ปัญหาการขึ้นสูตรครีม: แยกชั้น แสบผิว และความเข้ากันได้ของส่วนผสม

ถามโดย: luknoo1989 เมื่อ: January 26, 2018 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันกำลังลองขึ้นสูตรครีมแต่พบปัญหาหลายอย่าง สูตรที่ได้มีลักษณะคล้ายเซรั่ม เกิดการแยกชั้น และรู้สึกแสบผิวเล็กน้อยเมื่อทา ฉันวัดค่า pH หลังผสมเสร็จได้ประมาณ 5

สูตรของฉันประกอบด้วย:

  • Safe B3
  • Proniacin
  • Zinc PCA
  • Satin Cream Maker (2%)
  • Panthenol
  • Double Hyaluronic
  • Rhamnose
  • CoQ10
  • L-Carnitine
  • Phenoxyethanol (สารกันเสีย)

คำถามของฉันคือ:

  1. ทำไมสูตรถึงไม่เป็นเนื้อครีมและแยกชั้น และจะแก้ไขได้อย่างไร? (รวมถึงปัญหาเปอร์เซ็นต์รวมเกิน 100% และผลกระทบของ Zinc PCA)
  2. หากไม่แก้ไข แต่ใช้ส่วนผสมที่แยกชั้นแล้วในลักษณะโทนเนอร์ โดยเขย่าก่อนใช้ ได้หรือไม่?
  3. ค่า pH ที่วัดได้ประมาณ 5 เหมาะสมกับสูตรนี้หรือไม่?
  4. ทำไมเมื่อนำมาทาแล้วรู้สึกแสบหน้าเล็กน้อย?
  5. นอกจากนี้ มีคำแนะนำว่า Safe B3 ไม่ควรใช้ร่วมกับ Proniacin เพราะอะไร และฉันควรใช้ทั้งสองตัว หรือเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง?

คำตอบ

การวิเคราะห์ปัญหาในสูตรครีมของคุณ

ขอบคุณที่แจ้งรายละเอียดสูตรและปัญหาที่พบค่ะ จากส่วนผสมและผลลัพธ์ที่ได้ นี่คือการวิเคราะห์สาเหตุและแนวทางแก้ไข:

1. ทำไมถึงไม่เป็นเนื้อครีมและแยกชั้น แก้ไขได้อย่างไร

  • อิมัลซิไฟเออร์ไม่เพียงพอ: สาเหตุหลักที่ทำให้สูตรของคุณกลายเป็นเนื้อเซรั่มและแยกชั้น น่าจะมาจากการใช้อิมัลซิไฟเออร์ Satin Cream Maker ในปริมาณที่น้อยเกินไป (2%) อิมัลซิไฟเออร์มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเชื่อมเฟสน้ำและเฟสน้ำมันเข้าด้วยกันให้เป็นเนื้อครีมหรือโลชั่นที่คงตัว สำหรับสูตรที่มีเฟสน้ำมันค่อนข้างสูง (เฟสน้ำมันของคุณคือ 13%) อิมัลซิไฟเออร์ 2% มักจะไม่เพียงพอที่จะสร้างอิมัลชันที่เสถียรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีส่วนผสมอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อความหนืดและความคงตัวร่วมด้วย
  • ผลกระทบของ Zinc PCA: Zinc PCA สามารถทำให้ความหนืดของสูตรลดลงได้ ซึ่งยิ่งทำให้การขึ้นเนื้อครีมทำได้ยากขึ้นเมื่อใช้อิมัลซิไฟเออร์น้อยอยู่แล้ว
  • ข้อผิดพลาดในการคำนวณเปอร์เซ็นต์: เปอร์เซ็นต์ส่วนผสมทั้งหมดของคุณรวมกันได้ 106.5% ซึ่งแสดงว่ามีการคำนวณผิดพลาด ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปอร์เซ็นต์ส่วนผสมทั้งหมดรวมกันได้ 100%

ในการแก้ไขและทำให้เป็นเนื้อครีม คุณจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้นของ Satin Cream Maker อย่างไรก็ตาม ตามที่ได้มีการให้ความเห็นในกระทู้ การเพิ่มอิมัลซิไฟเออร์ตัวนี้อาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะหรือหนักผิวเมื่อทา การหาปริมาณที่เหมาะสมต้องอาศัยการทดลอง แต่โดยทั่วไปแล้วจะต้องใช้มากกว่า 2% อย่างมีนัยสำคัญเพื่อให้รองรับเฟสน้ำมันและส่วนผสมอื่นๆ ได้

