ปัญหาการพัฒนาสูตรแชมพู: หนังศีรษะมัน, การละลาย Ichthammol, ความใส, และความเหมาะสมของส่วนผสม
คำถาม
มีคำถามเกี่ยวกับการพัฒนาสูตรแชมพูหลายข้อ โดยเฉพาะเรื่องการจัดการหนังศีรษะมัน ความเข้ากันได้ของส่วนผสม และเนื้อสัมผัส:
- ปัจจุบันใช้แชมพูที่ไม่มีซัลเฟตแล้วรู้สึกว่าหนังศีรษะมันเร็วกว่าแชมพูที่มีซัลเฟต ควรปรับสูตรอย่างไรเพื่อลดความมันและยืดระยะเวลาในการสระผม?
- Ichthammol ควรละลายอย่างไรก่อนนำไปใส่ในสูตร? ละลายในน้ำยากหรือไม่?
- Ichthammol กับ BioSulphur เป็นส่วนผสมประเภทเดียวกันหรือไม่?
- สามารถใช้ Ichthammol 1% ในสูตรต่อไปนี้ได้หรือไม่? (และขอคำแนะนำขั้นตอนการผสมด้วย โดยเฉพาะ Ichthammol):
- EDTA 0.2%
- Zinc PCA 0.5%
- CTAC 1%
- Ichthammol 1%
- Glycerin 5%
- Coco Betaine 20%
- Lauryl Glucoside 10%
- Coco Foam 10%
- Phenoxyethanol 1%
- Citric Acid (ปรับ pH)
- น้ำหอม 1%
- น้ำ (ส่วนที่เหลือ)
- แชมพูสูตรที่ทำออกมามีลักษณะขุ่น เกิดจากอะไร และจะทำให้ใสได้อย่างไร?
- การใช้ CTAC 1% เพียงอย่างเดียวในสูตรแชมพูเพียงพอสำหรับการปรับสภาพเส้นผมหรือไม่? และสามารถทำให้เกิดการสะสมบนเส้นผมได้หรือไม่ เหมือนกับ GuarCat?
- ในสูตรก่อนหน้านี้ ใช้ Panthenol 0.25%, Keratin 0.5%, และ Biotin 0.5% เพื่อบำรุง แต่ทำให้หนังศีรษะคัน ความเข้มข้นเหล่านี้สูงเกินไปหรือไม่ หรืออาจเกิดจากส่วนผสมอื่น? ทางทีมงานเคยแนะนำให้สังเกตผลจากการเปลี่ยนส่วนผสมแต่ละรายการ
- สำหรับส่วนผสมที่ไม่ได้ระบุข้อจำกัดด้านอุณหภูมิไว้บนหน้าผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปสามารถทนความร้อนได้สูงสุดประมาณเท่าใดในระหว่างการพัฒนาสูตร?
คำตอบ
คำแนะนำสำหรับการผสมแชมพู
ปัญหาหนังศีรษะมัน
หากหนังศีรษะของคุณมันเร็วเมื่อใช้แชมพูที่ไม่มีซัลเฟต เมื่อเทียบกับแชมพูที่มีซัลเฟต อาจเป็นเพราะสารลดแรงตึงผิวที่ไม่มีซัลเฟตมีความอ่อนโยนกว่า เพื่อช่วยลดความมันของหนังศีรษะและยืดระยะเวลาในการสระผม คุณสามารถพิจารณา:
- เพิ่มความเข้มข้นของสารลดแรงตึงผิว: สามารถเพิ่มเปอร์เซ็นต์รวมของสารลดแรงตึงผิวหลักของคุณ (Coco Betaine, Lauryl Glucoside, Coco Foam) ในสูตรได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดและขจัดความมัน อย่างไรก็ตาม ควรระวังว่าความเข้มข้นที่สูงขึ้นอาจทำให้ผมแห้งได้ในบางคน
- เพิ่มส่วนผสมควบคุมความมัน: การเพิ่มความเข้มข้นของ Zinc PCA (สามารถใช้ได้สูงสุด 1%) สามารถช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันบนหนังศีรษะได้ดียิ่งขึ้น ส่วนผสมที่มีซัลเฟอร์ เช่น Ichthammol ก็ช่วยควบคุมความมันและรังแคได้เช่นกัน ควรใช้ในความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพและอยู่ในขอบเขตที่แนะนำ
