ปัญหาการขึ้นสูตรสเปรย์บำรุงผิว: การแยกชั้น เนื้อสัมผัส และความคงทนของกลิ่น

หัวข้อ: การตรวจสอบและปรับปรุงสูตรสเปรย์บำรุงผิว

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรสเปรย์บำรุงผิวและปัญหาที่พบค่ะ จากข้อมูลที่คุณให้มาและคำแนะนำจากทีมงาน นี่คือการตรวจสอบและข้อเสนอแนะในการปรับปรุงสูตรของคุณค่ะ

การตรวจสอบสูตรและปัญหาที่พบ

สูตรเริ่มต้นของคุณประกอบด้วย:

• สารสกัดว่านหางจระเข้ 2%
• กลีเซอรีน 3 %
• สารสกัดคาเลนดูลา 5%
• สารสกัดคาโมมายล์ 1%
• Skin Defense 2%
• Dipotassium Glycyrrhizate 0.5%
• น้ำมันมะพร้าว 7.5%
• น้ำกลั่นบริสุทธิ์ 79%
• Essential Oil (ประมาณ 3 หยด)
• Polysorbate 20 (ประมาณ 50% ของน้ำมัน)

ปัญหาที่คุณพบคือ:

1. สีของสเปรย์ออกเหลือง.
2. ตั้งทิ้งไว้แล้วมองเห็นน้ำมันแยกชั้นเป็นเม็ดๆ.
3. กลิ่นของ Essential Oil ที่ใส่ลงไป อยู่ได้แปปเดียว.
4. สเปรย์ช่วงแรกจะมันๆ นิดหน่อย สักพักจะระเหยไป แต่ความรู้สึกยังเหมือนน้ำมากกว่าน้ำมัน.

การวิเคราะห์และข้อเสนอแนะ

ทีมงานได้ชี้แจงอย่างถูกต้องว่าปัญหาหลักที่ทำให้น้ำมันแยกชั้นคือการขาดตัวประสานน้ำ-น้ำมันที่เหมาะสม Polysorbate 20 ไม่สามารถประสานน้ำมัน (น้ำมันมะพร้าว + Essential Oil) ในปริมาณเท่านี้เข้ากับส่วนน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

ทีมงานแนะนำให้ใช้ Oil Blender เป็นตัวประสานที่เหมาะสมสำหรับสูตรสเปรย์ประเภทนี้ และแนะนำให้ใช้ Fractionated Coconut Oil แทนน้ำมันมะพร้าวธรรมดา เนื่องจากมีน้ำหนักเบากว่าและเหมาะกับสูตรสเปรย์มากกว่าค่ะ

นี่คือวิธีที่การปรับปรุงตามคำแนะนำจะช่วยแก้ปัญหาของคุณ:

• สีเหลือง: ทีมงานระบุว่าสีน่าจะมาจากสารสกัดและส่วนผสมบางชนิด เช่น สารสกัดว่านหางจระเข้, สารสกัดคาเลนดูลา, สารสกัดคาโมมายล์, และ Dipotassium Glycyrrhizate หากคุณต้องการสเปรย์ที่ไม่มีสี สามารถพิจารณาลดหรือตัดส่วนผสมเหล่านี้ออกได้ค่ะ
• การแยกชั้น: ปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขโดยตรงจากการใช้ Oil Blender เป็นตัวประสาน ซึ่งจะช่วยสร้างเนื้อสเปรย์ที่เป็นเนื้อเดียวกันและคงตัวค่ะ
• กลิ่นไม่ทน: น้ำมันหอมระเหยเป็นสารที่ระเหยง่าย แม้ว่าการประสานที่ดีจะช่วยกระจายส่วนน้ำมัน (ซึ่งมีกลิ่นหอม) ได้อย่างสม่ำเสมอ แต่ความคงทนของกลิ่นขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันหอมระเหยและการใช้งานแบบสเปรย์ ปริมาณที่ทีมงานแนะนำ (1-2%) เป็นช่วงมาตรฐานสำหรับน้ำมันหอมระเหยในสูตรเครื่องสำอางค่ะ
• ความรู้สึกบนผิว: ความรู้สึกเหมือนน้ำเปียกๆ ในตอนแรกเกิดจากปริมาณน้ำที่สูง ความมันเล็กน้อยมาจากส่วนน้ำมัน หากคุณต้องการความรู้สึกมันน้อยลง จะต้องลดหรือตัดปริมาณน้ำมันออก ตามที่ทีมงานแจ้งว่าปริมาณน้ำมันประมาณ 10% ถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับสูตรที่ต้องการความรู้สึกไม่มัน หากต้องการลดความรู้สึกเปียก สามารถเติม Flora Solve หรือ Flora Solve Clear ในปริมาณ 1-3% ในส่วนของน้ำได้ค่ะ

