การตรวจสอบสูตรและคำแนะนำ

สูตรแชมพูของคุณมีการผสมผสานส่วนผสมที่ดีสำหรับแชมพูที่ไม่มีซัลเฟต มีคุณสมบัติขจัดรังแคและปรับสภาพเส้นผม รวมถึงส่วนผสมที่ช่วยบำรุงการเจริญเติบโตของเส้นผมและน้ำหอม

นี่คือรายละเอียดของส่วนผสมและเปอร์เซ็นต์ พร้อมคำแนะนำ:

• Distilled water (43%): เป็นส่วนประกอบหลัก ปริมาณนี้เหมาะสมเมื่อเทียบกับส่วนผสมอื่นๆ
• Sulfate Free Shampoo Base (pH 7, Clear, Foaming) (30%): เป็นเบสทำความสะอาดหลักของคุณ 30% อยู่ในช่วงการใช้งานที่แนะนำสำหรับสูตรผู้ใหญ่ (30-35%) เบสนี้ทำงานได้ดีกับสารลดแรงตึงผิวแบบ Amphoteric เช่น Cocamidopropyl Betaine เพื่อปรับความข้นด้วยเกลือ หากต้องการ
• Cetrimonium Chloride (CTAC) (2%): เป็นสารปรับสภาพประจุบวก 2% อยู่ในระดับสูงของช่วงที่แนะนำ (0.5-2.0%) สำหรับครีมนวดผม/แชมพูแบบล้างออก ช่วยลดไฟฟ้าสถิตและทำให้ผมนุ่มลื่นขึ้น
• Pure-Biotin™ (0.10%): สำหรับช่วยบำรุงการเจริญเติบโตของเส้นผม 0.10% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.1-0.2%) สำหรับรูปแบบผง โปรดทราบว่า Pure-Biotin™ ไวต่อแสง UV ดังนั้นแนะนำให้เพิ่ม UV Filter เพื่อความคงตัวของสูตร คำอธิบายยังแนะนำให้เพิ่ม Urea (3-7%) และ Triacetin (ประมาณ 10% ของ Urea) เพื่อช่วยให้ Biotin ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น สูตรปัจจุบันของคุณยังไม่มีส่วนผสมเหล่านี้
• Poly-Conditioner Eco (Polyquaternium-7) (2%): เป็นสารปรับสภาพที่ไม่ใช่ซิลิโคน 2% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (1-3%) สำหรับแชมพู ช่วยให้ผมนุ่มลื่น
• Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free) (1%): เป็นสารกันเสียของคุณ 1% อยู่ในระดับต่ำของช่วงที่แนะนำ (1.0-1.5%) สำหรับเครื่องสำอางทั่วไป แม้ว่าจะเพียงพอ โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด แต่แนะนำให้ทำการทดสอบ Challenge Test เสมอเพื่อให้แน่ใจว่ามีการกันเสียที่เพียงพอ สามารถทนความร้อนได้ถึง 80°C เป็นเวลาสั้นๆ และใช้ได้ในช่วง pH 4-9
• Zinc Pyrithione (Dandruff, Sebderm) Liquid (2%): เป็นสารออกฤทธิ์ขจัดรังแค รูปแบบของเหลวโดยทั่วไปมีสารออกฤทธิ์ 48-50% ดังนั้น 2% ของเหลวให้ Zinc Pyrithione ออกฤทธิ์ประมาณ 1% ซึ่งอยู่ในความเข้มข้นที่อนุญาต (สูงสุด 2% ออกฤทธิ์) สำหรับแชมพูขจัดรังแคแบบล้างออกตามข้อกำหนด ไม่ละลายน้ำและต้องกระจายตัวได้ดี หลีกเลี่ยงการใช้ EDTA หรือสารออกซิไดซ์ที่รุนแรง
