ปัญหาการขึ้นเนื้อและเพิ่มสารกันแดดในสูตรครีมบำรุงผิวขาว

ถามโดย: pcs.labelle เมื่อ: April 30, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันกำลังลองทำครีมบำรุงผิวขาวค่ะ แต่มีปัญหาเรื่องการขึ้นเนื้อครีม

สูตรที่ลองทำใช้:

  • Light Cream Maker™ (1%)
  • Lactic Acid (5%)
  • Sea Kelp Bioferment (2%)
  • ส่วนผสมอื่นๆ (Grape Seed Oil, Vitamin B3, น้ำ, Phenoxyethanol)

เนื้อครีมไม่ข้นเลยค่ะ มีคำถามดังนี้ค่ะ:

  1. ทำไมครีมถึงไม่ข้นด้วยสูตรนี้คะ? การใช้ Light Cream Maker™ 1% น้อยไปไหม โดยเฉพาะเมื่อมี Lactic Acid และ Sea Kelp อยู่ด้วย?
  2. สามารถเติม Xanthan Gum เพื่อช่วยให้ครีมข้นขึ้นได้ไหมคะ? ถ้าได้ ควรใช้กี่เปอร์เซ็นต์ และมีวิธีผสมที่ถูกต้องอย่างไร?
  3. จะเพิ่มสารกันแดด (SPF 20) ลงในครีมประเภทนี้ได้อย่างไรคะ? สารกันแดดชนิดไหนที่เข้ากันได้ (Physical เช่น Zinc Oxide และ Titanium Dioxide หรือ Chemical)?
  4. ควรใส่สารกันเสีย (เช่น Phenoxyethanol) น้ำหอม และสี ในขั้นตอนไหนของการทำครีมคะ?
  5. ฉันได้ลองพิจารณาสูตรเหล่านี้ด้วยค่ะ:
    • สูตรมีสารกันแดด: Zinc Oxide 5%, Titanium Dioxide 5%, Cyclomethicone, Warp Cream Maker™, Grape Seed Oil, Sea Kelp, Vitamin B3, Lactic Acid, น้ำ, Phenoxyethanol
    • สูตรไม่มีสารกันแดด: Light Cream Maker™, Grape Seed Oil, Sea Kelp, Vitamin B3, Lactic Acid, น้ำ, Phenoxyethanol

      สูตรเหล่านี้มีความเป็นไปได้ไหมคะ?
  6. อยากทราบเกี่ยวกับการเติม Vitamin C (L-Ascorbic Acid หรืออนุพันธ์) และความเข้ากันได้กับสูตรเหล่านี้ด้วยค่ะ
  7. ควรวัดค่า pH ของส่วนน้ำด้วยไหมคะ?

คำตอบ

คำแนะนำสำหรับการทำครีมบำรุงผิวขาว

สวัสดีค่ะ เข้าใจเลยค่ะว่าการเริ่มต้นทำเครื่องสำอางเองอาจจะรู้สึกสับสนบ้าง ไม่เป็นไรนะคะ การลองผิดลองถูกเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ค่ะ อย่าเพิ่งท้อนะคะ!

จากสูตรที่คุณลองทำและปัญหาที่พบ รวมถึงคำแนะนำที่คุณได้รับ ดิฉันจะสรุปและให้คำแนะนำเพิ่มเติมนะคะ

ทำไมเนื้อครีมถึงไม่ข้น

ที่คุณพบปัญหาว่าเนื้อครีมไม่ข้นเมื่อใช้ Light Cream Maker™ 1% ร่วมกับ Lactic Acid และ Sea Kelp น่าจะมีสาเหตุหลักๆ ตามที่คุณ cosmeceutical7 ได้แนะนำไว้ค่ะ คือ:

  • ปริมาณ Light Cream Maker™ น้อยเกินไป: 1% อาจไม่เพียงพอที่จะสร้างเนื้อครีมที่ข้นตามที่คุณต้องการ โดยเฉพาะเมื่อมีส่วนผสมที่ท้าทายต่อการขึ้นเนื้อครีมอยู่ด้วย
  • ส่วนผสมบางตัวรบกวนการขึ้นเนื้อครีม: Light Cream Maker™ (รหัสสินค้า: 141) ค่อนข้างอ่อนไหวต่อสารอิเล็กโทรไลต์และค่า pH ที่ต่ำ Lactic Acid (รหัสสินค้า: 6376, รหัสสินค้า: 7768) มีความเป็นกรดสูง และ Sea Kelp Extract (รหัสสินค้า: 77) อาจมีส่วนประกอบของเกลือ (อิเล็กโทรไลต์) ซึ่งส่วนผสมเหล่านี้สามารถรบกวนกลไกการสร้างเนื้อครีมของ Light Cream Maker™ ได้ ทำให้ต้องใช้อิมัลซิไฟเออร์ในปริมาณที่สูงขึ้น หรือต้องใช้สารเพิ่มความข้นตัวอื่นช่วยค่ะ

การใช้ Xanthan Gum เพื่อเพิ่มความข้น

ใช่ค่ะ การเติม Xanthan Gum (รหัสสินค้า: 216, รหัสสินค้า: 31764) เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการช่วยเพิ่มความข้นให้กับเนื้อครีมและช่วยเสริมความเสถียรของสูตรได้ Xanthan Gum เป็นสารเพิ่มความข้นที่นิยมใช้ในสูตรเครื่องสำอางค่ะ

วิธีการผสม Xanthan Gum:

  1. อัตราส่วนการใช้: เริ่มต้นใช้ในปริมาณน้อยๆ ก่อนค่ะ โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 0.1% ถึง 0.5% เพราะเพียงเล็กน้อยก็ช่วยเพิ่มความข้นได้มากแล้ว
  2. กระจายตัวให้ดี: เพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้อน แนะนำให้ผสม Xanthan Gum กับ Glycerin หรือน้ำมันปริมาณเล็กน้อยจากในสูตรของคุณ ก่อน ที่จะนำไปผสมกับส่วนน้ำ (Water Phase) คนให้เข้ากันดีจนเป็นเนื้อเพสต์ แล้วค่อยๆ เทส่วนผสมนี้ลงในส่วนน้ำขณะที่กำลังคนหรือปั่นด้วยความเร็วพอสมควร เพื่อให้ Xanthan Gum กระจายตัวและพองตัวอย่างเต็มที่
  3. รอให้พองตัว: ให้เวลา Xanthan Gum ได้พองตัวในส่วนน้ำอย่างเต็มที่ ซึ่งอาจใช้เวลาสักครู่ แม้จะมีการคนหรือปั่นช่วย เมื่อพองตัวเต็มที่แล้ว ส่วนน้ำจะมีความข้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  4. ดำเนินการทำอิมัลชั่นต่อ: เมื่อส่วนน้ำมีความข้นตามต้องการแล้ว จึงนำไปรวมกับส่วนน้ำมัน/อิมัลซิไฟเออร์ ตามขั้นตอนปกติของการทำอิมัลชั่นค่ะ

การเติม Xanthan Gum จะช่วยเสริมความหนืดและความเสถียรให้กับครีมของคุณได้ โดยเฉพาะในสูตรที่มีส่วนผสมที่อาจรบกวนการขึ้นเนื้อครีมอย่าง Lactic Acid และ Sea Kelp ค่ะ

การใส่สารกันแดด (SPF 20)

การเพิ่มสารกันแดดลงในครีมบำรุงผิวขาวเป็นความคิดที่ดีค่ะ เพื่อเพิ่มการปกป้องผิวจากแสงแดด ความเข้ากันได้จะขึ้นอยู่กับชนิดของสารกันแดดที่คุณใช้ (Physical หรือ Chemical) และชนิดของเนื้อครีม (Water-in-Oil หรือ Oil-in-Water)