สูตรแนะนำสำหรับการปรับปรุง

ตามคำแนะนำของทีมงาน นี่คือโครงสร้างสูตรที่ปรับปรุงแล้ว โดยใช้หน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก:

ส่วนน้ำมัน:

• Oil Blender: 2%
• Fractionated Coconut Oil: 7.5%
• Essential Oil: 1-2% (ปรับปริมาณในช่วงนี้ตามความเข้มข้นของกลิ่นที่ต้องการ)

ส่วนน้ำ:

• สารสกัดว่านหางจระเข้: 2% (เลือกใช้ - ตัดออกได้หากต้องการสูตรไม่มีสี)
• กลีเซอรีน: 3 %
• สารสกัดคาเลนดูลา: 5% (เลือกใช้ - ตัดออกได้หากต้องการสูตรไม่มีสี)
• สารสกัดคาโมมายล์: 1% (เลือกใช้ - ตัดออกได้หากต้องการสูตรไม่มีสี)
• Skin Defense: 2%
• Dipotassium Glycyrrhizate: 0.5% (เลือกใช้ - ตัดออกได้หากต้องการสูตรไม่มีสี)
• Phenoxyethanol SA (สารกันเสีย): 1%
• Flora Solve หรือ Flora Solve Clear: 1-3% (เลือกใช้ - เพื่อลดความรู้สึกเปียก)
• น้ำกลั่นบริสุทธิ์: ส่วนที่เหลือ (เติมน้ำให้ครบ 100% หลังจากรวมส่วนผสมอื่นๆ ทั้งหมดแล้ว)

ขั้นตอนการผสม:

1. รวมส่วนผสมสำหรับส่วนน้ำมันเข้าด้วยกันและผสมให้เข้ากันดี
2. รวมส่วนผสมสำหรับส่วนน้ำเข้าด้วยกันและผสมให้เข้ากันดี
3. ค่อยๆ เติมส่วนน้ำมันลงในส่วนน้ำพร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง ใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง (high-shear mixer) หากมี เพื่อช่วยให้ส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว (emulsify) จนได้เนื้อสเปรย์ที่เนียนสม่ำเสมอ

การชั่งตวงวัด

เพื่อให้ได้สูตรที่แม่นยำ โดยเฉพาะส่วนผสมที่มีปริมาณน้อย แนะนำอย่างยิ่งให้ชั่งส่วนผสมทั้งหมดเป็นน้ำหนักโดยใช้ตาชั่งดิจิทัลที่มีความละเอียด การใช้หน่วยเป็นหยดสำหรับส่วนผสมอย่าง Essential Oil อาจทำให้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ ควรชั่ง Essential Oil ให้ได้น้ำหนักเท่ากับ 1-2% ของน้ำหนักรวมทั้งหมดของสูตรค่ะ

หวังว่าสูตรและคำอธิบายที่ปรับปรุงนี้จะเป็นประโยชน์ในการทำสเปรย์บำรุงผิวที่คงตัวและมีประสิทธิภาพนะคะ!