ปัญหาการขึ้นสูตรน้ำมันทาผิว: การประสานเนื้อและความจำเป็นของสารกันเสีย
คำถาม
ต้องการทำน้ำมันทาผิว (Body Oil) โดยใช้ส่วนผสมดังนี้ และต้องการให้เป็นสูตรที่ไม่มีสารกันเสีย:
- Sesame Oil 70%
- Tocopheryl Acetate (Vitamin E Acetate) 1%
- Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate) 1%
- Niacinamide (Vitamin B3) 10%
- N-Acetyl-D Glucosamine 10%
- Polysorbate 20 (Tween 20) 2%
- Water (DI) 8%
เมื่อผสมแล้ว สูตรเกิดการแยกชั้น เข้าใจว่า Polysorbate 20 ใช้เป็นสารประสานเนื้อ แต่ดูเหมือนจะไม่สามารถประสานสูตรนี้ได้ และต้องการหลีกเลี่ยงการใช้สารกันเสีย
รบกวนช่วยอธิบายว่าทำไมสูตรถึงแยกชั้น และมีวิธีใดบ้างที่จะทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เสถียรด้วยส่วนผสมเหล่านี้ได้หรือไม่? และเป็นไปได้ไหมที่จะใส่ส่วนผสมที่ละลายน้ำได้โดยไม่ต้องใช้สารกันเสียในรูปแบบน้ำมันทาผิวที่เสถียร?
คำตอบ
ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสูตรน้ำมันทาผิวของคุณ
จากสูตรที่คุณให้มาและข้อมูลจากทางร้าน ส่วนผสมปัจจุบันไม่น่าจะเข้ากันได้ดี (ไม่ประสานกัน) ด้วย Polysorbate (Tween 20) เพียง 2% ครับ/ค่ะ
นี่คือเหตุผลและแนวทางการปรับปรุง:
ปัญหา: Polysorbate (Tween 20) เป็นอิมัลซิไฟเออร์ที่ค่อนข้างอ่อนแอ และส่วนใหญ่ใช้สำหรับอิมัลชั่นชนิด Oil-in-Water (O/W) ที่มีเฟสน้ำมันปริมาณน้อย แต่สูตรของคุณมีปริมาณน้ำมันสูงมาก (น้ำมันงา 70%) และมีน้ำน้อย (8%) อัตราส่วนนี้และชนิด/ปริมาณของอิมัลซิไฟเออร์ไม่เหมาะสมสำหรับการสร้างอิมัลชั่นที่เสถียร ส่วนผสมที่เป็นน้ำมันและน้ำมีแนวโน้มที่จะแยกชั้นออกจากกัน
แนวทางการปรับปรุง (ตามคำแนะนำของทางร้าน): คุณมีสองทางเลือกหลักขึ้นอยู่กับประเภทผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการ:
- แนวทาง A: ทำเป็นน้ำมันทาผิว (Pure Body Oil): หากเป้าหมายหลักของคุณคือน้ำมันทาผิว วิธีที่ง่ายที่สุดคือการตัดส่วนผสมที่เป็นน้ำ, Niacinamide, และ N-Acetyl-D Glucosamine ออก ส่วนผสมที่เหลือ (น้ำมันงา, Tocopheryl Acetate, Vitamin C Ester) เป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันทั้งหมด จะเข้ากันได้ดีโดยไม่ต้องใช้อิมัลซิไฟเออร์ วิธีนี้จะสร้างส่วนผสมน้ำมันที่เสถียร ตรงกับแนวคิด "น้ำมันทาผิว" และไม่จำเป็นต้องใช้สารกันเสีย
- แนวทาง B: ทำเป็นอิมัลชั่น (ครีม/โลชั่น): หากคุณต้องการใส่ส่วนผสมที่ละลายในน้ำ (Niacinamide, N-Acetyl-D Glucosamine) จำเป็นต้องทำเป็นอิมัลชั่น (เช่น ครีมหรือโลชั่น) ซึ่งต้องใช้อิมัลซิไฟเออร์ที่แตกต่างและมีประสิทธิภาพกว่าเดิมที่สามารถรองรับปริมาณน้ำมันได้สูง ตามที่ทางร้านแนะนำ (เช่น Soy Lecithin หรือ LotionBliss + Cetyl Alcohol) ที่สำคัญคือ ผลิตภัณฑ์ใดๆ ที่มีน้ำ จำเป็นต้อง ใส่สารกันเสียเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ แม้ว่าเดิมคุณจะต้องการไม่ใส่สารกันเสียก็ตาม แนวทางนี้จะเปลี่ยนประเภทผลิตภัณฑ์อย่างมากจากน้ำมันเป็นอิมัลชั่น
สรุปคือ สูตรปัจจุบันตามที่เขียนมามีแนวโน้มที่จะแยกชั้น คุณต้องตัดสินใจว่าจะทำเป็นส่วนผสมน้ำมันล้วนๆ (ตัดน้ำและส่วนผสมที่ละลายน้ำออก) หรือทำเป็นอิมัลชั่น (เพิ่มอิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมและสารกันเสีย ซึ่งจะเปลี่ยนประเภทผลิตภัณฑ์)