  • สารกันแดดแบบ Physical (เช่น Zinc Oxide (รหัสสินค้า: 292) และ Titanium Dioxide (รหัสสินค้า: 295)) เป็นผงที่ต้องกระจายตัวให้ดีในส่วนน้ำมันหรือส่วนน้ำ ขึ้นอยู่กับการเคลือบผิวของผงและชนิดของอิมัลชั่น สำหรับ SPF 20 คุณอาจต้องใช้สารกันแดดกลุ่ม Physical ประมาณ 10-15% ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดอนุภาค ตามที่ Staff ได้แนะนำ สารกันแดดกลุ่ม Physical มักจะเข้ากันได้ดีกับสูตรที่มีซิลิโคนเป็นเบส หรือสูตรแบบ Water-in-Oil (เช่น สูตรที่ใช้ Warp Cream Maker™ (รหัสสินค้า: 288)) แต่ก็มีรูปแบบที่กระจายตัวในน้ำได้สำหรับสูตร Water-based ด้วยค่ะ
  • สารกันแดดแบบ Chemical เป็นสารที่ละลายได้ในส่วนน้ำมัน

การใส่สารกันแดดต้องอาศัยการคำนวณและสูตรที่เหมาะสมเพื่อให้สารกระจายตัวได้ดี (สำหรับ Physical) และสูตรมีความเสถียร รวมถึงให้ค่า SPF ตามที่ต้องการ การใช้สารกันแดดแบบผงที่ผ่านการเตรียมให้กระจายตัวได้ง่าย หรือการใช้เบสครีมกันแดดสำเร็จรูป อาจช่วยให้มือใหม่ทำได้ง่ายขึ้นค่ะ

การใส่สารกันเสีย น้ำหอม และสี

ใช่ค่ะ คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว สารกันเสีย (เช่น Phenoxyethanol (รหัสสินค้า: 155)) น้ำหอม และสี โดยทั่วไปจะใส่ใน ขั้นตอนสุดท้าย ของการทำครีม หลังจากที่เนื้อครีมขึ้นแล้วและอุณหภูมิเย็นลง (โดยปกติจะต่ำกว่า 40°C เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนทำลายสารที่ไวต่อความร้อน เช่น น้ำหอมและสารกันเสียบางชนิด) การทำเช่นนี้จะช่วยลดการสัมผัสความร้อนและลดโอกาสที่สารเหล่านี้จะไปรบกวนกระบวนการขึ้นเนื้อครีมค่ะ

สูตรที่คุณเสนอ

สำหรับสูตรที่คุณลองทำ:

  • สูตรที่มีสารกันแดด: สูตรที่มี Zinc Oxide (รหัสสินค้า: 292) และ Titanium Dioxide (รหัสสินค้า: 295) อย่างละ 5%, Cyclomethicone, Warp Cream Maker™ (รหัสสินค้า: 288), Grape Seed Oil (รหัสสินค้า: 120), Sea Kelp (รหัสสินค้า: 77), Vitamin B3 (รหัสสินค้า: 74), Lactic Acid (รหัสสินค้า: 6376, รหัสสินค้า: 7768), น้ำ และ Phenoxyethanol (รหัสสินค้า: 155) ดูเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับสูตรแบบ Water-in-Silicone/Oil ที่ใช้ Warp Cream Maker™ อย่างไรก็ตาม ตามที่คุณ cosmeceutical7 ได้แนะนำ การใส่ Lactic Acid ในสูตรที่ใช้ตอนกลางวันร่วมกับสารกันแดดอาจไม่เหมาะนัก เพราะ AHA สามารถทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น หากต้องการทั้งผิวขาวและการป้องกันแดด อาจพิจารณาใช้สารไวท์เทนนิ่งตัวอื่นที่ไม่ทำให้ผิวไวต่อแสง หรือทำครีม Lactic Acid แยกไว้ใช้ตอนกลางคืนค่ะ
  • สูตรที่ไม่มีสารกันแดด: สูตรที่สองของคุณที่ใช้ Light Cream Maker™ (รหัสสินค้า: 141), Grape Seed Oil (รหัสสินค้า: 120), Sea Kelp (รหัสสินค้า: 77), Vitamin B3 (รหัสสินค้า: 74), Lactic Acid (รหัสสินค้า: 6376, รหัสสินค้า: 7768), น้ำ และ Phenoxyethanol (รหัสสินค้า: 155) เป็นสูตรที่คุณพบปัญหาเรื่องความข้น ตามที่ได้กล่าวไป การเพิ่มปริมาณ Light Cream Maker™ หรือเติม Xanthan Gum (รหัสสินค้า: 216, รหัสสินค้า: 31764) จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ คุณ cosmeceutical7 แนะนำถูกต้องแล้วว่าสูตรนี้ควรใช้ Light Cream Maker™ เนื่องจากไม่มีซิลิโคน ต่างจากสูตรแรกที่เหมาะกับ Warp Cream Maker™

ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับ Vitamin C

สำหรับ Vitamin C (รหัสสินค้า: 133, รหัสสินค้า: 265) ทาง Staff ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องแล้วว่า L-Ascorbic Acid (รหัสสินค้า: 133) ไม่เสถียรในสูตรน้ำ และต้องใช้ในสภาวะที่เฉพาะเจาะจง (pH ต่ำมาก ไม่มีน้ำ หรือใช้สารช่วยให้เสถียร) การใช้ Vitamin C อนุพันธ์ที่เสถียรกว่า เช่น Ascorbyl Glucoside (AA-2G) (รหัสสินค้า: 265) หรือ Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) อาจเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่าสำหรับผู้เริ่มต้นค่ะ

ลองปรับปรุงสูตรและทดลองต่อไปนะคะ การทำความเข้าใจพฤติกรรมของส่วนผสมต่างๆ จะช่วยให้คุณพัฒนาฝีมือได้ค่ะ อย่าลังเลที่จะลองเพิ่มปริมาณอิมัลซิไฟเออร์/สารเพิ่มความข้น หรือใช้สารเพิ่มความข้นร่วมด้วยอย่าง Xanthan Gum นะคะ!

รหัสสินค้าที่เกี่ยวข้อง: 141, 120, 77, 74, 6376, 7768, 133, 265, 155, 216, 31764, 288, 292, 295, 117, 227, 669, 737, 6936, 8585, 11054, 126152, 121, 111

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Sea Kelp Extract
Sea Kelp Extract
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
Shea Butter (Refined , Deodorised)
Shea Butter (Refined , Deodorised)
เครื่องสำอาง
NaturalProfile™ Grape Seed Oil (Cold-Pressed)
NaturalProfile™ Grape Seed Oil (Cold-Pressed)
เครื่องสำอาง
NaturalProfile™ Sweet Almond Oil (Cold-Pressed)
NaturalProfile™ Sweet Almond Oil (Cold-Pressed)
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
เครื่องสำอาง
Light Cream Maker™
Light Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Shea Butter (Ultra Soft)
Shea Butter (Ultra Soft)
เครื่องสำอาง
Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
เครื่องสำอาง
Warp Cream Maker™ (e.q. Nikkomulese wo)
Warp Cream Maker™ (e.q. Nikkomulese wo)
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide (Micronized)
Zinc Oxide (Micronized)
เครื่องสำอาง
Titanium Dioxide 250nm Pigment (Non-Treated)
Titanium Dioxide 250nm Pigment (Non-Treated)
เครื่องสำอาง
Shea Butter Light Oil
Shea Butter Light Oil
เครื่องสำอาง
Shea Butter Water
Shea Butter Water
เครื่องสำอาง
Lactic Acid (AHA) Neutralized (Deodorized)
Lactic Acid (AHA) Neutralized (Deodorized)
เครื่องสำอาง
Golden Shea Butter (Virgin, Ghana)
Golden Shea Butter (Virgin, Ghana)
เครื่องสำอาง
NanoShea™ (Liquid Shea Butter, 30%)
NanoShea™ (Liquid Shea Butter, 30%)
เครื่องสำอาง
PEG-75 Shea Butter Glycerides
PEG-75 Shea Butter Glycerides
เครื่องสำอาง