บทบาทของ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ในสูตรของคุณ

ตามเป้าหมายของคุณในการสร้างรองพื้นที่มีการปกปิดสูง ควบคุมความมัน และมีค่า SPF 50 PA+++ โดยมีแผนจะใช้ SPF Protect Ultra II ที่ 15% นี่คือบทบาทของ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ในสูตรของคุณ:

ถูกต้องแล้วที่การใช้ SPF Protect Ultra II ที่ 15% สามารถให้ค่า SPF 50 PA+++ ได้ อย่างไรก็ตาม Titanium Dioxide และ Zinc Oxide มีประโยชน์อื่นๆ นอกเหนือจากการช่วยเรื่องค่า SPF/PA โดยเฉพาะในสูตรรองพื้นที่เน้นการปกปิดและควบคุมความมัน

• Titanium Dioxide: แม้จะเป็นสารกันแดดแบบ Physical Filter ที่ช่วยสะท้อนและกระจายรังสี UVA และ UVB แต่ Titanium Dioxide บางชนิดถูกใช้เป็น เม็ดสี (Pigment) หลักในผลิตภัณฑ์เมคอัพ เช่น รองพื้น ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการให้ การปกปิด (Coverage) และปรับสีของผลิตภัณฑ์ หากคุณต้องการรองพื้นที่ปกปิดได้ดี การใส่ Titanium Dioxide เกรดเครื่องสำอางที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยไม่ขึ้นอยู่กับการช่วยเสริมค่า SPF จากส่วนผสมอื่น ตัวอย่างเช่น Titanium Dioxide 250nm Pigment หรือ Titanium Dioxide 400nm WaterProof™ (Super Coverage)
• Zinc Oxide: เป็นสารกันแดดแบบ Physical Filter อีกชนิดที่ให้การป้องกันรังสี UV แบบ Broad Spectrum โดยเฉพาะ UVA คลื่นยาว นอกจากนี้ Zinc Oxide ยังมีคุณสมบัติในการ ดูดซับความมัน (Oil-absorbing) และช่วย ปลอบประโลมผิว ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในรองพื้นที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมความมัน การใช้ Zinc Oxide ที่เหมาะสม เช่น Zinc Oxide 35nm Liquid หรือ Zinc Oxide Transparent Dispersion สามารถช่วยให้รองพื้นของคุณมีเนื้อสัมผัสแบบแมตต์และควบคุมความมันได้ตามที่ต้องการ

โดยสรุปคือ แม้ว่า SPF Protect Ultra II จะช่วยให้ได้ค่า SPF/PA ตามที่ต้องการด้วยสารกันแดดแบบเคมี แต่การเพิ่ม Titanium Dioxide ก็ยังคงสำคัญสำหรับ การปกปิด ในส่วนของรองพื้น และ Zinc Oxide ก็มีคุณค่าในการเสริม การป้องกันรังสี UV แบบ Broad Spectrum และช่วย ควบคุมความมัน ดังนั้น การใส่ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ชนิดที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่แนะนำอย่างยิ่งเพื่อให้ได้คุณสมบัติทั้งหมดที่ต้องการในสูตรรองพื้นของคุณค่ะ