2. หากไม่แก้ไข แต่ใช้ในลักษณะโทนเนอร์ เขย่าก่อนใช้ ได้หรือไม่

  • ได้ค่ะ คุณสามารถใช้ส่วนผสมที่ได้เป็นโทนเนอร์ได้โดยการเขย่าให้เข้ากันดีก่อนใช้แต่ละครั้ง เพื่อช่วยกระจายเฟสน้ำมันในเฟสน้ำชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพและความคงตัวอาจไม่ดีเท่าผลิตภัณฑ์ที่อิมัลซิไฟเออร์อย่างถูกต้อง และเนื้อสัมผัสอาจไม่น่าใช้เท่าที่ควร

3. วัดค่า pH หลังผสมเสร็จได้ประมาณ 5 เหมาะสมหรือไม่

  • เหมาะสมค่ะ ค่า pH 5 เป็นค่าที่เหมาะสมโดยทั่วไปสำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และอยู่ในช่วงที่ปลอดภัยต่อผิวและความคงตัวของส่วนผสมส่วนใหญ่ในสูตรของคุณ

4. ลองนำมาทาแล้วรู้สึกแสบหน้าเล็กน้อย เป็นเพราะอะไร

  • ส่วนผสมหลายชนิดในสูตรของคุณมีโอกาสทำให้เกิดอาการแสบหรือร้อนผิวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ในความเข้มข้นสูง หรือในผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย ส่วนผสมเหล่านี้ได้แก่ Safe B3 (Niacinamide), Pro-Niacin (Myristyl Nicotinate), CoQ10 และ L-Carnitine
  • สารกันเสีย Phenoxyethanol ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแสบผิวได้ในบางรายที่มีผิวบอบบาง ลองพิจารณาเปลี่ยนไปใช้สารกันเสียที่อ่อนโยนกว่า เช่น Mild Preserved Eco ที่ 1% แทน เพื่อช่วยลดอาการแสบระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นได้

คำแนะนำเพิ่มเติมในการปรับปรุงสูตร:

  • Safe B3 และ Pro-Niacin: ตามคำแนะนำในกระทู้ การใช้ Safe B3 (Niacinamide) ร่วมกับ Pro-Niacin (Myristyl Nicotinate) ในสูตรเดียวกันมักจะซ้ำซ้อนกัน Pro-Niacin เป็นอนุพันธ์ที่มักมีประสิทธิภาพดีกว่าและระคายเคืองน้อยกว่า Niacinamide การใช้ Pro-Niacin เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว และอาจช่วยลดโอกาสการระคายเคืองได้
  • ระดับสารให้ความชุ่มชื้น: ความเข้มข้นรวมของสารให้ความชุ่มชื้นและสารเพิ่มความหนืด เช่น Panthenol, Double Hyaluronic และ Rhamnose ค่อนข้างสูง (รวม 11%) ซึ่งอาจทำให้รู้สึกหนักหรือเหนียวเหนอะหนะผิวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม

ในการสร้างเนื้อครีมที่คงตัวได้สำเร็จ คุณจะต้องปรับปรุงสูตรอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับระดับอิมัลซิไฟเออร์ให้เหมาะสมกับปริมาณเฟสน้ำมัน และอาจพิจารณาปรับลดระดับสารออกฤทธิ์หรือสารให้ความชุ่มชื้นบางตัวตามเนื้อสัมผัสที่ต้องการและสภาพผิวของผู้ใช้ พร้อมทั้งตรวจสอบให้แน่ใจว่าเปอร์เซ็นต์ส่วนผสมทั้งหมดรวมกันได้ 100% ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Small Molecule)
Hyaluronic Acid (Small Molecule)
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
L-Carnitine (Carnitine)
L-Carnitine (Carnitine)
เครื่องสำอาง
Satin Cream Maker™
Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Zinc PCA
Zinc PCA
เครื่องสำอาง
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
เครื่องสำอาง
Rice Vitamin (Inositol, Vitamin B8)
Rice Vitamin (Inositol, Vitamin B8)
เครื่องสำอาง
MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)
MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)
เครื่องสำอาง
Coenzyme Q10 (98%, Powder, Oil-Soluble)
Coenzyme Q10 (98%, Powder, Oil-Soluble)
เครื่องสำอาง
Rhamnose (น้ำตาลแรมโนส)
Rhamnose (น้ำตาลแรมโนส)
เครื่องสำอาง
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Large Molecule)
Hyaluronic Acid (Large Molecule)
เครื่องสำอาง
4D Hyaluronic Acid
4D Hyaluronic Acid
เครื่องสำอาง
8D Hyaluronic Acid
8D Hyaluronic Acid
เครื่องสำอาง
Max-B3™ (Myristyl Nicotinate, e.q. NIA-114)
Max-B3™ (Myristyl Nicotinate, e.q. NIA-114)
เครื่องสำอาง