ทบทวนสูตรสำหรับ Keratosis Pilaris ที่มีส่วนผสมผลัดเซลล์ผิวหลายชนิด
คำถาม
ฉันได้ทำสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมและเปอร์เซ็นต์ดังนี้:
- Glycolic Acid (AHA) 100% Powder 2.5%
- Lactic Acid (AHA) 90% Deodorized 10%
- Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble) 5%
- Urea 10%
- Allantoin 0.5%
- Double Hyaluron Liquid 7.25%
- Safe-B3™ 5%
- Aloe Vera Extract 3%
- Light Cream Maker™ 1.5%
- Phenoxyethanol SA 1.25%
- น้ำกลั่น 54%
มีตรงไหนต้องปรับมั๊ยครับ กรดแรงไปหรือเปล่า สารให้ความชุ่มชื้นเพียงพอหรือไม่?
คำตอบ
การทบทวนสูตรสำหรับ Keratosis Pilaris
สูตรนี้ใช้ส่วนผสมของสารผลัดเซลล์ผิว (Glycolic Acid, Lactic Acid, Salicylic Acid และ Urea) และส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น/ปลอบประโลมผิว (Urea, Allantoin, Double Hyaluron Liquid, Safe-B3™, Aloe Vera Extract) เพื่อจัดการกับปัญหา Keratosis Pilaris
มาทบทวนความเข้มข้นและข้อควรพิจารณาที่อาจเกิดขึ้น:
ส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว
- Glycolic Acid (Glycopure™ 100% Powder) 2.5%: ความเข้มข้นนี้อยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับการใช้ในเครื่องสำอางทั่วไป (ไม่เกิน 5%) Glycolic acid มีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวเนื่องจากมีโมเลกุลขนาดเล็ก
- Lactic Acid (AHA) 90% Deodorized 10%: นี่คือความเข้มข้นสูงสุดที่แนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค (ไม่เกิน 10%) Lactic acid ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวและปรับปรุงความชุ่มชื้นของผิวโดยการเพิ่มเซราไมด์
- Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble) 5%: ส่วนผสมนี้มี Salicylic Acid 40% ซึ่งหมายความว่าความเข้มข้นสุดท้ายของ Salicylic Acid ในสูตรของคุณคือ 2% (5% * 0.40) Salicylic Acid 2% เป็นระดับสูงสุดที่ อย. อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Salicylic acid สามารถละลายในน้ำมันได้และมีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวในรูขุมขน
- Urea 10%: ที่ความเข้มข้นนี้ Urea ให้ทั้งความชุ่มชื้นที่สำคัญและผลัดเซลล์ผิว (keratolytic)
ความแรงโดยรวมของการผลัดเซลล์ผิว: การรวมกันของสารผลัดเซลล์ผิวสี่ชนิดที่แตกต่างกัน (Glycolic Acid, Lactic Acid, Salicylic Acid และ Urea) ที่ความเข้มข้นเหล่านี้ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ทรงพลังมาก แม้ว่าสิ่งนี้จะมีประสิทธิภาพสำหรับ Keratosis Pilaris ที่รุนแรง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดการระคายเคือง รอยแดง ความแห้งกร้าน และการลอก โดยเฉพาะสำหรับผิวแพ้ง่าย การใช้สูตรนี้ในรูปแบบ leave-on ถือว่าค่อนข้างแรง สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตปฏิกิริยาของผิวเมื่อใช้สูตรนี้
ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ: ระดับ pH: ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสารผลัดเซลล์ผิวกลุ่ม AHA และ BHA ขึ้นอยู่กับค่า pH ของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก สารเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ pH ต่ำ (โดยทั่วไปต่ำกว่า 4.0) แต่ pH ที่ต่ำลงจะเพิ่มโอกาสในการระคายเคือง สารกันเสีย (Phenoxyethanol SA) ยังต้องการ pH ระหว่าง 2.0 ถึง 6.0 เพื่อให้มีประสิทธิภาพ Urea สามารถทำให้ pH สูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะในอุณหภูมิที่สูงขึ้น คุณ ต้อง วัดและปรับค่า pH สุดท้ายของสูตรเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในช่วงที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ (โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 3.5 ถึง 4.0 สำหรับผลิตภัณฑ์ AHA/BHA สำหรับผู้บริโภค แม้ว่าช่วงนี้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้เมื่อใช้ร่วมกับส่วนผสมและความเข้มข้นนี้) คุณควรพิจารณาการทำให้ Urea เสถียรตามที่แนะนำในรายละเอียดผลิตภัณฑ์ โดยใช้ส่วนผสมเช่น Gluconolactone หรือ Triacetin เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงของ pH
