คำแนะนำการปรับสูตรสำหรับปัญหา Sodium Alginate

ปัญหาที่คุณพบว่า Sodium Alginate ละลายไปในสารละลายแทนที่จะขึ้นเจลนั้น เกิดจาก Sodium Alginate ต้องการ แคลเซียมคลอไรด์ (Calcium Chloride) ในการสร้างโครงสร้างเจล ไม่ใช่โซเดียมคลอไรด์ (เกลือแกง)

Sodium Alginate จะเกิดเจลผ่านกระบวนการที่เรียกว่า Spherification หรือ Gelation เมื่อสัมผัสกับไอออนของแคลเซียม ไอออนของแคลเซียมจะเชื่อมโยงสายโซ่ของ Alginate เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดโครงสร้างเจลที่คงตัว แต่โซเดียมคลอไรด์ไม่ได้ให้ไอออนของแคลเซียมที่จำเป็นสำหรับปฏิกิริยานี้

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาความเข้ากันไม่ได้อื่นๆ ในสูตรของคุณ:

• วิตามินบี3 (Niacinamide) และ วิตามินซี (L-ascorbic acid) โดยทั่วไปไม่เข้ากันเมื่อใช้ร่วมกัน ซึ่งอาจทำให้สารออกฤทธิ์เสื่อมสภาพได้
• วิตามินซี (L-ascorbic acid) ไม่เสถียรเมื่อละลายในน้ำโดยตรง และโดยทั่วไปต้องใช้ค่า pH ที่ต่ำหรือเทคนิคการผสมสูตรเฉพาะเพื่อให้คงตัว
• Disodium EDTA อาจไม่จำเป็นและบางครั้งอาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นอยู่กับส่วนผสมอื่นๆ

เนื่องจากปัญหาความเข้ากันไม่ได้เหล่านี้และการใช้สารก่อเจลที่ไม่ถูกต้อง สูตรปัจจุบันของคุณจึงไม่สามารถแก้ไขได้ง่ายๆ คุณจะต้องปรับปรุงสูตรใหม่ทั้งหมด

หากต้องการใช้ Sodium Alginate เพื่อทำให้เกิดเจลหรือ Spherification คุณควรละลาย Sodium Alginate ในน้ำก่อน จากนั้นจึงนำสารละลายนี้ไปหยดลงในของเหลวที่มี Calcium Chloride

หากคุณต้องการใช้สารออกฤทธิ์ที่คุณมีอยู่ ลองพิจารณาการทำสูตรแยกกัน หรือเลือกใช้วิตามินซีในรูปแบบอื่นที่เสถียรในน้ำมากกว่า หรือเข้ากันได้กับ Niacinamide และอาจต้องเลือกใช้สารเพิ่มความข้นชนิดอื่น หากต้องการเนื้อเจลโดยไม่ใช้วิธี Calcium-Alginate

สรุปประเด็นสำคัญ:

• Sodium Alginate ต้องการ Calcium Chloride ในการสร้างเจล ไม่ใช่ Sodium Chloride.
• วิตามินบี3 (Niacinamide) และ วิตามินซี (L-ascorbic acid) โดยทั่วไปไม่เข้ากันในสูตรเดียวกัน.
• L-ascorbic acid ไม่เสถียรในน้ำและต้องการสภาวะการผสมสูตรเฉพาะ.
• สูตรของคุณจะต้องได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยคำนึงถึงความเข้ากันไม่ได้และวิธีการใช้สารก่อเจลที่ถูกต้อง.