คำแนะนำการปรับสูตรสลีปปิ้งมาส์กของคุณ

ดูเหมือนว่าคุณกำลังทำสูตรสลีปปิ้งมาส์กที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์หลายชนิด! เรามาดูคำถามและปัญหาที่คุณพบกันทีละข้อนะคะ

วิธีละลาย Luxury Cream Maker

ที่คุณใส่ Luxury Cream Maker ลงใน Water Phase นั้นถูกต้องแล้วค่ะ ปัญหาการละลายยากและใช้เวลานานเป็นเรื่องปกติ วิธีที่แนะนำคือ ค่อยๆ เทส่วนของน้ำ (water phase) ลงบนผง/เนื้อครีมของ Luxury Cream Maker ทีละน้อย แทนที่จะใส่ผงลงในน้ำ การคนอย่างต่อเนื่องในขณะที่ค่อยๆ เติมของเหลวจะช่วยให้ผงดูดซับน้ำและกระจายตัวได้ง่ายขึ้น ป้องกันการจับตัวเป็นก้อนและช่วยให้ละลายเร็วขึ้นมาก การใช้ความร้อนเล็กน้อย (50-60°C) ก็สามารถช่วยให้ละลายได้ง่ายขึ้นเช่นกันค่ะ

ความข้นของครีมและ DMAE

ข้อสังเกตของคุณถูกต้องค่ะ ความเข้มข้นสูงของ DMAE (SkinTight MD™) ในสูตรของคุณน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ครีมไม่ข้นในตอนแรก แม้จะใส่ Luxury Cream Maker แล้วก็ตาม DMAE เป็นสารอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งสารอิเล็กโทรไลต์สามารถรบกวนความสามารถในการสร้างเนื้อเจลของโพลิเมอร์และสารสร้างเนื้อครีมบางชนิด รวมถึง Luxury Cream Maker และ Pro Polymer การเพิ่มสารสร้างเนื้อเหล่านี้เข้าไปอีกตามที่คุณทำ เป็นแนวทางที่ถูกต้องเพื่อให้ได้ความหนืดที่ต้องการค่ะ

การลดความเหนียวเหนอะหนะ

ความรู้สึกเหนียวหรือ "หนึบๆ" ที่คุณพบนั้น ก็น่าจะมาจากความเข้มข้นสูงของส่วนผสมออกฤทธิ์ โดยเฉพาะ DMAE และอาจรวมถึงปริมาณ Pro Polymer ที่เพิ่มขึ้นด้วย แม้ว่าส่วนผสมเหล่านี้จะให้ประโยชน์ แต่ก็สามารถทำให้ผิวรู้สึกเหนอะหนะได้ ในการลดปัญหานี้ คุณสามารถเพิ่มส่วนผสมที่ช่วยปรับให้เนื้อครีมลื่นขึ้นและลดความเหนอะหนะ โดยที่ไม่ทำให้สูตรเหลวลงอย่างมาก ตัวเลือกได้แก่:

• สารให้ความนุ่มลื่นเนื้อบางเบา (Light Emollients): เช่น LipidSoft Lite เป็นน้ำมันเนื้อบางเบาที่ให้ความรู้สึกนุ่มลื่นโดยไม่ทำให้หนักหรือเหนอะหนะ
• ซิลิโคน (Silicones): เช่น Cyclopentasiloxane หรือ SiliSilk ซิลิโคนช่วยลดความเหนอะหนะและให้ความรู้สึกนุ่มลื่นดุจแพรไหมเมื่อทา SiliSilk เป็นผงซิลิโคนที่ช่วยดูดซับความมันได้ด้วย
• ผง (Powders): เช่น PowderCream ผงเหล่านี้สามารถช่วยปรับเนื้อครีมให้มีความรู้สึกเหมือนทาแป้ง ลดความเหนอะหนะเมื่อทาลงบนผิว

การเพิ่มส่วนผสมเหล่านี้ในปริมาณเล็กน้อย (เช่น 1-5%) หรือใช้ร่วมกัน สามารถช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสและลดความเหนียวเหนอะหนะได้อย่างมากค่ะ

ขั้นตอนการผสม

ขั้นตอนการแยกส่วนของน้ำและน้ำมันก่อนนำมารวมกันนั้นถูกต้องแล้วสำหรับสูตรอิมัลชัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ละลายหมดในเฟสน้ำ และส่วนผสมที่ละลายน้ำมันได้ (ถ้ามี ในสูตรของคุณส่วนใหญ่ละลายน้ำ ยกเว้น Coenzyme Q10 อาจขึ้นอยู่กับชนิด) อยู่ในเฟสน้ำมัน ก่อนที่จะนำทั้งสองส่วนมารวมกันและคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อครีมค่ะ

การปรับค่า pH

ค่า pH ที่ต่ำกว่า 3 ถือว่าค่อนข้างเป็นกรด แม้ว่าผิวจะทนค่า pH ที่ต่ำกว่า 5.5 ได้ แต่โดยทั่วไปแนะนำให้ปรับค่า pH ให้ใกล้เคียงกับค่า pH ตามธรรมชาติของผิว (ประมาณ 5.5) เพื่อลดโอกาสการระคายเคือง โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นสลีปปิ้งมาส์ก คุณสามารถปรับค่า pH เป็น 5.5 ได้โดยใช้ Triethanolamine ค่อยๆ เติมทีละน้อย ขณะคนและวัดค่า pH ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ค่าที่ต้องการคือ 5.5 อย่าใช้เกินอัตราที่แนะนำสำหรับ Triethanolamine (โดยทั่วไปไม่เกิน 2.5%)

ส่วนผสมช่วยกระชับรูขุมขน

Vitamin B6 (Pyridoxine Hydrochloride) มีประสิทธิภาพในการช่วยกระชับรูขุมขน แต่ส่วนใหญ่จะทำงานโดยการควบคุมความมันส่วนเกิน ทำให้เหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน หากปัญหารูขุมขนกว้างไม่ได้เกิดจากความมันเพียงอย่างเดียว หรือคุณต้องการตัวเลือกเพิ่มเติม ลองพิจารณาส่วนผสมที่เน้นเรื่องการสมานผิวหรือกระชับรูขุมขนโดยเฉพาะ PoreNin™ (Natural Extracted Tannic Acid) เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ช่วยกระชับรูขุมขนได้ค่ะ

ด้วยการปรับเทคนิคการผสมสารสร้างเนื้อครีม การเพิ่มส่วนผสมช่วยปรับเนื้อสัมผัส และการปรับค่า pH อย่างระมัดระวัง คุณน่าจะสามารถได้เนื้อครีมสลีปปิ้งมาส์กที่มีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น ในขณะที่ยังคงได้รับประโยชน์จากส่วนผสมออกฤทธิ์ที่คุณใช้ค่ะ