การตรวจสอบสูตรเซรั่มและคำแนะนำ

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรเซรั่มที่คุณเสนอและข้อกังวลเกี่ยวกับผิวของคุณค่ะ จากเป้าหมายของคุณที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ยกกระชับ ผิวขาวใส ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ และจัดการปัญหาสิวอุดตันและรูขุมขนกว้าง ส่วนผสมที่คุณเลือกมานั้นโดยรวมถือว่าเหมาะสมและตรงกับความต้องการเหล่านี้ค่ะ

นี่คือการตรวจสอบส่วนผสมและข้อควรพิจารณาสำหรับสูตรของคุณค่ะ:

• Galactomyces Ferment Filtrate (Pitera): เป็นที่รู้จักในด้านการฟื้นฟูและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ความเข้มข้น 42% ที่คุณเสนอมานั้นสูงมาก แม้ว่าผลิตภัณฑ์นี้สามารถใช้ได้ถึง 100% แต่ความเข้มข้นสูงอาจทำให้รู้สึกหนักหรือเหนอะหนะ ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับผิวผสมในส่วนที่มัน เป็นส่วนผสมที่ละลายน้ำได้และต้องเก็บในตู้เย็นสำหรับการเก็บรักษาในระยะยาว
• Repair Activator™ (Bifida Ferment Lysate): ส่วนผสมนี้มีศักยภาพในการช่วยซ่อมแซม DNA ของผิวที่เสียหาย เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอย ความเข้มข้น 15% ที่คุณเสนอมาอยู่ในช่วงที่แนะนำ (5-100%) ละลายน้ำได้ ต้องผสมในขั้นตอนสุดท้าย หลีกเลี่ยงความร้อน และเก็บในตู้เย็น มีค่า pH 4-5.5
• DMAE (SkinTight MD™) Liquid: ช่วยให้ผิวกระชับและลดเลือนริ้วรอย ความเข้มข้น 3% ที่คุณเสนอมาเป็นอัตราที่แนะนำ แม้จะมีประสิทธิภาพ แต่คำอธิบายระบุว่าอาจระคายเคืองผิวบอบบางได้ที่ความเข้มข้นสูง ดังนั้นการสังเกตปฏิกิริยาของผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในสูตรที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิด ละลายน้ำได้และควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C
• Pep®-Coll (Palmitoyl Tripeptide-5): เปปไทด์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อลดริ้วรอยและเพิ่มความกระชับ ความเข้มข้น 3% ที่คุณเสนอมาเป็นอัตราที่แนะนำ ละลายน้ำได้ ควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายที่อุณหภูมิต่ำกว่า 40°C และต้องเก็บในตู้เย็นสำหรับการเก็บรักษาในระยะยาว
• Ume Extract (Anti-Glycation): ช่วยต่อต้านกระบวนการไกลเคชั่นซึ่งทำให้ผิวดูเหลืองและหมองคล้ำ ช่วยในด้านการต่อต้านริ้วรอยและเพิ่มความกระจ่างใส ความเข้มข้น 3% ที่คุณเสนอมาอยู่ในช่วงที่แนะนำ (1-4%) ละลายน้ำได้ ผสมในน้ำ หลีกเลี่ยงความร้อนเกิน 40°C เติมในขั้นตอนสุดท้ายหากมีการใช้ความร้อน และควรมีค่า pH 4.0-6.5 ต้องเก็บในตู้เย็น
• Ectoine: ให้ประโยชน์ในการปกป้องเซลล์ ต่อต้านริ้วรอย ลดการระคายเคือง ให้ความชุ่มชื้น และปกป้องผิวจากมลภาวะ ความเข้มข้น 2% ที่คุณเสนอมาเป็นอัตราที่แนะนำ (0.5-2.0%) ละลายน้ำได้ ทนความร้อนได้ถึง 80°C และทนค่า pH ได้กว้าง (1-9)
• 4D Hyaluronic Acid: การผสมผสานของไฮยาลูรอนิคแอซิดหลายขนาดโมเลกุลเพื่อเติมความชุ่มชื้นหลายชั้น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว ความเข้มข้น 5% ที่คุณเสนอมาเหมาะสมสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง/ขาดน้ำ ละลายน้ำได้และต้องเก็บในตู้เย็นสำหรับการเก็บรักษาในระยะยาว
• WaterLock™ (Polyquaternium-51): เลียนแบบไขมันผิวเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้น ความเข้มข้น 2% ที่คุณเสนอมาเหมาะสมสำหรับผิวแห้ง ละลายน้ำได้ ทนความร้อนและค่า pH ได้กว้าง (3-8)
• Natural Moisturizing Amino Acids: เลียนแบบสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว (NMF) เพื่อให้ผิวนุ่มและชุ่มชื้น ความเข้มข้น 5% ที่คุณเสนอมาอยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.5-5%) ละลายน้ำได้
• Willow Bark Extract (Natural Salicylic Acid): ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการระคายเคือง และช่วยจัดการปัญหาสิวอุดตันและเพิ่มความหนาของผิว ความเข้มข้น 5% ที่คุณเสนอมาเหมาะสำหรับการเร่งการผลัดเซลล์ผิวและลดจุดด่างดำ ซึ่งจะช่วยในเรื่องสิวอุดตันและสีผิวไม่สม่ำเสมอ ละลายน้ำได้และควรหลีกเลี่ยงความร้อน ควรมีค่า pH 4.0-6.5
• Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): ให้ประโยชน์หลากหลาย เช่น ลดริ้วรอย ลดรอยแดง/ดำ ลดความมัน และเสริมเกราะป้องกันผิว ความเข้มข้น 10% ที่คุณเสนอมาเป็นอัตราสูงสุดที่แนะนำสำหรับเกรดความบริสุทธิ์สูงนี้ ทำงานเสริมฤทธิ์กับ Acetyl Glucosamine ในการเพิ่มความกระจ่างใส ละลายน้ำได้ ทนความร้อนได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการให้ความร้อนเป็นเวลานาน ควรมีค่า pH 3-8 (ดีที่สุด 4.0-7.0)
• GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine): ทำงานร่วมกับ Niacinamide เพื่อให้ผิวขาวกระจ่างใสและลดจุดด่างดำ และยังช่วยกระตุ้นการสร้างไฮยาลูรอนิคแอซิดเพื่อความชุ่มชื้น ความเข้มข้น 5% ที่คุณเสนอมาอยู่ในช่วงที่แนะนำ (1-8%) ละลายน้ำได้ ทนความร้อนได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการให้ความร้อนเป็นเวลานาน ควรมีค่า pH 3-7

