ปัญหาการพัฒนาสูตรกันแดด: การละลาย, เนื้อสัมผัส, และขั้นตอนการผลิต

หัวข้อ: คำแนะนำและวิเคราะห์สูตรกันแดด

ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรกันแดดและคำถามของคุณค่ะ สูตรนี้มีวัตถุประสงค์ที่ดีในการรวมสารกันแดดแบบ Physical และ Chemical เพื่อให้ได้การปกป้องที่ครอบคลุมและเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น

ขอตอบคำถามของคุณโดยอิงจากสูตรที่ให้มาและคำแนะนำที่มีประโยชน์จากเจ้าหน้าที่นะคะ

1. ความเหมาะสมของส่วนประกอบและเปอร์เซ็นต์:

   • การใช้ TiO2 (สารกันแดดแบบ Physical) ร่วมกับ Avobenzone และ Octocrylene (สารกันแดดแบบ Chemical) เป็นแนวทางที่ดีเพื่อให้ได้การปกป้องรังสี UV ที่ครอบคลุม (UVA/UVB) และช่วยลดความขาววอกที่มักพบในการใช้สารกันแดดแบบ Physical ในปริมาณสูงเพียงอย่างเดียว
   • จุดสำคัญ (ตามที่เจ้าหน้าที่เน้น): สูตรนี้ขาดตัวทำละลายที่เพียงพอสำหรับ Avobenzone (3%) Avobenzone จำเป็นต้องใช้ตัวทำละลายที่ละลายในน้ำมันโดยเฉพาะเพื่อให้ละลายได้ทั้งหมดและมีความเสถียร หากไม่มีตัวทำละลายที่เพียงพอ อาจไม่สามารถให้การปกป้องตามที่ตั้งใจไว้ และอาจตกผลึกเมื่อเวลาผ่านไป คุณจำเป็นต้องเพิ่มตัวทำละลายที่เหมาะสมสำหรับ Avobenzone เข้าไปในส่วนของน้ำมันค่ะ กรุณาตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ Avobenzone บนหน้าเว็บไซต์สำหรับตัวทำละลายที่แนะนำ
   • SiliSolve Plus (1%): ตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวไว้ SiliSolve Plus อาจไม่จำเป็นในสูตรนี้ค่ะ เนื่องจาก Titanium Dioxide 15nm Liquid มักจะมีการกระจายตัวและทำให้เสถียรมาแล้ว และ Pro Polymer ก็สามารถช่วยให้สูตรโดยรวมมีความเสถียรได้ การตัด SiliSolve Plus ออกจะช่วยให้สูตรง่ายขึ้นค่ะ
   • Pro Polymer (1.5%): เจ้าหน้าที่ชี้ให้เห็นอย่างถูกต้องว่า Pro Polymer 1.5% ค่อนข้างสูงสำหรับสูตรกันแดด ซึ่งควรมีเนื้อที่เกลี่ยง่าย แม้ว่าปริมาณนี้จะทำให้สูตรข้นขึ้นอย่างแน่นอน แต่อาจทำให้เนื้อสัมผัสข้นเกินไปหรือเป็นเมือกเล็กน้อย ทำให้เกลี่ยยากและอาจทำให้การปกป้องไม่สม่ำเสมอ คำแนะนำของเจ้าหน้าที่ให้ใช้ประมาณ 0.5% เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเพื่อให้ได้ความหนืดที่เหมาะสม

2. เนื้อสัมผัสเมื่อมีน้ำ 60%:

   • ความกังวลของคุณว่าน้ำ 60% อาจทำให้เนื้อเหลวเกินไปนั้นเข้าใจได้ค่ะ แต่ความหนืดสุดท้ายขึ้นอยู่กับสารสร้างเนื้อเจล (thickener) และสารประสานเนื้อ (emulsifier) ที่ใช้ รวมถึงปริมาณของส่วนน้ำมันด้วย
   • ด้วย Pro Polymer 1.5% สูตรนี้มีแนวโน้มที่จะ ไม่ เหลวเกินไปค่ะ ในทางตรงกันข้าม อาจจะข้นเกินไปเสียด้วยซ้ำ
   • การลด Pro Polymer ลงมาในระดับที่เหมาะสมกว่า (เช่น 0.5% ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่) จะทำให้เนื้อมีความหนืดน้อยกว่าการใช้ 1.5% แต่เป้าหมายคือการสร้างสมดุลที่เกลี่ยง่ายและสบายผิว ไม่ใช่ข้นจนเกินไป กระบวนการที่เจ้าหน้าที่แนะนำ (สร้างเนื้อครีมก่อนแล้วค่อยสร้างเนื้อเจล) ช่วยให้คุณควบคุมความหนืดสุดท้ายได้โดยการปรับปริมาณ Pro Polymer ที่ใส่

3. ขั้นตอนการผลิต:

   • ขั้นตอนที่คุณเสนอมานั้นดีค่ะ แต่กระบวนการที่เจ้าหน้าที่แนะนำโดยทั่วไปจะเหมาะสมกว่าสำหรับการสร้างเนื้อครีมที่เสถียรซึ่งมีเม็ดสีและสารกันแดดแบบ Chemical ที่ละลายอยู่
   • กระบวนการที่เจ้าหน้าที่แนะนำ (แนะนำ):
     • รวมส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันทั้งหมด ได้แก่ Cyclomethicone, LipidSoft Lite, Avobenzone, Octocrylene และ Titanium Dioxide 15nm Liquid นำส่วนของน้ำมันนี้ไปอุ่นที่ 70-80°C และผสมให้เข้ากันดีเพื่อให้แน่ใจว่า Avobenzone ละลายหมดและ TiO2 กระจายตัวได้ดี
     • เตรียมส่วนของน้ำ โดยรวมน้ำและ 2Na-EDTA นำส่วนของน้ำนี้ไปอุ่นที่ 70-80°C
     • ค่อยๆ เติมส่วนของน้ำลงในส่วนของน้ำมัน พร้อมกับคน/ปั่นแรงๆ (ถ้ามีเครื่องปั่นความเร็วสูงจะดีที่สุด) เพื่อสร้างเนื้อครีม คน/ปั่นต่อไปจนเนื้อครีมเย็นลง
     • เมื่อเนื้อครีมเย็นลงพอสมควรแล้ว (เช่น ต่ำกว่า 40°C) ให้เติมผง Pro Polymer ลงไปพร้อมกับคน/ปั่น คน/ปั่นต่อไปจนเกิดเนื้อเจลและได้ความหนืดตามที่ต้องการ หมายเหตุ: คุณสามารถปรับปริมาณ Pro Polymer ในขั้นตอนนี้เพื่อควบคุมความข้นได้
     • สุดท้าย เติมส่วนผสมที่ไม่ทนความร้อน เช่น Madecassoside -80 powder และ Phenoxyethanol SA และผสมให้เข้ากัน
   • เหตุผลที่วิธีของเจ้าหน้าที่ดีกว่า: วิธีนี้ช่วยให้แน่ใจว่าสารกันแดดที่ละลายในน้ำมันและ TiO2 ที่กระจายตัวอยู่ ถูกรวมเข้ากับส่วนของน้ำมันอย่างเหมาะสมก่อนการสร้างเนื้อครีม ซึ่งจะนำไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเติมส่วนของน้ำลงในส่วนของน้ำมันเป็นเทคนิคทั่วไปในการสร้างเนื้อครีมแบบ W/O (Water-in-Oil) ซึ่งสามารถให้คุณสมบัติกันน้ำได้ดี แม้ว่า O/W (Oil-in-Water) ก็เป็นไปได้ขึ้นอยู่กับระบบสารประสานเนื้อ (ซึ่งไม่ได้ระบุชัดเจนในสูตรนี้ แต่ SiliSolve Plus ที่ถูกตัดออกเป็นสารประสานเนื้อชนิดหนึ่ง) วิธีของเจ้าหน้าที่ดูเหมือนจะเน้นการจัดการสารกันแดดและเม็ดสีอย่างถูกต้อง
   • เกี่ยวกับ Silicone Gel (Vinyl Dimethicone Crosspolymer): ส่วนผสมนี้ถูกกล่าวถึงในขั้นตอนและคำถามเรื่องความหนืดของคุณ แต่ไม่ได้อยู่ในรายการส่วนผสมเริ่มต้น หากคุณตั้งใจจะใส่ ส่วนนี้มักจะถูกเติมในส่วนของน้ำมันหรือซิลิโคน ส่วนใหญ่มีส่วนช่วยเรื่องเนื้อสัมผัสและสามารถทำให้ส่วนของซิลิโคน/น้ำมันข้นขึ้นได้ แต่ Pro Polymer เป็นสารสร้างเนื้อเจลหลักสำหรับส่วนของน้ำและควบคุมความหนืดโดยรวมในโครงสร้างสูตรนี้
   • การปรับความหนืด: ตามที่กล่าวไป การปรับเปอร์เซ็นต์ของ Pro Polymer เป็นวิธีที่ตรงที่สุดในการควบคุมความหนืดโดยรวมของเนื้อครีม/เจลสุดท้าย เริ่มต้นด้วยคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ที่ประมาณ 0.5% และปรับเพิ่มหรือลดทีละน้อยในการทดลองครั้งต่อไปจนกว่าจะได้ความหนืดและการเกลี่ยที่ต้องการ

4. การคำนวณ SPF/PA:

   • ค่า SPF 35 และ PA+++ ที่คุณคำนวณได้เป็นการประมาณค่าทางทฤษฎีที่ดีโดยอิงจากเปอร์เซ็นต์ของสารกันแดด
   • อย่างไรก็ตาม ดังที่กล่าวไปเกี่ยวกับปัญหาการละลายของ Avobenzone การปกป้อง จริง ที่ได้ในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปอาจต่ำกว่าค่าที่คำนวณได้ทางทฤษฎี หากสารกันแดดไม่ละลาย กระจายตัว และมีความเสถียรอย่างเหมาะสมในสูตร การทำให้แน่ใจว่า Avobenzone ละลายหมดมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการได้ค่า SPF/PA ตามที่คำนวณไว้

สรุปคำแนะนำ:

1. แก้ไขปัญหาการละลายของ Avobenzone: เพิ่มตัวทำละลายที่เหมาะสมสำหรับ Avobenzone เข้าไปในส่วนของน้ำมัน
2. ตัด SiliSolve Plus ออก: ไม่จำเป็นในสูตรนี้
3. ลด Pro Polymer: เริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำลง ประมาณ 0.5% และปรับตามความต้องการสำหรับความหนืดที่ต้องการ
4. ทำตามขั้นตอนการผลิตของเจ้าหน้าที่: รวมส่วนผสมของน้ำมัน (รวมถึงสารกันแดดและ TiO2 liquid) อุ่น, รวมส่วนผสมของน้ำ อุ่น, เติมส่วนของน้ำลงในส่วนของน้ำมันพร้อมคน/ปั่นเพื่อสร้างเนื้อครีม, ทำให้เย็น, เติม Pro Polymer เพื่อสร้างเนื้อเจล, เติมส่วนผสมที่ไม่ทนความร้อน
5. ปรับความหนืด: ใช้เปอร์เซ็นต์ Pro Polymer เพื่อปรับเนื้อสัมผัสสุดท้าย

การปรับปรุงเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์กันแดดที่มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้นตามวัตถุประสงค์ของคุณค่ะ