์อื่นๆ

2. เพิ่มความคงตัวและป้องกันการเปลี่ยนสี: Activated Resorcinol มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนสีและได้รับประโยชน์จากสารเพิ่มความคงตัว ขอแนะนำอย่างยิ่งให้เพิ่ม:

   • Disodium EDTA ที่ 0.2% เพื่อจับไอออนโลหะในน้ำ
   • ActiveProtec™ OX ที่ 0.6% (หรือ 0.1-1.0%) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

3. ปรับปรุงความคงตัวของอิมัลชัน: สำหรับอิมัลชัน Water-in-Oil ที่ใช้ Warp Cream Maker™ แนะนำให้เพิ่ม Magnesium Sulfate ที่ 1% เพื่อช่วยเพิ่มความคงตัวและป้องกันการแยกชั้น

4. เพิ่มสารลดการระคายเคือง: เนื่องจากมี DMAE และ Activated Resorcinol ในความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพ การเพิ่มสารลดการระคายเคือง เช่น Natural Bisabolol ที่ 0.5-1% (เช่น 1%) ขอแนะนำอย่างยิ่งเพื่อช่วยปลอบประโลมผิวและลดโอกาสการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้

ระดับ pH ที่แนะนำ:

ช่วง pH ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสารออกฤทธิ์หลักในสูตรของคุณคือระหว่าง 4.5 ถึง 5.5 ช่วงนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพและความคงตัวที่ดีที่สุดสำหรับ Activated Resorcinol, Safe-B3 และ L-Carnitine และยังเป็นช่วงที่ผิวสามารถทนได้ดี

ข้อเสนอแนะสูตรปรับปรุง (รวม 100 กรัม):

ตามข้อแนะนำ นี่คือสูตรปรับปรุงที่เสนอ:

• WATER: 55.2%
• DMAE (SkinTight MD™) Liquid: 3%
• L-Carnitine: 3%
• Galactomyces Ferment Filtrate (Pitera): 20%
• Safe-B3™: 5%
• Silicone Blend (Heavy & Silky): 5%
• Warp Cream Maker™: 4%
• Mild Preserved Eco™: 1%
• Activated Resorcinol: 1%
• Disodium EDTA: 0.2%
• ActiveProtec™ OX: 0.6%
• Natural Bisabolol: 1.0%
• Magnesium Sulfate: 1.0%

รวม: 100.0%

หมายเหตุเกี่ยวกับการผสม:

ปฏิบัติตามขั้นตอนมาตรฐานในการทำอิมัลชัน Water-in-Oil โดยใช้ Warp Cream Maker™ ละลายส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ (น้ำ, Disodium EDTA, Magnesium Sulfate, L-Carnitine, Safe-B3, Galactomyces Ferment Filtrate, Mild Preserved Eco) ในส่วนของน้ำ ละลายส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันได้ (Activated Resorcinol) ในส่วนของน้ำมัน/ซิลิโคน (Silicone Blend) พร้อมกับ Warp Cream Maker™ และ ActiveProtec™ OX ค่อยๆ เติมส่วนของน้ำลงในส่วนของน้ำมัน/ซิลิโคนขณะปั่น ผสมให้เข้ากันดี เติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน เช่น DMAE และ Galactomyces Ferment Filtrate เมื่อส่วนผสมเย็นลงต่ำกว่า 40°C ปรับ pH สุดท้ายให้อยู่ในช่วง 4.5-5.5

อย่าลืมเก็บผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในภาชนะทึบแสงเพื่อป้องกัน Activated Resorcinol จากแสงค่ะ