ทำไมค่า SPF ถึงจำกัดที่ 50+? และ SPF 100 ดีกว่ามากจริงหรือ?

ถามโดย: mamujin1234 เมื่อ: October 18, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

เกี่ยวกับข้อกำหนดที่จำกัดการแสดงค่า SPF บนฉลากผลิตภัณฑ์ไว้ที่ SPF 50+ ในหลายประเทศ รวมถึง อย. ของไทยด้วย อยากทราบว่าข้อจำกัดนี้มีเหตุผลอย่างไร และการกล่าวอ้างค่า SPF 100 ให้ประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับ SPF 50+ จริงหรือไม่?

คำตอบ

เกี่ยวกับการกล่าวอ้างค่า SPF 100

จากข้อมูลที่ได้รับ การกล่าวอ้างค่า SPF 100 บนผลิตภัณฑ์มักถูกมองว่าเป็นการโฆษณาที่เกินจริง หรือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด มากกว่าที่จะสะท้อนถึงการป้องกันที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับค่า SPF ที่ต่ำกว่า เช่น 50+ ครับ/ค่ะ

เหตุผลคือ:

  • ประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นน้อยมาก: ค่า SPF วัดการป้องกันรังสี UVB เป็นหลัก แม้ว่าทางเทคนิคแล้ว SPF 100 จะสามารถป้องกัน UVB ได้มากกว่า SPF 50 เล็กน้อย แต่ความแตกต่างนั้นน้อยมาก (เช่น SPF 50 ป้องกันได้ประมาณ 98% ส่วน SPF 100 ป้องกันได้มากกว่านั้นเพียงเล็กน้อย) เปอร์เซ็นต์การป้องกันที่เพิ่มขึ้นนั้นน้อยมากเมื่อเกินกว่า SPF 30 หรือ 50 ไปแล้ว
  • การป้องกัน UVA เป็นสิ่งสำคัญ: ค่า SPF ไม่ได้แสดงถึงการป้องกันรังสี UVA อย่างสมบูรณ์ ซึ่งรังสี UVA มีความสำคัญต่อการป้องกันผิวแก่ก่อนวัยและมะเร็งผิวหนัง ค่า SPF ที่สูงไม่ได้หมายความว่าจะมีการป้องกัน UVA ที่เพียงพอเสมอไป
  • ข้อจำกัดของหน่วยงานกำกับดูแล: หน่วยงานกำกับดูแลหลายแห่ง เช่น คณะกรรมาธิการเครื่องสำอางแห่งสหภาพยุโรป (EU Cosmetic Commission) และอาจรวมถึงสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย (อย.) กำหนดให้ค่า SPF สูงสุดที่อนุญาตให้ระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์คือ 50+ เท่านั้น เนื่องจากตัวเลขที่สูงกว่านี้อาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด คิดว่ามีการป้องกันที่สูงกว่า 50+ อย่างมาก ซึ่งไม่เป็นความจริง และอาจนำไปสู่การใช้ที่ไม่ถูกต้อง (ทาในปริมาณน้อยเกินไป หรืออยู่กลางแดดนานเกินไป)

ดังนั้น การกล่าวอ้างค่า SPF 100 มีแนวโน้มที่จะถูกพิจารณาอย่างเข้มงวดโดยหน่วยงานกำกับดูแล เช่น อย. ของไทย และอาจไม่ได้รับอนุญาต โดยจะต้องระบุบนฉลากเป็น SPF 50+ แทนครับ/ค่ะ สิ่งสำคัญกว่าคือผลิตภัณฑ์กันแดดควรมีการป้องกันแบบ Broad Spectrum (ทั้ง UVA และ UVB) และผู้ใช้ควรทาในปริมาณที่เพียงพอครับ/ค่ะ