ปัญหาการขึ้นสูตรด้วย Warp Cream Maker™: วิธีผสมและความเสถียร
คำถาม
ผมใช้ Warp Cream Maker™
ในสูตรที่ต้องใช้ความร้อน แต่พบปัญหาเมื่อทำตามข้อกำหนดการใช้งานที่ระบุไว้ดังนี้ครับ:
ข้อกำหนดการใช้ Warp Cream Maker™:
- การผสมสูตรจะต้องใช้เครื่องปั่น ที่ความเร็วอย่างน้อย 1000รอบ
- ให้ผสมส่วนของน้ำมัน ซิลิโคน และ
Warp Cream Maker™
เข้ากันด้วยดีก่อน แล้วจึงค่อยๆเติมส่วนของน้ำลงในสูตร และปั่นให้เข้ากัน - หากสูตรมี Wax ซึ่งต้องหลอมละลายด้วยความร้อน ให้หลอมละลายเข้ากับส่วนของน้ำมัน, ซิลิโคน และ
Warp Cream Maker™
โดยใช้ความร้อนอุ่นให้เข้ากัน เมื่อเข้ากันดีแล้ว ให้ผสมส่วนของน้ำลงในส่วนของน้ำมัน ทีละเล็กน้อย ปั่นให้เข้ากัน
หลายครั้งที่ทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว ส่วนน้ำและน้ำมันไม่เข้ากันดี หรือใช้เวลานานกว่าจะเข้ากัน และเนื้อครีมไม่เนียนละเอียด เมื่อปล่อยทิ้งไว้ 2-3 วัน เกิดปัญหาเนื้อครีมเหลวลงและแยกชั้น
ผมจึงลองสลับขั้นตอน โดยค่อยๆ เทส่วนของน้ำมันลงในส่วนของน้ำ ปรากฏว่าน้ำและน้ำมันเข้ากันในระยะเวลาอันรวดเร็ว ได้เนื้อครีมเนียนละเอียด และเมื่อปล่อยครีมทิ้งไว้ 2-3 วัน ไม่พบอาการเหลวหรือแยกชั้น
จึงอยากให้ทางทีมงานช่วยเช็คสูตรให้หน่อยครับ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และทำไมวิธีผสมแบบที่ผมปรับเปลี่ยนจึงได้ผลดีกว่าครับ
สูตรของผม:
- Water = 51.50%
- Safe B3 = 5%
- Pro Vitamin B5 = 2%
- Butylene Glycol = 5%
- Glycerin = 5%
- สารกันเสีย = 1%
- Warp Cream Maker = 5%
- Glyceryl Stearate SE = 2.50%
- Cetearyl Alcohol = 2%
- LipidSoft CC = 5%
- Titanium 200nm = 1%
- Cyclomethicone = 5%
- isohexadecane = 2.5%
- Isododecane = 2.5%
- Mineral Oil ชนิดเบา = 3%
- Perfume = 2%
คำตอบ
ข้อเสนอแนะการปรับปรุงสูตร Warp Cream Maker™
ขอบคุณที่ติดต่อและให้รายละเอียดเกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณกับ Warp Cream Maker™ เป็นเรื่องน่าสนใจที่คุณประสบความสำเร็จด้วยการสลับขั้นตอนการผสม
คำแนะนำสำหรับ Warp Cream Maker™ ระบุว่าเป็นอิมัลซิไฟเออร์ประเภท Water-in-Oil (W/O) ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างเนื้อครีมที่หยดน้ำเล็กๆ กระจายตัวอยู่ในเฟสน้ำมันหรือซิลิโคน วิธีการที่แนะนำคือการเติมเฟสน้ำลงในเฟสน้ำมัน/ซิลิโคน/อิมัลซิไฟเออร์ ซึ่งเป็นวิธีมาตรฐานในการสร้างอิมัลชันแบบ W/O
