น้ำหอมสังเคราะห์ กับ น้ำมันหอมระเหย ในน้ำหอมแบบน้ำมัน

เมื่อต้องการทำน้ำหอมแบบน้ำมัน คุณสามารถเลือกใช้ได้ทั้งน้ำหอมสังเคราะห์และน้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติ ทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกันหลักๆ ที่แหล่งกำเนิดและองค์ประกอบ

• น้ำหอมสังเคราะห์: สร้างขึ้นในห้องปฏิบัติการผ่านกระบวนการทางเคมี สามารถออกแบบกลิ่นให้เลียนแบบธรรมชาติ หรือสร้างกลิ่นใหม่ๆ ที่ไม่พบในธรรมชาติได้
• น้ำมันหอมระเหย: เป็นสารสกัดธรรมชาติเข้มข้นที่ได้จากพืช (ดอกไม้ ใบไม้ ราก เปลือกไม้ ฯลฯ) ผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น การกลั่น หรือการสกัดเย็น

ข้อดีและข้อเสีย

น้ำหอมสังเคราะห์:

• ข้อดี:
  • มีกลิ่นให้เลือกหลากหลายมาก รวมถึงกลิ่นใหม่ๆ ที่ซับซ้อน
  • ให้กลิ่นที่สม่ำเสมอในแต่ละล็อตการผลิต
  • โดยทั่วไปมีความเสถียรมากกว่า ไม่ค่อยเปลี่ยนสีหรือเสื่อมสภาพ
  • มักมีต้นทุนต่ำกว่าน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ
• ข้อเสีย:
  • ไม่มีคุณสมบัติทางบำบัดที่อาจพบในน้ำมันหอมระเหยบางชนิด
  • บางคนอาจมีอาการแพ้หรือระคายเคืองผิวต่อสารสังเคราะห์บางชนิดได้

น้ำมันหอมระเหย:

• ข้อดี:
  • มีแหล่งกำเนิดจากธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ
  • หลายชนิดมีคุณสมบัติทางบำบัด (เช่น ช่วยให้ผ่อนคลาย กระตุ้น) แม้ว่าในการทำน้ำหอมจะเน้นที่กลิ่นเป็นหลัก
  • ให้กลิ่นธรรมชาติที่ซับซ้อนและมีมิติ
• ข้อเสีย:
  • กลิ่นอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของพืช สภาพการปลูก และวิธีการสกัด
  • บางชนิดอาจมีราคาสูง
  • น้ำมันหอมระเหยบางชนิดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว แพ้ หรือไวต่อแสงแดด (phototoxicity) ได้
  • ความพร้อมของวัตถุดิบขึ้นอยู่กับฤดูกาลและผลผลิต

ความติดทนในน้ำหอมแบบน้ำมัน

ความติดทนของน้ำหอม ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมสังเคราะห์หรือน้ำมันหอมระเหย ขึ้นอยู่กับความผันผวน (volatility) ของโมเลกุลกลิ่นที่ใช้ และเบสที่นำมาผสม

• ความผันผวน: โมเลกุลกลิ่นแบ่งตามความผันผวนได้แก่:
  • Top Notes: ระเหยเร็วมาก (กลิ่นแรกที่ได้กลิ่น)
  • Middle Notes: ระเหยปานกลาง เป็นกลิ่นหลักของน้ำหอม
  • Base Notes: ระเหยช้าที่สุด ให้ความลึกและความติดทน
• เบสน้ำมัน: การใช้เบสน้ำมัน เช่น Mineral Oil หรือ Oil Stick Base ช่วยให้กลิ่นติดทนกว่าเบสแอลกอฮอล์ เนื่องจากน้ำมันระเหยช้ากว่าแอลกอฮอล์มาก ทำให้กักเก็บโมเลกุลกลิ่นไว้ได้นานขึ้น และค่อยๆ ปล่อยกลิ่นออกมาจากผิว

ดังนั้น น้ำหอมแบบน้ำมันที่ทำจากน้ำมันหอมระเหยสามารถติดทนได้นาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีสัดส่วนของน้ำมันหอมระเหยที่เป็น "Base Note" ซึ่งระเหยช้า หรือมีส่วนผสมของสารอะโรมาเคมีคอลอย่าง Coumarin หรือ Fleuramone ร่วมกับเบสน้ำมันที่ระเหยช้า ผลิตภัณฑ์อย่าง Jasmine Fragrance Oil หรือน้ำหอมสำเร็จรูปอย่าง Awakening ก็สามารถให้ความติดทนที่ดีได้ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของกลิ่นนั้นๆ