หัวข้อ: ปัญหาการทำแชมพูผสมซิ้งค์ ไพริไธโอน

เรียน ท่านลูกค้า

ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับปัญหาและสูตรแชมพูผสมซิ้งค์ ไพริไธโอนที่คุณได้ทดลองทำ เราเข้าใจถึงความท้าทายที่คุณกำลังเผชิญ ทั้งเรื่องความข้น เนื้อสัมผัส การแขวนลอยของซิ้งค์ และฟอง

จากข้อมูลที่คุณให้มาและคำแนะนำก่อนหน้านี้ของทีมงาน นี่คือการวิเคราะห์ปัญหาและแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้:

1. เนื้อแชมพูข้นเกินไป/เกาะตัว: สูตรแรกของคุณที่ใช้ SugarThick มีปัญหาเรื่องความข้นมากเกินไป แม้ SugarThick จะเป็นสารให้ความข้นที่ดี แต่การปรับเนื้อให้ได้ตามต้องการต้องอาศัยการปรับสมดุลกับส่วนผสมอื่นๆ ในสูตรที่สอง คุณได้เปลี่ยนมาใช้ ClearClean ตามคำแนะนำของทีมงาน ซึ่งเป็นแนวทางที่ดี ปัญหาความข้นดูเหมือนจะลดลงในครั้งที่สอง แต่ปัญหาการตกตะกอนยังคงอยู่

2. ซิ้งค์ ไพริไธโอน ตกตะกอน: นี่เป็นปัญหาที่พบบ่อยในการแขวนลอยผงที่มีความหนาแน่นอย่างซิ้งค์ ไพริไธโอน ดังที่ทีมงานได้กล่าวไว้ SugarThick ไม่ได้สร้างโครงสร้าง (yield stress) ที่จำเป็นในการพยุงอนุภาคไว้ แม้ ClearClean จะช่วยในการอิมัลชันและเพิ่มความข้น แต่ก็อาจยังไม่เพียงพอที่จะป้องกันการตกตะกอนของซิ้งค์ ไพริไธโอน 2% เมื่อเวลาผ่านไป

   • แนวทางแก้ไข: เพื่อให้ซิ้งค์ ไพริไธโอน แขวนลอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจำเป็นต้องเพิ่ม สารช่วยแขวนลอย (Suspending Agent) โดยเฉพาะ สารที่นิยมใช้ได้แก่ Xanthan Gum, Acrylates Copolymer หรือสารปรับความข้นอื่นๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแขวนลอยโดยเฉพาะ สารเหล่านี้จะสร้างโครงสร้างคล้ายเจลที่ช่วยยึดอนุภาคไว้ คุณสามารถเพิ่มสารช่วยแขวนลอยนี้ลงในสูตรที่คุณใช้ ClearClean ปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับชนิดของสารช่วยแขวนลอยและส่วนผสมอื่นๆ ในสูตร

   • ข้อแนะนำในการผสม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผงซิ้งค์ ไพริไธโอน ถูกกระจายตัวอย่างสมบูรณ์ในสารนำพาที่เหมาะสม (เช่น กลีเซอรีน หรือสารลดแรงตึงผิวเล็กน้อย) เพื่อให้ได้เนื้อที่เนียนก่อนนำไปผสมกับเบสแชมพูหลัก สารช่วยแขวนลอยควรได้รับการไฮเดรตอย่างสมบูรณ์และเบสแชมพูควรมีความข้น/โครงสร้างที่เพียงพอ ก่อน ที่จะเติมซิ้งค์ ไพริไธโอน ที่กระจายตัวแล้วลงไป ใช้การผสมอย่างนุ่มนวลหลังจากเติมซิ้งค์เพื่อรักษาการแขวนลอยและหลีกเลี่ยงการเกิดฟองอากาศมากเกินไป

