ปัญหาการทำสูตรครีมกันแดด: การแยกชั้นและส่วนผสมทางเลือก

ถามโดย: taeioyou เมื่อ: August 01, 2019 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ดิฉันกำลังทำสูตรครีมกันแดดโดยใช้ส่วนผสมและขั้นตอนดังนี้ค่ะ:

สูตร (%)

  1. SPF Protect Ultra II: 15
  2. LipidSoft Lite: 15
  3. ZnO powder: 3
  4. TiO2 powder: 1
  5. Polyethylene Wax: 3
  6. Milk Lotion Maker: 3
  7. Satin Cream Maker: 0.7
  8. Phenoxyethanol SA: 1
  9. H2O: 58.3

ขั้นตอนการผสม

  • เฟสน้ำมัน: รวม 1 + 2 + 5 + 6 ให้ความร้อนจนละลาย (85°C)
  • เฟสน้ำ: ให้ความร้อน 9 เท่ากับเฟสน้ำมัน (85°C)
  • ค่อยๆ เทเฟสน้ำลงในเฟสน้ำมัน ปั่นให้เข้ากัน ใส่ 7 เมื่อได้เนื้อครีมแล้วเติม 3, 4, 8

เกิดปัญหาและมีคำถามดังนี้ค่ะ:

  1. เกิดปัญหาขึ้นดังรูปค่ะ (เหมือนนมตกตะกอน) ขอทราบสาเหตุและวิธีการแก้ไขด้วยค่ะ
  2. ส่วนน้ำมันในสูตรเยอะไปไหมคะ? จริงๆ อยากลดปริมาณ 2 (LipidSoft Lite) แต่กลัวจะรองรับ physical sunscreen ไม่พอ ไม่แน่ใจว่า 1 (SPF Protect Ultra II) ถือเป็นตัวรองรับ physical sunscreen ได้ไหมคะ? ขอคำชี้แนะด้วยค่ะ
  3. สามารถใช้ Tribehenin / Butter Cream Maker / Cetearyl Alcohol / หรือตัวไหนแทน 6 (Milk Lotion Maker) และ 7 (Satin Cream Maker) ในสูตรได้บ้างคะ?

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะสำหรับคำแนะนำ

คำตอบ

การแก้ไขปัญหาการทำสูตรครีมกันแดด

ดูเหมือนว่าคุณกำลังทำสูตรครีมกันแดดที่มีทั้งสารกันแดดแบบเคมี (จาก SPF Protect Ultra II) และแบบกายภาพ (ZnO, TiO2) ปัญหาการแยกชั้นที่คุณพบเป็นเรื่องปกติในการทำสูตรที่มีเฟสน้ำมันสูงและมีผงของแข็งอย่างซิงค์ออกไซด์และไทเทเนียมไดออกไซด์

1. สาเหตุของการแยกชั้นและวิธีการแก้ไข

สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดของการแยกชั้น ("เหมือนนมตกตะกอน") คือ การกระจายตัวและการรวมตัวของผงซิงค์ออกไซด์และไทเทเนียมไดออกไซด์ที่ไม่เหมาะสม ผงกันแดดแบบกายภาพอย่าง ZnO และ TiO2 มักจะจับตัวเป็นก้อนและกระจายตัวได้ยากในสูตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเติมในขั้นตอนที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ใช้การผสมที่เพียงพอ

ในขั้นตอนที่คุณทำ คุณเติมผง (ZnO, TiO2) หลังจาก ที่ครีมเริ่มก่อตัวจากการรวมเฟสน้ำมันและน้ำและเติม Satin Cream Maker แล้ว ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าช้าเกินไปสำหรับสารกันแดดแบบกายภาพ สารเหล่านี้จำเป็นต้องถูกกระจายตัวอย่างทั่วถึงในเฟสใดเฟสหนึ่ง ก่อน ที่จะเกิดการอิมัลชัน เพื่อให้แน่ใจว่ามีการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและเพื่อให้ประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดที่ดีโดยไม่เกิดการรวมตัวซึ่งนำไปสู่ความไม่เสถียรและการแยกชั้น

ขั้นตอนการผสมที่แนะนำเพื่อป้องกันการแยกชั้น:

  1. เตรียมการกระจายผง: กระจายผง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ให้ทั่วถึงในส่วนหนึ่งของส่วนผสมเฟสน้ำมันของคุณ (LipidSoft Lite เป็นตัวเลือกที่ดี) ขั้นตอนนี้สำคัญมาก คุณอาจต้องใช้เครื่องผสมแบบ High Shear (เช่น Homogenizer หรือเครื่องผสมความเร็วสูง) เพื่อให้แน่ใจว่าผงกระจายตัวอย่างละเอียดและสม่ำเสมอโดยไม่มีก้อน ให้ความร้อนส่วนผสมนี้พร้อมกับส่วนผสมเฟสน้ำมันที่เหลือ (SPF Protect Ultra II, Polyethylene Wax, Milk Lotion Maker) จนถึง 85°C
  2. เตรียมเฟสน้ำ: ให้ความร้อนเฟสน้ำ (H2O) จนถึงอุณหภูมิเดียวกัน (85°C)
  3. การทำอิมัลชัน: ขณะที่ผสมเฟสน้ำอย่างแรง (โดยใช้ Homogenizer หรือเครื่องผสมความเร็วสูง) ให้ค่อยๆ เติมเฟสน้ำมันที่ร้อนแล้ว (ซึ่งมีผงที่กระจายตัวอยู่และ Milk Lotion Maker) ลงในเฟสน้ำ ผสมด้วยความเร็วสูงต่อไปอย่างน้อย 15-20 นาทีขณะที่อิมัลชันกำลังเย็นตัวลง วิธีนี้จะช่วยสร้างอิมัลชันที่เสถียรและทำให้แน่ใจว่าเฟสน้ำมัน (พร้อมผงที่กระจายตัวอยู่) ถูกรวมเข้ากับเฟสน้ำได้ดี
  4. เติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน: เมื่ออิมัลชันเย็นตัวลงต่ำกว่า 60°C แล้ว ให้เติม Satin Cream Maker และ Phenoxyethanol SA ผสมจนเข้ากันดีและได้เนื้อครีมตามต้องการ ระวังอย่าผสม Satin Cream Maker ด้วยความเร็วที่สูงเกินไป (>2500 rpm) เพราะอาจทำให้โครงสร้างของโพลีเมอร์เสียหายได้

การกระจายผงในเฟสน้ำมัน ก่อน การทำอิมัลชัน และใช้เทคนิคการผสมที่ถูกต้องในระหว่างการเติมเฟสน้ำมันลงในน้ำและการทำให้เย็น จะช่วยให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เสถียรและเป็นเนื้อเดียวกันมากขึ้น

2. ปริมาณเฟสน้ำมัน

เฟสน้ำมันทั้งหมดของคุณอยู่ที่ประมาณ 36% (15% SPF Protect Ultra II + 15% LipidSoft Lite + 3% Polyethylene Wax + 3% Milk Lotion Maker) ซึ่งถือเป็นปริมาณน้ำมันที่ค่อนข้างสูง

  • LipidSoft Lite เป็น Emollient ที่ให้ความรู้สึกบางเบาและช่วยในการกระจายผง การลดปริมาณอาจส่งผลต่อเนื้อสัมผัสและความง่ายในการกระจายผง
  • SPF Protect Ultra II เป็นส่วนผสมของสารกันแดดแบบเคมีและ Emollient ซึ่งละลายได้ในน้ำมัน มีส่วนสำคัญต่อเฟสน้ำมันและจำเป็นต่อการได้ค่า SPF ที่ต้องการ มี Emollient อยู่ด้วยแต่บทบาทหลักคือการป้องกัน UV ไม่ได้ช่วยกระจายผงกันแดดแบบกายภาพโดยเฉพาะ

Milk Lotion Maker ระบุว่าสามารถจับน้ำมันได้ถึง 40% ซึ่งแสดงว่าสามารถรองรับปริมาณน้ำมันของคุณได้ อย่างไรก็ตาม Satin Cream Maker แนะนำสำหรับสูตรที่มีน้ำมันไม่เกิน 25% การใช้ทั้งสองตัวร่วมกันในสูตรนี้ที่มีน้ำมัน 36% อาจทำให้เกิดความไม่เสถียรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผงอยู่ด้วย

แม้ว่าน้ำมัน 36% จะสูง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องมากเกินไปสำหรับครีมกันแดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีทั้งสารกันแดดแบบเคมีและกายภาพ ซึ่งมักต้องการเฟสน้ำมันจำนวนมากเพื่อการละลายและการกระจายตัว สิ่งสำคัญคือต้องมีระบบ Emulsifier และวิธีการผสมที่แข็งแรงพอที่จะรองรับปริมาณน้ำมันและอนุภาคของแข็งนี้ได้

ก่อนที่จะลด LipidSoft Lite ให้ลองแก้ไขขั้นตอนการผสมก่อน โดยเฉพาะขั้นตอนการกระจายผง หากยังคงมีการแยกชั้น อาจต้องปรับระบบ Emulsifier หรือลดปริมาณเฟสน้ำมันลงเล็กน้อย