ข้อควรพิจารณาในการทำสูตร:

เปอร์เซ็นต์ที่คุณระบุรวมกันได้ 100% ซึ่งหมายความว่าสูตรที่คุณเสนอประกอบด้วยส่วนผสมออกฤทธิ์ทั้งหมดโดยไม่มีเบส (เช่น น้ำ สารให้ความข้น ฯลฯ) เซรั่มที่ใช้งานได้จริงต้องมีเบสเป็นส่วนประกอบหลักเพื่อละลาย/กระจายส่วนผสมออกฤทธิ์ และให้เนื้อสัมผัสและความคงตัวที่ต้องการ เปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมออกฤทธิ์ควรคิดเทียบกับน้ำหนักรวมของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปทั้งหมด

การใช้ส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเข้มข้นสูง อาจเพิ่มโอกาสในการระคายเคืองหรือแพ้ได้ โดยเฉพาะสำหรับผิวผสมและผิวขาดน้ำ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาปริมาณรวมของส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ใช้กับผิว

ความเข้ากันได้:

ส่วนผสมที่คุณเลือกมาโดยทั่วไปเข้ากันได้ดี เนื่องจากส่วนใหญ่ละลายน้ำได้ อย่างไรก็ตาม คุณต้องให้ความสำคัญกับวิธีการผสมสำหรับส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน (Galactomyces Ferment Filtrate, Repair Activator, DMAE, Pep®-Coll, Ume Extract, Willow Bark Extract) ซึ่งควรเติมลงในเบสที่เย็นแล้ว (ต่ำกว่า 40°C) ในขั้นตอนสุดท้าย ค่า pH สุดท้ายของเซรั่มควรปรับให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิว (โดยทั่วไป 4.5-6.0) โดยคำนึงถึงช่วง pH ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับส่วนผสมออกฤทธิ์แต่ละชนิดด้วย

การปรับเป็นสูตรครีม:

ในการปรับสูตรเซรั่มนี้ให้เป็นเนื้อครีม คุณจะต้องสร้างอิมัลชันโดยการเพิ่มส่วนของน้ำมัน (oil phase) และสารอิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมเพื่อรวมส่วนของน้ำและน้ำมันเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ คุณจะต้องใส่สารเพิ่มความข้น (thickeners) หรือสารปรับเนื้อสัมผัส (rheology modifiers) เพื่อให้ได้เนื้อครีมตามที่ต้องการ

• เกี่ยวกับ Pitera (Galactomyces Ferment Filtrate): Pitera ละลายน้ำได้และสามารถใส่ในส่วนของน้ำของสูตรครีมได้ อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้น 42% อาจสูงเกินไปสำหรับอิมัลชันครีมที่คงตัวและจะทำให้เนื้อครีมเหลวมาก คุณจะต้องลดเปอร์เซ็นต์ของ Pitera ลงอย่างมากเมื่อทำสูตรครีม
• การแทนที่ Pitera: หากคุณลดความเข้มข้นของ Pitera หรือต้องการแทนที่ คุณสามารถเพิ่มเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำได้อื่นๆ ที่ให้ความชุ่มชื้นและต่อต้านริ้วรอยซึ่งมีอยู่ในรายการของคุณอยู่แล้ว (ภายในอัตราการใช้สูงสุดที่แนะนำ) เพื่อคงประโยชน์ที่ต้องการไว้ จากนั้นจึงเพิ่มส่วนของน้ำมัน สารอิมัลซิไฟเออร์ และสารเพิ่มความข้นเพื่อสร้างโครงสร้างของครีม
• การเพิ่มสารสร้างเนื้อครีม: ในการสร้างเนื้อครีม คุณต้องใช้สารอิมัลซิไฟเออร์ (เพื่อสร้างอิมัลชัน) และสารเพิ่มความข้น (เพื่อเพิ่มความหนืด) สารที่ใช้จะขึ้นอยู่กับเนื้อสัมผัสครีมที่คุณต้องการและความเข้ากันได้กับส่วนผสมออกฤทธิ์ที่เลือก ตัวอย่างของสารสร้างเนื้อครีม ได้แก่ อิมัลซิไฟอิ้งแวกซ์ชนิดต่างๆ และสารเพิ่มความข้นประเภทโพลิเมอร์ที่ออกแบบมาสำหรับอิมัลชัน

โดยสรุป การเลือกส่วนผสมของคุณตรงกับความต้องการของผิวได้ดี แต่การทำสูตรจำเป็นต้องมีเบสที่เหมาะสมและพิจารณาความเข้มข้นของส่วนผสมออกฤทธิ์อย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพและลดโอกาสการระคายเคือง การปรับเป็นครีมเกี่ยวข้องกับการเพิ่มส่วนของน้ำมัน สารอิมัลซิไฟเออร์ และสารเพิ่มความข้น และเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ เช่น Pitera จะต้องมีการปรับเปลี่ยนค่ะ