ตรวจสอบและปรับปรุงสูตรเครื่องสำอางสำหรับผิวแห้ง

ถามโดย: best_singnontad เมื่อ: May 29, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ดิฉันได้พัฒนาสูตรเครื่องสำอาง 3 สูตร และต้องการขอคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้วัตถุดิบ ความเข้ากันได้ ค่า pH และความเหมาะสมสำหรับผิวแห้ง ผู้ใช้คือพี่สาวอายุ 43 ปี มีผิวแห้ง มีริ้วรอย ตกกระ ใบหน้าหมองคล้ำ มีรอยดำซึ่งเกิดจากสิว

สูตรที่ 1 (100 g):

A : Active
1. Galactomyces Ferment Filtrate: 10 g.
2. CeraTouch™ Ceramide: 5 g.
3. FruitPeel™: 3 g.
4. Lemon Peel Bioferment: 2 g.
5. Plankton GP4G™: 2 g.
B : Base
1. Reservoir-Tech: 3 g.
2. 1,2-Hexanediol: 3 g.
3. PE1-Aqua: 2 g.
4. Phospholipid: 1 g.
5. Satin Cream Maker™: 1 g.
6. น้ำกลั่น: ส่วนที่เหลือ

คำถามเกี่ยวกับสูตรที่ 1:

FruitPeel™ ที่ความเข้มข้น 3% สามารถใช้ทาผิวหน้าได้ทุกวันโดยไม่มีอันตรายใช่ไหมค่ะ

สูตรที่ 2 (50 g):

A : Active (มีเพียงตัวเดียว)
1. Galactomyces Ferment Filtrate: 45 g.
B : Base
1. Reservoir-Tech: 1 g.
2. 1,2-Hexanediol: 1 g.
3. PE1-Aqua: 0.5 g.
4. Phospholipid: 0.5 g.
5. Satin Cream Maker™: 0.5 g.
6. น้ำกลั่น: 1.5 g.

คำถามเกี่ยวกับสูตรที่ 2:

ส่วนของน้ำกลั่นมีเพียง 1.5 g. สำหรับทำละลายและเพื่อรวม base ให้เป็นเนื้อเดียวกันอย่างกลมกลืน ปริมาณน้อยเกินไปไหมค่ะ ความตั้งใจคือ ต้องการใช้ Galactomyces ในสูตรที่ 2 นี้ ให้สูงถึง 90%
ใจจริงอยากเพิ่ม active เข้าไปในสูตรนี้อีกสัก 2-3 ตัว ตัวละสัก 1 % แต่ไม่รู้จะลดปริมาณสารสร้าง base ลงยังไง เพราะพยายามจะใช้สารสร้าง base ตามคำแนะนำหน้าเว็บไว้ก่อน กลัวจะไม่ได้ผล หาก staff มีคำแนะนำให้ลดหรือเพิ่มสารสร้าง base ตัวใด รบกวนแนะนำด้วยค่ะ

สูตรที่ 3 (100 g):

A : Active (ส่วนของน้ำมัน)
1. Perfect-C™: 5 g.
2. Wild Yam Extract: 3 g.
B : Base
1. MOIST24: 5 g.
2. 1,2-Hexanediol: 3 g.
3. Phospholipid: 2 g.
4. Satin Cream Maker™: 2 g.
5. น้ำกลั่น: ส่วนที่เหลือ

คำถามทั่วไปสำหรับทุกสูตร:

ทั้ง 3 สูตร มีสูตรใดควรต้องกังวลเรื่องค่า pH ไหมค่ะ

คำตอบ

สวัสดีค่ะ

ทีมงานได้ตรวจสอบสูตรทั้ง 3 สูตรที่ท่านสมาชิกได้สอบถามมา พร้อมให้คำแนะนำโดยละเอียดแล้วค่ะ ขอสรุปคำแนะนำดังนี้ค่ะ

คำถามทั่วไป:

ความเข้ากันได้ของ PE1-Aqua และ Reservoir-Tech: ทีมงานยืนยันว่า PE1-Aqua และ Reservoir-Tech เหมาะสำหรับใช้ในสูตรที่เป็นเบสน้ำ สำหรับสูตรที่เป็นน้ำมัน (เช่น สูตรที่ 3) ไม่ควรใช้ PE1-Aqua และ Reservoir-Tech ในการช่วยนำพาสาร ท่านสมาชิกเข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ ในกรณีนี้ การใช้ Phospholipid เป็นทางเลือกที่เหมาะสมในการช่วยนำพาสารเข้าสู่ผิวค่ะ (และต้องปั่นหรือคนให้ Phospholipid ละลายได้อย่างสมบูรณ์ในสูตร) สำหรับสูตรที่ 1 และ 2 ซึ่งเป็นเบสน้ำ ทีมงานไม่ได้ระบุถึงความไม่เข้ากันกับส่วนผสมอื่นๆ ที่ท่านสมาชิกใส่มาค่ะ
ข้อกังวลเรื่องค่า pH: ทีมงานแจ้งว่าส่วนผสมทั้งหมดในทั้ง 3 สูตรมีค่า pH เป็นกลางหรือเป็นกรดเล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องตรวจวัดหรือปรับค่า pH ค่ะ ค่า pH ของทุกสูตรจะอยู่ในช่วง 4-7 ซึ่งเหมาะสมกับผิวแล้วค่ะ

คำแนะนำสำหรับแต่ละสูตร:

สูตรที่ 1 (สำหรับผิวแห้ง มีริ้วรอย ตกกระ ใบหน้าหมองคล้ำ รอยดำจากสิว):
- ทีมงานแนะนำว่าลักษณะสูตรนี้เหมาะสำหรับผิวธรรมดามากกว่าผิวแห้งค่ะ สำหรับผิวแห้ง ควรพิจารณาเติมส่วนผสมของน้ำมันหรือบัตเตอร์ลงในสูตรอย่างน้อย 10% เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้เพียงพอต่อผิว ซึ่งจะช่วยให้การบำรุงด้านอื่นๆ เช่น ริ้วรอย หรือ whitening ได้ผลดีขึ้นค่ะ สามารถเลือกใช้น้ำมันธรรมชาติทั่วไป เช่น Olive Oil, Squalane, Jojoba Oil หรือ Butter เช่น Shea Butter ได้ค่ะ
- การใช้ Satin Cream Maker ที่ 1% อาจทำให้เนื้อครีมค่อนข้างเหลว หากผสมแล้วพบว่าเหลวเกินไป สามารถเพิ่ม Satin Cream Maker ได้ค่ะ
- FruitPeel™ ที่ความเข้มข้น 3% สามารถใช้ทาผิวหน้าได้ทุกวันโดยไม่มีอันตรายค่ะ
สูตรที่ 2 (สำหรับผิวแห้ง มีริ้วรอย ชอบนอนดึก เน้น Galactomyces):
- เช่นเดียวกับสูตรที่ 1 ทีมงานแนะนำให้เติมส่วนผสมของน้ำมันหรือบัตเตอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้งค่ะ
- สำหรับส่วนของน้ำกลั่น ทีมงานแนะนำว่าท่านสมาชิกสามารถถือว่า Galactomyces Ferment Filtrate (Pitera) เป็นน้ำได้เลยค่ะ และนำส่วนผสมอื่นๆ ที่ละลายน้ำได้ มาละลายใน Pitera ได้ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องเหลือน้ำกลั่นไว้ 1.5 g. ค่ะ
- ทีมงานให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า การใช้ Pitera ที่ความเข้มข้น 40-60% ของสูตรก็เพียงพอที่จะให้ประสิทธิภาพได้แล้วค่ะ การเลือกใช้ส่วนผสมที่หลากหลาย มักจะให้ประโยชน์ได้มากกว่าการใช้ส่วนผสมเดี่ยวในปริมาณที่สูงมากๆ ค่ะ
สูตรที่ 3 (สำหรับผิวมันทีโซน ขาดน้ำ มีริ้วรอยเล็กๆ):
- ท่านสมาชิกเข้าใจถูกต้องแล้วค่ะว่า PE1-Aqua และ Reservoir-Tech ไม่เหมาะสำหรับสูตรที่มีส่วนผสมของน้ำมันเป็น Active หลัก
- การใช้ Phospholipid ในการช่วยนำพาสารในสูตรนี้เป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้วค่ะ ข้อสำคัญคือ ต้องปั่นหรือคนจน Phospholipid ละลายได้อย่างสมบูรณ์ในสูตรค่ะ