3. Emulsifier/Thickener ทางเลือก

คุณถามเกี่ยวกับการใช้ Tribehenin, Butter Cream Maker หรือ Cetearyl Alcohol แทน Milk Lotion Maker (6) และ Satin Cream Maker (7)

  • Tribehenin เป็น Soft Wax และเป็น Thickener/Texturizer ไม่ใช่ Emulsifier จะละลายในเฟสน้ำมันด้วยความร้อนและช่วยเพิ่มความหนืดและปรับปรุง Pay-off ในผลิตภัณฑ์แบบแท่ง แต่ไม่สามารถทำให้น้ำมันและน้ำเข้ากันได้
  • Cetearyl Alcohol เป็น Fatty Alcohol ที่ใช้เป็น Thickener และ Emollient ไม่ใช่ Emulsifier หลัก และต้องใช้ ร่วมกับ Emulsifier เพื่อช่วยให้ Emulsion เสถียรและข้นขึ้น ผสมในเฟสน้ำมันด้วยความร้อน
  • Butter Cream Maker เป็น Emulsifier ที่สามารถรองรับน้ำมันได้ถึง 30% และทนทานต่อ Electrolyte ได้ดี มีช่วง pH กว้าง ผสมในเฟสน้ำมันด้วยความร้อน แม้ว่าจะสามารถสร้างเนื้อครีมที่ข้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ร่วมกับ Cetyl Alcohol หรือ Beeswax แต่เฟสน้ำมันในสูตรของคุณคือ 36% ซึ่งสูงกว่าปริมาณที่ระบุไว้เล็กน้อย

การแทนที่ทั้ง Milk Lotion Maker และ Satin Cream Maker ด้วยตัวเลือกเดียวอาจเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากมีปริมาณน้ำมันสูงและมีผงกันแดดแบบกายภาพอยู่ด้วย

  • หากต้องการทำให้ง่ายขึ้น คุณอาจลองเพิ่มปริมาณ Milk Lotion Maker (สูงสุด 5%) เนื่องจากออกแบบมาสำหรับปริมาณน้ำมันที่สูงกว่า (สูงสุด 40%) และผสมในเฟสน้ำมันด้วยความร้อน ซึ่งเข้ากับขั้นตอนการให้ความร้อนของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณยังคงต้องแน่ใจว่ามีการกระจายผงที่เหมาะสม
  • การใช้ Butter Cream Maker อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่คุณอาจต้องปรับปริมาณเฟสน้ำมันเล็กน้อย หรือใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่นเพื่อให้สามารถรองรับน้ำมัน 36% และผงต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังผสมในเฟสน้ำมันด้วยความร้อน

เนื่องจาก Milk Lotion Maker มีอยู่ในสูตรของคุณแล้วและเหมาะสำหรับปริมาณน้ำมันสูง และสูตรตัวอย่างสำหรับ SPF Protect Ultra II ก็ใช้ทั้ง Milk Lotion Maker และ Satin Cream Maker ปัญหาจึงน่าจะอยู่ที่ วิธีการ ผสมและการกระจายผง มากกว่าตัว Emulsifier เอง ขอแนะนำให้ลองปรับปรุงเทคนิคการผสมด้วยส่วนผสมปัจจุบันของคุณก่อนที่จะพิจารณา Emulsifier ทางเลือก หากคุณยังคงประสบปัญหา ให้พิจารณาเพิ่ม Milk Lotion Maker เล็กน้อย หรือสำรวจ Emulsifier ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับปริมาณน้ำมันสูง และ การกระจายตัวของสารกันแดดแบบกายภาพ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Satin Cream Maker™
Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide (Micronized)
Zinc Oxide (Micronized)
เครื่องสำอาง
Cetearyl Alcohol (50/50, e.q. Lanette O)
Cetearyl Alcohol (50/50, e.q. Lanette O)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)
LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง
Milk Lotion Maker™
Milk Lotion Maker™
เครื่องสำอาง
Butter Cream Maker™
Butter Cream Maker™
เครื่องสำอาง
SPF Protect Ultra™ II
SPF Protect Ultra™ II
เครื่องสำอาง
Tribehenin (Soft Wax, USA)
Tribehenin (Soft Wax, USA)
เครื่องสำอาง
Polyethylene Wax (Hard, Melting Point 88C)
Polyethylene Wax (Hard, Melting Point 88C)
เครื่องสำอาง
Titanium Dioxide Nanosil
Titanium Dioxide Nanosil
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide (Ultra-Fine, Non-Yellow, Non-Coated, USP)
Zinc Oxide (Ultra-Fine, Non-Yellow, Non-Coated, USP)
เครื่องสำอาง