อย่างไรก็ตาม สูตรของคุณมีส่วนผสมหลายอย่างที่นิยมใช้หรือส่งเสริมการเกิดอิมัลชันประเภท Oil-in-Water (O/W) ซึ่งเป็นอิมัลชันที่หยดน้ำมันกระจายตัวอยู่ในเฟสน้ำ ส่วนผสมเหล่านี้ได้แก่ Glyceryl Stearate SE และ Cetearyl Alcohol ซึ่งมักใช้เป็นโค-อิมัลซิไฟเออร์หรือสารเพิ่มความข้นในเฟสน้ำมันของอิมัลชันแบบ O/W และต้องใช้ความร้อนในการผสม นอกจากนี้ สูตรของคุณยังมีปริมาณน้ำค่อนข้างสูง (51.50%)
เมื่อคุณทำตามวิธี W/O ที่แนะนำ (เติมน้ำลงในเฟสน้ำมัน) ปริมาณน้ำที่สูงและส่วนผสมที่ส่งเสริม O/W อาจทำให้ Warp Cream Maker™ สร้างและคงตัวอิมัลชันแบบ W/O ได้ยาก ทำให้เกิดความไม่เสถียร เนื้อสัมผัสไม่ดี และการแยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไป
วิธีที่คุณประสบความสำเร็จโดยการค่อยๆ เติมเฟสน้ำมัน/ซิลิโคน/อิมัลซิไฟเออร์ลงในเฟสน้ำ เป็นขั้นตอนปกติในการสร้างอิมัลชันแบบ Oil-in-Water (O/W) ดูเหมือนว่าแม้จะใช้ Warp Cream Maker™ (อิมัลซิไฟเออร์ W/O) แต่ส่วนประกอบโดยรวมของสูตร โดยเฉพาะปริมาณน้ำที่สูงและการมี Glyceryl Stearate SE และ Cetearyl Alcohol ทำให้สูตรของคุณเหมาะสมกับการสร้างอิมัลชันแบบ O/W ที่เสถียรมากกว่า การใช้วิธีผสมแบบ O/W จึงน่าจะช่วยให้ได้อิมัลชันที่เสถียรขึ้นตามส่วนผสมที่มีอยู่
สำหรับ Titanium 200nm ควรแน่ใจว่าได้กระจายตัวอย่างเหมาะสมในเฟสน้ำมันหรือซิลิโคนก่อนนำไปรวมกับเฟสอื่น ตามคำแนะนำสำหรับส่วนผสมประเภทนี้
แม้ว่าวิธีปัจจุบันของคุณจะได้ผล แต่ควรทราบว่าผู้ผลิต Warp Cream Maker™ แนะนำให้เติม Magnesium Sulfate 1% สำหรับสูตร Water-in-Oil เพื่อช่วยเพิ่มความเสถียร อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสูตรของคุณดูเหมือนจะสร้างอิมัลชันแบบ O/W ที่เสถียรด้วยวิธีที่คุณปรับเปลี่ยน อาจไม่จำเป็นต้องใช้ Magnesium Sulfate
สรุปแล้ว ความไม่เสถียรเมื่อใช้วิธีที่แนะนำน่าจะเกิดจากส่วนประกอบของสูตรที่เหมาะสมกับการสร้างอิมัลชันแบบ Oil-in-Water มากกว่า วิธีที่คุณปรับเปลี่ยนได้ผลดีเพราะช่วยให้เกิดอิมัลชันแบบ Oil-in-Water ที่เสถียร ซึ่งเข้ากันได้ดีกับส่วนผสมส่วนใหญ่และปริมาณน้ำในสูตรของคุณ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

Glycerin (USP/Food Grade)

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Isododecane (Germany)

Warp Cream Maker™ (e.q. Nikkomulese wo)

Butylene Glycol

LipidSoft™ CC (Cetyl Ethylhexanoate)

Cetearyl Alcohol (50/50, e.q. Lanette O)

Mineral Oil (Paraffinum Liquidum) Light (26cst)