• Dandruff-Guard™ (Piroctone Olamine) (0.5%): เป็นสารออกฤทธิ์ขจัดรังแคอีกชนิดหนึ่ง 0.5% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.5-1.0%) สำหรับแชมพูขจัดรังแค การใช้ร่วมกับ Zinc Pyrithione สามารถให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการขจัดรังแค เป็นผงที่ต้องกระจายตัวในน้ำก่อน แล้วจึงเติมลงในสูตรแชมพู หลีกเลี่ยงความร้อนสูงกว่า 80°C นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความหนืดของสูตรได้
• Cocamidopropyl Betaine (Coco Betaine) (15%): คุณถามว่าจำเป็นหรือไม่และควรใช้เท่าใด ใช่ จำเป็นและมีประโยชน์ในสูตรที่ไม่มีซัลเฟต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้เบสอย่าง Sulfate Free Shampoo Base ซึ่งได้รับประโยชน์จากสารลดแรงตึงผิวร่วมแบบ Amphoteric ในการปรับความหนืดด้วยเกลือ ช่วยให้ฟองมีคุณภาพดี (ละเอียดและนุ่ม) และอ่อนโยน 15% เป็นปริมาณที่เหมาะสมสำหรับสารลดแรงตึงผิวร่วมในสูตรแชมพู (ช่วงทั่วไป 15-30% เมื่อใช้เป็นสารทำความสะอาดหลักหรือสารลดแรงตึงผิวร่วม)
• Centella Leaves Liquid (สารสกัดใบบัวบก) (2%): สารสกัดนี้มีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมและสมานผิว 2% อยู่ในช่วงการใช้งานทั่วไปสำหรับสารสกัด รูปแบบผง (Centella Asiatica Extract Madecassoside 90%) แนะนำให้ผสมในขั้นตอนสุดท้าย ไม่ให้โดนความร้อน และทำงานได้ดีที่สุดในช่วง pH 4-6.5 คุณควรตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะและการใช้งานที่แนะนำของผลิตภัณฑ์ Centella Leaves Liquid ของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับความไวต่อความร้อนและช่วง pH ที่เหมาะสม เนื่องจาก pH 7 ของเบสแชมพูอาจส่งผลต่อความคงตัวหรือประสิทธิภาพ หากมีพฤติกรรมคล้ายกับรูปแบบผง
• Flora Fix™ (long lasting fragrance) (0.3%): เป็นสารช่วยตรึงกลิ่นหอม คำอธิบายแนะนำให้ใช้ในอัตราเดียวกับน้ำหอม (1-5%) ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น ครีมและสบู่ เปอร์เซ็นต์ของคุณ (0.3%) ต่ำกว่าเปอร์เซ็นต์น้ำหอมของคุณ (1%) คุณอาจพิจารณาเพิ่มเปอร์เซ็นต์ของ Flora Fix™ ให้เท่ากับหรือใกล้เคียงกับเปอร์เซ็นต์น้ำหอม เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น หากต้องการ ควรผสมกับน้ำหอมก่อนเติมลงในสูตรหลัก หลีกเลี่ยงความร้อนสูง
• Cotton Blossom (น้ำหอม) (1%): 1% เป็นอัตราการใช้งานทั่วไปสำหรับน้ำหอมในแชมพู
• Color powder (0.1%): สำหรับความสวยงาม 0.1% เป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นชนิดที่ละลายน้ำได้และละลายหรือกระจายตัวได้เต็มที่

