ปรับสูตรน้ำยาทำความสะอาดเครื่องสำอางรอบดวงตา ลดอาการแสบตา

ถามโดย: wrasbhisa.a เมื่อ: November 12, 2020 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ได้ผสมน้ำยาทำความสะอาดเครื่องสำอางค์รอบดวงตาตามสูตรด้านล่าง ลองใช้แล้วล้างได้สะอาดแม้จะใช้ดินสอเขียนขอบตาแบบกันน้ำ แต่จะรู้สึกแสบตาทุกครั้ง

ต้องการคำแนะนำว่าควรปรับสูตรอย่างไรให้ยังคงมีประสิทธิภาพในการล้างเครื่องสำอางกันน้ำดีเหมือนเดิม แต่ไม่ให้แสบตาเวลาใช้คะ ขอบคุณค่ะ

%
Water 67.0%
Butylene Glycol 10.0%
Glycerin 7.0%
Poloxamer 184 10.0%
Poloxamer 124 5.0%
Eye Preserved™ (Polyaminopropyl Biguanide) 1.0%

คำตอบ

คำแนะนำในการปรับสูตรน้ำยาทำความสะอาดเครื่องสำอางรอบดวงตา

จากสูตรที่คุณใช้และคุณสมบัติของส่วนผสม อาการแสบตาที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดจากค่า pH ของสูตรที่แตกต่างจากค่า pH ตามธรรมชาติของดวงตา หรืออาจเกิดจากความเข้มข้นของส่วนผสมบางชนิด เช่น สารกันเสีย หรือตัวทำละลาย

นี่คือการวิเคราะห์และคำแนะนำในการปรับปรุง:

สาเหตุที่เป็นไปได้ของอาการแสบตา

  • ค่า pH: สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของอาการแสบตาจากผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางคือค่า pH ที่แตกต่างอย่างมากจากค่า pH ตามธรรมชาติของน้ำตา (ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 7.4) แม้ส่วนผสมที่ถือว่าอ่อนโยนก็สามารถทำให้เกิดการระคายเคืองได้หากค่า pH โดยรวมของสูตรมีความเป็นกรดหรือด่างมากเกินไป
  • ความเข้มข้นของส่วนผสม: แม้ว่าส่วนผสมอย่าง Butylene Glycol และ Polyaminopropyl Biguanide จะถูกใช้ในผลิตภัณฑ์รอบดวงตา แต่การใช้ในความเข้มข้นที่ค่อนข้างสูง (เช่น Butylene Glycol 10% และ Polyaminopropyl Biguanide 1% ในสูตรของคุณ) อาจทำให้เกิดความไวหรืออาการแสบตาสำหรับบางบุคคล โดยเฉพาะในบริเวณรอบดวงตาที่บอบบาง
  • ความไวต่อส่วนผสมบางชนิด: แม้ว่า Poloxamer 184 และ Poloxamer 124 จะระบุไว้อย่างชัดเจนว่าไม่ระคายเคืองต่อดวงตาและเหมาะสำหรับสูตรล้างเครื่องสำอางรอบดวงตา แต่ในบางครั้งก็อาจเกิดความไวส่วนบุคคลได้ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้มีโอกาสน้อยกว่าปัญหาเรื่องค่า pH หรือความเข้มข้นของส่วนผสมอื่นๆ ในระดับปัจจุบัน

คำแนะนำในการปรับปรุง

เพื่อลดอาการแสบตาในขณะที่ยังคงประสิทธิภาพในการล้างเครื่องสำอางไว้ พิจารณาขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. ตรวจสอบและปรับค่า pH: นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด วัดค่า pH ของสูตรที่ทำเสร็จแล้ว สำหรับผลิตภัณฑ์รอบดวงตา ค่า pH ที่เหมาะสมควรใกล้เคียงกับค่า pH ตามธรรมชาติของน้ำตามากที่สุด โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง pH 7.0-7.4 คุณสามารถใช้สารละลายกรดเจือจาง (เช่น สารละลายกรดซิตริก) เพื่อลดค่า pH หรือใช้สารละลายด่างเจือจาง (เช่น สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์) เพื่อเพิ่มค่า pH โดยค่อยๆ เติมทีละน้อยและวัดค่า pH บ่อยๆ จนกว่าจะได้ค่าที่ต้องการ การปรับค่า pH เพียงอย่างเดียวมักจะช่วยแก้ปัญหาอาการแสบตาได้
  2. ลดความเข้มข้นของสารกันเสียเล็กน้อย: หากการปรับค่า pH ยังไม่สามารถขจัดอาการแสบตาได้ทั้งหมด ให้พิจารณาลดความเข้มข้นของ Polyaminopropyl Biguanide ลงเล็กน้อย แม้ว่า 1% จะอยู่ในช่วงที่แนะนำ แต่การลดลงเล็กน้อย (เช่น เหลือ 0.8% หรือ 0.5%) อาจช่วยลดการระคายเคืองได้ อย่างไรก็ตาม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการทดสอบ Challenge Test กับสูตรที่ปรับปรุงแล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าความเข้มข้นของสารกันเสียที่ลดลงยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
  3. ลดความเข้มข้นของตัวทำละลายเล็กน้อย: หากขั้นตอนข้างต้นยังไม่เพียงพอ คุณอาจลองลดความเข้มข้นของ Butylene Glycol ลงเล็กน้อย (เช่น เหลือ 8% หรือ 9%) Butylene Glycol ช่วยในการละลายเครื่องสำอาง ดังนั้นการลดลงมากเกินไปอาจส่งผลกระทบเล็กน้อยต่อประสิทธิภาพของสูตรในการล้างเครื่องสำอางกันน้ำ ควรทดสอบอย่างระมัดระวัง

Poloxamer (Poloxamer 184 และ Poloxamer 124) เป็นส่วนผสมหลักที่ทำให้สูตรของคุณมีประสิทธิภาพในการล้างเครื่องสำอางกันน้ำ และถูกออกแบบมาให้ไม่ระคายเคืองต่อดวงตา โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ลดความเข้มข้นของส่วนผสมเหล่านี้หากคุณต้องการคงประสิทธิภาพการทำความสะอาดไว้

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Butylene Glycol
Butylene Glycol
เครื่องสำอาง
Poloxamer 184
Poloxamer 184
เครื่องสำอาง
Poloxamer 124
Poloxamer 124
เครื่องสำอาง
Polyaminopropyl Biguanide (PHMG, e.q. Microcare MBG)
Polyaminopropyl Biguanide (PHMG, e.q. Microcare MBG)
เครื่องสำอาง