3. ผมพันกันและกระด้าง: ดังที่ทีมงานชี้แจง Lauryl Glucoside อาจทำให้รู้สึกฝืดหรือกระด้างบนเส้นผม โดยเฉพาะเมื่อใช้ที่ค่า pH หรือความเข้มข้นบางระดับ หรือเมื่อไม่มีสารปรับสภาพผมที่เพียงพอ แม้ว่าคุณจะใส่ CTAC (Cetrimonium Chloride) 1% ในสูตรที่สอง ซึ่งเป็นสารประจุบวกที่ช่วยลดการพันกันและปรับสภาพผม แต่ระบบสารลดแรงตึงผิวโดยรวมอาจยังคงชะล้างมากเกินไป หรือผลการปรับสภาพยังไม่เพียงพอ

   • แนวทางแก้ไข: ทำตามคำแนะนำของทีมงานในการ เปลี่ยนหรือลดปริมาณ Lauryl Glucoside พิจารณาใช้สารลดแรงตึงผิวทางเลือกหรือใช้ร่วมกับสารอื่นที่ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าบนเส้นผม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารปรับสภาพประจุบวก (CTAC หรือ GuarCat) เข้ากันได้กับระบบสารลดแรงตึงผิวและใช้ในระดับที่มีประสิทธิภาพ คุณอาจพิจารณาเพิ่มโพลิเมอร์ปรับสภาพผม หรืออนุพันธ์ซิลิโคนที่เหมาะสมสำหรับแชมพูในปริมาณเล็กน้อย หากต้องการปรับปรุงเพิ่มเติม โดยต้องแน่ใจว่าเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ โดยเฉพาะระบบสารช่วยแขวนลอยและความใสของสูตร (หากต้องการ)

4. ฟองน้อยและไม่คงตัว: ปัญหานี้ก็มีแนวโน้มเกี่ยวข้องกับส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิว โดยเฉพาะการมีอยู่ของ Lauryl Glucoside ดังที่ทีมงานได้กล่าวไว้

   • แนวทางแก้ไข: การเปลี่ยนหรือลด Lauryl Glucoside และใช้สารลดแรงตึงผิวที่ให้ฟองได้ดีกว่าจะช่วยได้ อัตราส่วนของสารลดแรงตึงผิวหลัก (Coco Betaine) ต่อสารลดแรงตึงผิวรองมีความสำคัญ คุณสามารถพิจารณาเพิ่มสารลดแรงตึงผิวที่ช่วยเสริมและทำให้ฟองคงตัว

สรุปคำแนะนำ:

• สำหรับการแขวนลอย: เพิ่มสารช่วยแขวนลอยโดยเฉพาะ (เช่น Xanthan Gum, Acrylates Copolymer) ลงในสูตรที่ใช้ ClearClean เพื่อช่วยให้ซิ้งค์ ไพริไธโอน แขวนลอย ปรับปรุงขั้นตอนการผสมซิ้งค์ ไพริไธโอน
• สำหรับเนื้อสัมผัสและฟอง: เปลี่ยนหรือลดปริมาณ Lauryl Glucoside ปรับส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิวเพื่อใช้ทางเลือกหรือสารร่วมที่ให้ฟองดีขึ้นและให้ความรู้สึกนุ่มลื่นบนเส้นผม ตรวจสอบประสิทธิภาพของสารปรับสภาพประจุบวก

เราเข้าใจว่าทีมงานกำลังส่งเรื่องนี้ให้ห้องแล็บทำการทดสอบ ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการปรับปรุงสูตรและกระบวนการผสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมที่สุด ห้องแล็บจะสามารถทดสอบส่วนผสมและขั้นตอนเฉพาะเพื่อแก้ไขปัญหาการตกตะกอนและประสิทธิภาพอื่นๆ

หวังว่าคำอธิบายนี้จะช่วยชี้แจงสาเหตุของปัญหาและให้แนวทางสำหรับการพัฒนาต่อไป

ขอแสดงความนับถือ
[Your Name/AI]