เปอร์เซ็นต์รวม: เปอร์เซ็นต์ปัจจุบันของคุณรวมกันได้ 98% โปรดตรวจสอบการวัดของคุณอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่ารวมกันได้ 100%

สารช่วยละลายน้ำหอม: คุณถามว่าจำเป็นต้องใช้สารช่วยละลายน้ำหอมหรือไม่ สารลดแรงตึงผิวในสูตรของคุณ (Sulfate Free Shampoo Base และ Cocamidopropyl Betaine) จะช่วยละลายน้ำหอม สารช่วยละลายเฉพาะทางเพิ่มเติม เช่น Flora Solve™ Clear อาจไม่จำเป็นอย่างยิ่ง แต่สามารถช่วยให้มั่นใจได้ว่าน้ำหอมกระจายตัวได้เต็มที่และผลิตภัณฑ์ยังคงใส (หากต้องการลักษณะเช่นนั้น)

ขั้นตอนการผสม

นี่คือขั้นตอนการผสมที่แนะนำสำหรับสูตรแชมพูของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ของคุณสะอาดและฆ่าเชื้อแล้วเสมอ

1. ส่วนของน้ำ: ในภาชนะผสมหลักของคุณ ให้เติมน้ำกลั่น
2. เติมสารลดแรงตึงผิวและสารปรับสภาพ: เติม Sulfate Free Shampoo Base, Cocamidopropyl Betaine, Cetrimonium Chloride และ Poly-Conditioner Eco ลงในน้ำ คนเบาๆ แต่ทั่วถึงจนส่วนผสมทั้งหมดละลายและเข้ากันดี หลีกเลี่ยงการสร้างฟองมากเกินไป
3. กระจาย Dandruff-Guard™: ในภาชนะเล็กๆ แยกต่างหาก กระจายผง Dandruff-Guard™ ในน้ำกลั่นเล็กน้อย คนหรือปั่นจนกระจายตัวสม่ำเสมอ (จะไม่ละลายหมด) เติมส่วนที่กระจายตัวนี้ลงในส่วนผสมหลักและคนให้เข้ากัน
4. เติม Zinc Pyrithione: เติม Zinc Pyrithione Liquid ลงในส่วนผสมหลัก ปั่นด้วยความเร็วสูงเล็กน้อยเพื่อให้แน่ใจว่า Zinc Pyrithione กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งสูตร
5. น้ำหอมและสารตรึงกลิ่น: ในภาชนะเล็กๆ แยกต่างหาก ผสมน้ำหอม Cotton Blossom กับ Flora Fix™ เติมส่วนผสมนี้ลงในสูตรหลักและคนเบาๆ จนเข้ากัน หลีกเลี่ยงความร้อนสูงในขั้นตอนนี้
6. เติมสารกันเสียและสารสกัด: เติม Mild Preserved Eco™ และ Centella Leaves Liquid ลงในส่วนผสมหลัก คนเบาๆ จนเข้ากันดี หมายเหตุ: หาก Centella Leaves Liquid ของคุณมีข้อกำหนดเฉพาะเกี่ยวกับ pH หรือความร้อน ให้ปรับขั้นตอนการผสมตามความเหมาะสม อาจจะดีกว่าถ้าเติมในอุณหภูมิที่ต่ำลง หรือหลังจากการปรับ pH หากจำเป็น
7. กระจาย Biotin: กระจายผง Pure-Biotin™ ในส่วนผสมแชมพูหรือน้ำกลั่นเล็กน้อยโดยการปั่น เติมส่วนที่กระจายตัวนี้ลงในสูตรหลักและปั่นสั้นๆ เพื่อให้แน่ใจว่ากระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ หมายเหตุ: พิจารณาเพิ่ม Urea และ Triacetin พร้อมกับ Biotin หากต้องการเพิ่มการซึมผ่าน
8. เติมสี: ละลายผงสีในน้ำกลั่นเล็กน้อย เติมน้ำสีนี้ทีละหยดลงในส่วนผสมหลัก คนเบาๆ จนได้สีที่ต้องการ
9. การปรับขั้นสุดท้าย: คนส่วนผสมทั้งหมดเบาๆ ตรวจสอบค่า pH ของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย แม้ว่าเบสจะมี pH 7 การปรับ pH สุดท้ายให้เป็นกรดเล็กน้อย (เช่น pH 5.5-6.5) โดยทั่วไปจะดีกว่าสำหรับเกล็ดผมและสุขภาพหนังศีรษะ อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดของคุณ โดยเฉพาะสารออกฤทธิ์ เช่น Zinc Pyrithione และ Centella Extract มีความคงตัวที่ pH เป้าหมาย หากคุณต้องการเพิ่มความหนืดของสูตร คุณสามารถลองเติมเกลือ (Sodium Chloride) ทีละน้อยขณะคนเบาๆ ตามที่แนะนำสำหรับ Sulfate Free Shampoo Base ปล่อยส่วนผสมทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงเพื่อให้ความหนืดคงที่
10. ไล่ฟองอากาศ: ปล่อยแชมพูที่ทำเสร็จแล้วทิ้งไว้โดยไม่รบกวนเป็นเวลาหลายชั่วโมงหรือข้ามคืน เพื่อให้ฟองอากาศที่ติดอยู่ลอยขึ้นและสลายไป

อย่าลืมทำการทดสอบความคงตัวของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมยังคงมีความคงตัวและสูตรยังคงลักษณะและประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไป