ปรับสูตรเซรั่มแก้ปัญหาผิวแห้งตึงช่วงกลางวัน
คำถาม
สวัสดีครับแอดมิน ในสูตรเซรั่มที่มีส่วนผสมและเปอร์เซ็นต์ดังนี้: พิเทร่าแบบน้ำ 44%, id water 44%, สเต็มเซลล์กุหลาบ 2.2%, บี3 1%, กลูโคไบรท์ 1%, ไฮยา 1%, นาโนไวท์ 2.3%, ซัลโฟราไวท์ 2.2%, Ethoxydiglycol 1.7%, Xanthan Gum 0.5%, Pe9010 0.8% ความรู้สึกหลังทา กลางวัน คือเหมือนผิวบริเวณโหนกแก้มมันแห้ง ๆ ตึง ๆ ควรใส่สารตัวไหนช่วย หรือปรับลดตัวไหนดีครับ เพื่อให้สบายผิว (กลางคืนคือปกติเพราะทางมอยเจอร์ไรเซอร์ครีม)
คำตอบ
สวัสดีค่ะ แอดมินเข้าใจปัญหาเรื่องผิวแห้งตึงบริเวณโหนกแก้มในช่วงกลางวันนะคะ สูตรเซรั่มของคุณมีส่วนผสมแอคทีฟที่ดีหลายตัวที่เน้นเรื่องความกระจ่างใสและลดเลือนริ้วรอย อย่างไรก็ตาม การรวมกันของส่วนผสมเหล่านี้และความเข้มข้น อาจทำให้รู้สึกว่าผิวขาดความชุ่มชื้นหรือการเสริมเกราะป้องกันผิวที่เพียงพอสำหรับการใช้ในเวลากลางวัน โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ตามหลัง
เพื่อแก้ไขปัญหาผิวแห้งตึงนี้ คุณสามารถเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยเสริมความชุ่มชื้นและบำรุงเกราะป้องกันผิวได้ค่ะ
ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงสูตรเซรั่มของคุณ
เพื่อปรับปรุงความรู้สึกสบายผิวและความชุ่มชื้นสำหรับการใช้ในเวลากลางวัน ลองพิจารณาเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยเสริมความชุ่มชื้นและบำรุงเกราะป้องกันผิว
ทางเลือกที่ 1: เพิ่มสารให้ความนุ่มลื่น (Emollient) ชนิดบางเบา
การเพิ่มน้ำมันบางเบาที่เข้ากันได้ดีกับผิวในปริมาณเล็กน้อย สามารถช่วยให้รู้สึกสบายผิวมากขึ้นและลดการสูญเสียน้ำโดยไม่ทำให้เซรั่มเหนอะหนะ
- เพิ่ม Squalane (Olive): ใส่ Squalane ในความเข้มข้น 1-3% Squalane เป็นน้ำมันบางเบา ไม่เหนอะหนะ ซึ่งเป็นสารที่พบตามธรรมชาติในซีบัมของผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและนุ่มนวลขึ้น เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมถึงผิวที่เป็นสิวง่าย
ทางเลือกที่ 2: เสริมเกราะป้องกันผิวด้วยเซราไมด์
การเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวสามารถช่วยลดปัญหาผิวแห้งตึงได้อย่างมาก โดยป้องกันการสูญเสียน้ำผ่านผิวหนัง (TEWL)
- เพิ่ม Ceracare™ Liposome-3: ใส่ Ceracare™ Liposome-3 ในความเข้มข้น 1-3% นี่คือไลโปโซมคอมเพล็กซ์ที่มีเซราไมด์ (Ceramide NP, AP, EOP), ฟอสโฟลิพิด และไฟโตสเตอรอล ถูกออกแบบมาเพื่อเลียนแบบโครงสร้างไขมันตามธรรมชาติของผิว ช่วยซ่อมแซมเกราะป้องกันผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และปลอบประโลมผิวแพ้ง่าย
ทางเลือกที่ 3: ผสมผสานทั้งสารให้ความนุ่มลื่นและการบำรุงด้วยเซราไมด์
สำหรับแนวทางที่ครอบคลุมมากขึ้น คุณสามารถเพิ่มทั้งสารให้ความนุ่มลื่นบางเบาและเซราไมด์คอมเพล็กซ์ได้
- เพิ่ม Squalane (Olive): 1-2%
- เพิ่ม Ceracare™ Liposome-3: 1-2%
คุณจะต้องลดเปอร์เซ็นต์ของน้ำหรือ Galactomyces Ferment Filtrate เล็กน้อย เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับส่วนผสมที่เพิ่มเข้ามา โดยที่เปอร์เซ็นต์รวมยังคงเป็น 100%
ตัวอย่างการปรับสูตร (ใช้ทางเลือกที่ 3 โดยเพิ่ม Squalane 1% และ Ceracare™ Liposome-3 1%):
- พิเทร่า (Galactomyces Ferment Filtrate) 43% (ลดจาก 44%)
- น้ำ (Water) 43% (ลดจาก 44%)
- สเต็มเซลล์กุหลาบ (Rosa Hybrid Cell Extract) 2.2%
- บี3 (Niacinamide) 1%
- กลูโคไบรท์ (Acetyl Glucosamine) 1%
- ไฮยา (Hyaluronic Acid) 1%
- นาโนไวท์ (Nano White) 2.3%
- ซัลโฟราไวท์ (Sulfora White) 2.2%
- Ethoxydiglycol 1.7%
- Xanthan Gum 0.5%
- Pe9010 0.8%
- Squalane (Olive) 1%
Ceracare™ Liposome-3 1%
(รวม: 100.7% - โปรดปรับเล็กน้อยเพื่อให้ได้ 100% พอดี)*
การเพิ่มส่วนผสมเหล่านี้ควรช่วยให้รู้สึกสบายผิวมากขึ้นและลดความรู้สึกแห้งตึงในช่วงกลางวัน โดยการเสริมคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นและบำรุงเกราะป้องกันผิวของเซรั่มค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Squalane (Olive)

Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)

Xanthan Gum (ชนิดเจลใส, เนื้อเนียนไม่ยืด)

Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)

Rosa Hybrid Cell Extract (HybridCell™)