ส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิว
- Urea 10%: ดังที่กล่าวไปแล้ว ให้ความชุ่มชื้นที่สำคัญนอกเหนือจากการผลัดเซลล์ผิว รายละเอียดผลิตภัณฑ์แนะนำให้ใช้ Urea ร่วมกับ Sodium PCA และ Sodium Lactate เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้น ซึ่งยังไม่ได้อยู่ในสูตรของคุณ
- Allantoin 0.5%: อยู่ในช่วงอัตราการใช้ที่แนะนำและช่วยลดการระคายเคืองและปลอบประโลมผิว
- Double Hyaluron Liquid 7.25%: ให้ Hyaluronic Acid จริง 0.3625% ความเข้มข้นนี้อยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับผิวแห้งและช่วยให้ความชุ่มชื้นที่ผิวชั้นบน
- Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide) 5%: เป็นความเข้มข้นที่ดีสำหรับการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ และปรับปรุงความชุ่มชื้น ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผิวที่มีแนวโน้มเป็น Keratosis Pilaris
- Aloe Vera Extract 3%: อยู่ในช่วงที่แนะนำและให้ประโยชน์ในการปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้น
ระดับความชุ่มชื้น/ปลอบประโลมโดยรวม: สูตรนี้มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวที่ดีในความเข้มข้นที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงความเข้มข้นสูงและการรวมกันของสารผลัดเซลล์ผิว คุณอาจพบว่าจำเป็นต้องเพิ่มสารให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวเพิ่มเติมเพื่อลดการระคายเคืองและความแห้งกร้านที่อาจเกิดขึ้น พิจารณาเพิ่ม Sodium PCA และ Sodium Lactate ตามที่แนะนำสำหรับ Urea หรือเพิ่มความเข้มข้นของส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิวอื่นๆ หากจำเป็น โดยต้องเข้ากันได้กับ pH ต่ำที่จำเป็นสำหรับสารผลัดเซลล์ผิว
ส่วนผสมอื่นๆ
- Light Cream Maker™ 1.5%: อยู่ในช่วงที่แนะนำ โปรดทราบว่า Lactic Acid และ Aloe Vera Extract เป็นอิเล็กโทรไลต์และสามารถลดความหนืดที่ได้จาก Light Cream Maker™ คุณอาจต้องปรับเปอร์เซ็นต์หรือวิธีการผสมเพื่อให้ได้เนื้อครีมที่ต้องการ
- Phenoxyethanol SA 1.25%: นี่คือระดับสูงสุดที่แนะนำสำหรับสารกันเสีย เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ในภาชนะเปิด ตรวจสอบให้แน่ใจว่า pH สุดท้ายอยู่ในช่วงที่มีประสิทธิภาพ (2.0-6.0)
สรุปและข้อเสนอแนะ
สูตรของคุณเป็นการรักษา Keratosis Pilaris ที่มีประสิทธิภาพด้วยการรวมกันของสารผลัดเซลล์ผิวที่ทรงพลัง ส่วนประกอบที่ให้ความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวมีอยู่ แต่จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงเพื่อสร้างสมดุลกับศักยภาพในการผลัดเซลล์ผิวที่สูง สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาคือ:
- การปรับและทำให้ pH เสถียร: คุณ ต้อง วัดและปรับค่า pH สุดท้ายให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม (โดยทั่วไป 3.5-4.0) เพื่อให้สารผลัดเซลล์ผิวและสารกันเสียมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด พิจารณาเพิ่มสารทำให้ Urea เสถียร เช่น Gluconolactone หรือ Triacetin
- โอกาสในการระคายเคือง: สูตรนี้เป็นสูตรที่แรงมาก เริ่มต้นด้วยการทดสอบบนผิวหนังบริเวณเล็กๆ และพิจารณาลดความเข้มข้นของสารผลัดเซลล์ผิวอย่างน้อยหนึ่งชนิดหากเกิดการระคายเคือง คุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้สารผลัดเซลล์ผิวทั้งสี่ชนิดในระดับความเข้มข้นนี้
- เพิ่มความชุ่มชื้น: พิจารณาเพิ่ม Sodium PCA และ Sodium Lactate เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นของ Urea และช่วยลดความแห้งกร้านที่อาจเกิดขึ้นจากการผลัดเซลล์ผิว
ควรทำการทดสอบบนผิวหนังบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ในบริเวณกว้างเสมอ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Allantoin

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)

Light Cream Maker™

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)

Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)

Sodium PCA 50%

Double Hyaluron Liquid

Glycopure™ (Glycolic Acid (AHA) 100% Powder)

Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)

Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
