การตรวจสอบและปรับปรุงสูตรแชมพู

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรแชมพูของคุณค่ะ เรามาตรวจสอบสูตรตามเป้าหมายของคุณที่ต้องการฟองมากและไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) รวมถึงตอบคำถามเฉพาะของคุณนะคะ

สูตรปัจจุบันของคุณใช้ Baby Foam (Sodium Cocoyl Isethionate) เป็นสารลดแรงตึงผิวหลัก และ Lauryl Glucoside เป็นสารลดแรงตึงผิวร่วม Baby Foam เป็นสารลดแรงตึงผิวประจุลบที่อ่อนโยน ให้ฟองแบบครีม ในขณะที่ Lauryl Glucoside เป็นสารลดแรงตึงผิวไม่มีประจุที่อ่อนโยน การผสมผสานนี้ให้การทำความสะอาดที่อ่อนโยนค่ะ

สำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับความเข้มข้นของสารลดแรงตึงผิว สูตรของคุณมีความเข้มข้นของสารลดแรงตึงผิวรวม 20% (Baby Foam 15% + Lauryl Glucoside 5%) ซึ่งโดยทั่วไปเพียงพอสำหรับแชมพู Lauryl Glucoside 5% ใช้เป็นสารลดแรงตึงผิวร่วม แม้ว่า 5% ของสารลดแรงตึงผิวชนิดเดียวอาจจะน้อย แต่ความเข้มข้นรวมก็เพียงพอ อย่างไรก็ตาม ชนิด ของสารลดแรงตึงผิวร่วมมีผลอย่างมากต่อปริมาณและคุณภาพของฟองค่ะ

Lauryl Glucoside กับ Coco Betaine เมื่อใช้ร่วมกับ Baby Foam

เพื่อให้ได้ปริมาณฟองที่มากขึ้น การใช้ Coco Betaine (Cocamidopropyl Betaine) เป็นสารลดแรงตึงผิวร่วมกับ Baby Foam โดยทั่วไปจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ Lauryl Glucoside Coco Betaine เป็นสารลดแรงตึงผิวแบบ Amphoteric ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านคุณสมบัติการเพิ่มฟองและสร้างฟองที่เนียนละเอียด ทำให้เป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Baby Foam ในการเพิ่มประสิทธิภาพการเกิดฟองค่ะ

การใส่น้ำหอม

โดยทั่วไปควรใส่น้ำหอมในขั้นตอนสุดท้ายของการผลิต หลังจากผสมส่วนผสมอื่นๆ ทั้งหมดแล้วและอุณหภูมิเย็นลง คุณสามารถใส่น้ำหอมลงในส่วนของน้ำหรือส่วนผสมหลักได้โดยตรงและคนเบาๆ จนเข้ากันดีค่ะ

ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงสูตร

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเกิดฟองในขณะที่ยังคงความอ่อนโยนและรวมส่วนผสมที่คุณต้องการ นี่คือสูตรปรับปรุงที่แนะนำค่ะ:

• DI Water: ส่วนที่เหลือให้ครบ 100%
• Disodium EDTA: 0.2%
• Baby Foam (Sodium Cocoyl Isethionate): 15%
• Coco Betaine (Cocamidopropyl Betaine): 8% (เพิ่มเพื่อช่วยเพิ่มฟอง)
• Lauryl Glucoside: 2% (ลดลง ยังคงช่วยเรื่องความอ่อนโยน)
• SugarThick (PEG-120 Methyl Glucose Dioleate): 2%
• Panthenol (Vitamin B5): 0.5% (ปรับตามอัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับแชมพู เพื่อหลีกเลี่ยงความเหนอะหนะที่อาจเกิดขึ้น)
• Pure Keratin: 1%
• Hydrolyzed Silk Protein (Sericin): 0.5% (ปรับตามช่วงการใช้ที่แนะนำ)
• Biotin Express (Biotin): 1% (พิจารณาเพิ่มสารป้องกันแสง UV หากใช้บรรจุภัณฑ์ใส เนื่องจาก Biotin ไวต่อแสง)
• Poly-Conditioner Pro: 0.5% (ปรับตามอัตราการใช้ที่แนะนำ เพื่อหลีกเลี่ยงความข้นหนืดที่มากเกินไป)
• WaterLock (Polyquaternium-51): 2%
• น้ำหอม: 1%
• สารกันเสีย: q.s. (จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อความคงตัวและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์)
• สารปรับ pH (เช่น Citric Acid หรือ Lactic Acid): q.s. ปรับ pH ให้อยู่ในช่วง 5.0-6.5

หมายเหตุเกี่ยวกับการปรับปรุง:

• เราได้แทนที่ Lauryl Glucoside บางส่วนด้วย Coco Betaine เพื่อปรับปรุงปริมาณและคุณภาพของฟอง
• ปรับอัตราการใช้ Panthenol, Sericin และ Poly-Conditioner Pro ตามคำแนะนำทั่วไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเนื้อสัมผัส
• เพิ่มตัวยึดตำแหน่งสำหรับสารกันเสีย ซึ่งสำคัญมากสำหรับความคงตัวและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
• เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับ pH โดยเฉพาะเมื่อใช้ Lauryl Glucoside
• สำหรับผลิตภัณฑ์แบบล้างออก เช่น แชมพู การอุดตันของรูขุมขนเป็นสิ่งที่น่ากังวลน้อยกว่าสำหรับหนังศีรษะเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์แบบทาทิ้ง ส่วนผสมที่ใช้โดยทั่วไปเหมาะสมกับการใช้งานนี้ค่ะ

สูตรที่ปรับปรุงนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ได้ฟองที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ยังคงคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ของส่วนผสมอื่นๆ และให้ผลิตภัณฑ์ที่คงตัวและน่าใช้ค่ะ