ปัญหาการทำโลชั่น: เนื้อแยกชั้น
คำถาม
ต้องการทำโลชั่นที่เนื้อค่อนข้างเหลว ไม่เหนอะหนะ เน้นให้ความชุ่มชื้นกับผิวนุ่ม
ใช้สูตรดังนี้:
- ส่วนน้ำมัน (ให้ความร้อน):
- Milk Lotion Maker 5%
- Mineral Oil 5%
- Cyclomethicone 3%
- Aloe Vera Oil 2%
- Vitamin E Acetate 2%
(ผสมในส่วนน้ำมันแล้วให้ความร้อน)
- ส่วนน้ำ (อุ่นให้ได้ประมาณ 50 องศา):
- Glycerin 2%
- Collagen (ซื้อเกรด food มาละลายน้ำ)
- น้ำหอม 0.25%
- Water เติมจนครบ 100%
(ผสมในส่วนน้ำแล้วอุ่นให้ได้ประมาณ 50 องศา)
ขั้นตอนการทำ: เทส่วนน้ำลงในส่วนน้ำมัน
ผลลัพธ์: ได้โลชั่นที่แยกชั้น
พอจะมีวิธีการแก้ไขไหมครับ?
ข้อมูลเพิ่มเติม: น้ำก่อนใส่ Collagen pH ประมาณ 5.6 แต่พอผสม Collagen ลงไป วัด pH ได้ประมาณ 6.9 ครับ ต้องการให้ผลิตภัณฑ์มี pH balance ด้วยครับ
คำตอบ
หัวข้อ: การปรับปรุงสูตรโลชั่นที่แยกชั้น
สวัสดีครับ/ค่ะ
สำหรับปัญหาโลชั่นแยกชั้นที่สอบถามเข้ามา ปัญหานี้มักเกิดจากกระบวนการอิมัลซิฟิเคชั่น (การทำเนื้อครีม) หรือความเข้ากันได้ของส่วนผสม จากสูตรและวิธีการที่คุณแจ้งมา มีข้อแนะนำที่อาจช่วยแก้ไขได้ดังนี้ครับ/ค่ะ:
- วิธีการทำอิมัลชั่น: แทนที่จะเทส่วนน้ำลงในส่วนน้ำมัน ลองเปลี่ยนเป็นเท ส่วนน้ำมันลงในส่วนน้ำ อย่างช้าๆ พร้อมกับคนหรือปั่นอย่างต่อเนื่องและแรง (เช่น ใช้เครื่องปั่นมือถือ - stick blender หรือตะกร้อตี)
- การคนระหว่างการเย็นตัว: หลังจากทำเนื้อครีมเสร็จแล้ว ให้คนหรือปั่นโลชั่นเป็นระยะๆ หรือต่อเนื่องขณะที่โลชั่นกำลังเย็นตัวลง วิธีนี้ช่วยให้เนื้อครีมคงตัวได้ดีขึ้น
- การเติม Cyclomethicone: Cyclomethicone เป็นสารที่ระเหยง่ายและบางครั้งอาจรบกวนความคงตัวของเนื้อครีมที่ยังร้อนอยู่ ลองเติม Cyclomethicone หลังจาก ทำเนื้อครีมหลักเสร็จแล้วและอุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 40°C
- การเติมน้ำหอม: เติมน้ำหอมในช่วงเดียวกับการเติม Cyclomethicone คือเมื่อโลชั่นเย็นตัวลงต่ำกว่า 40°C
- คอลลาเจนและค่า pH: คอลลาเจนเกรดอาหารบางชนิดอาจมีผลต่อค่า pH อย่างมาก ค่า pH 6.9 ถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและอาจทำให้เนื้อครีมไม่คงตัวได้
- เตรียมส่วนน้ำที่มี Glycerin และน้ำ
- ละลายคอลลาเจนในน้ำแยกต่างหาก แล้วลองวัดค่า pH ของสารละลายคอลลาเจนดู หากค่าสูง แสดงว่าคอลลาเจนอาจเป็นสาเหตุ
- ดำเนินการทำอิมัลชั่น (เทส่วนน้ำมันลงในส่วนน้ำ)
- เมื่อโลชั่นเย็นตัวลงและเติม Cyclomethicone กับน้ำหอมแล้ว ให้ ปรับค่า pH โดยใช้สารละลายกรดอ่อนๆ ที่เหมาะสม (เช่น สารละลายกรดซิตริกเจือจาง) ค่อยๆ หยดลงไปทีละน้อยพร้อมกับวัดค่า pH จนได้ค่าที่เหมาะสมกับผิว (pH 4.5-5.5)
- พิจารณาปริมาณ Emulsifier: แม้ว่า Milk Lotion Maker 5% มักจะเพียงพอ แต่หากยังคงแยกชั้นหลังจากปรับกระบวนการแล้ว อาจลองเพิ่มปริมาณ Milk Lotion Maker ขึ้นเล็กน้อย (เช่น 6-7%) เพื่อดูว่าจะช่วยให้เนื้อครีมคงตัวดีขึ้นหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับน้ำมันหลายชนิดในสูตร
ข้อเสนอแนะสำหรับขั้นตอนการทำที่ปรับปรุง:
- ส่วนน้ำมัน: ผสม Milk Lotion Maker, Mineral Oil, Aloe Vera Oil, Vitamin E Acetate นำไปให้ความร้อน
- ส่วนน้ำ: ผสม Water, Glycerin, และ Collagen ที่ละลายน้ำแล้ว นำไปอุ่นให้ได้ประมาณ 50°C
- การทำอิมัลชั่น: ค่อยๆ เท ส่วนน้ำมันที่ร้อนลงในส่วนน้ำที่ร้อน พร้อมกับปั่นอย่างแรงและต่อเนื่อง (เช่น ใช้เครื่องปั่นมือถือ)
- การเย็นตัว: คนหรือปั่นเป็นระยะๆ หรือต่อเนื่องขณะที่โลชั่นกำลังเย็นตัว
- การเติมสารที่ไวต่อความร้อน: เมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 40°C ให้เติม Cyclomethicone และน้ำหอม คนให้เข้ากัน
- การปรับค่า pH: ตรวจสอบค่า pH และปรับให้อยู่ในช่วง 4.5-5.5 โดยใช้สารละลายกรดอ่อนๆ
การปรับเทคนิคการทำอิมัลชั่น การเติมสารบางชนิดเมื่ออุณหภูมิต่ำลง และการควบคุมค่า pH สุดท้าย น่าจะช่วยให้ได้โลชั่นที่คงตัวและไม่แยกชั้นครับ/ค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Glycerin (USP/Food Grade)

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Mineral Oil (Paraffinum Liquidum) Light (26cst)

Milk Lotion Maker™