การละลาย Ichthammol
Ichthammol ละลายในน้ำได้ยาก วิธีที่แนะนำคือ ผสม Ichthammol กับ Glycerin ก่อน ในอัตราส่วน Glycerin อย่างน้อย 5-10 ส่วน ต่อ Ichthammol 1 ส่วน การอุ่นส่วนผสมนี้เบาๆ จะช่วยให้ละลายได้ง่ายขึ้น เมื่อผสมเข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวแล้ว จึงค่อยๆ เติมส่วนผสมนี้ลงในส่วนของน้ำในสูตร โดยคนหรือปั่นให้เข้ากัน
Ichthammol กับ BioSulphur
ใช่ Ichthammol (Ammonium Bituminosulfonate) และ BioSulphur (Water Soluble Sulfur) เป็น ส่วนผสมประเภทเดียวกัน ทั้งคู่เป็นอนุพันธ์ของซัลเฟอร์ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะเพื่อช่วยจัดการกับปัญหาหนังศีรษะมันและรังแค มีกลไกการทำงานที่คล้ายคลึงกัน
การใช้ Ichthammol 1% ในสูตรของคุณ
ตามสูตรที่คุณให้มา:
- EDTA 0.2%
- Zinc PCA 0.5%
- CTAC 1%
- Ichthammol 1%
- Glycerin 5%
- Coco Betaine 20%
- Lauryl Glucoside 10%
- Coco Foam 10%
- Phenoxyethanol 1%
- Citric Acid (ปรับ pH)
- น้ำหอม 1%
- น้ำ (ส่วนที่เหลือ)
คุณสามารถใช้ Ichthammol ที่ 1% ในสูตรนี้ได้ ควรปฏิบัติตามวิธีการที่แนะนำในการผสมกับ Glycerin ก่อนเติมลงในสูตรหลักเพื่อให้ละลายได้อย่างถูกต้อง
แชมพูขุ่น
ความขุ่นในแชมพูของคุณน่าจะเกิดจาก น้ำหอม ซึ่งโดยทั่วไปเป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันและไม่กระจายตัวได้ดีในสูตรที่เป็นน้ำ แม้ว่าสารลดแรงตึงผิวของคุณ (Coco Betaine, Lauryl Glucoside, Coco Foam) จะช่วยในการกระจายตัวของน้ำหอมได้บ้าง แต่อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ใสได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้น้ำหอมที่ความเข้มข้น 1%
เพื่อให้ได้แชมพูที่ใส คุณสามารถลองวิธีที่ทีมงานแนะนำ: อุ่น Sulfate Free Shampoo Base (หรือส่วนผสมสารลดแรงตึงผิวหลักของคุณ) ที่อุณหภูมิ 50-60°C และผสมน้ำหอมลงไปจนละลายเข้ากันดี ก่อนนำส่วนผสมนี้ไปรวมกับส่วนของน้ำ หากยังไม่ใส คุณจะต้องใช้สารช่วยละลาย (solubilizer) เช่น Flora Solve หรือ Flora Solve Clear เพื่อช่วยกระจายน้ำหอมในส่วนของน้ำได้อย่างสมบูรณ์
การใช้ CTAC และการสะสม
Cetrimonium Chloride (CTAC) เป็นสารปรับสภาพเส้นผมประจุบวกที่นิยมใช้ในแชมพูและครีมนวดผม เพื่อลดไฟฟ้าสถิต ทำให้ผมหวีง่ายทั้งขณะเปียกและแห้ง และให้ความรู้สึกนุ่มลื่น โดยจะเกาะติดกับพื้นผิวเส้นผมที่มีประจุลบ
การใช้ CTAC เพียงอย่างเดียวที่ 1% ในสูตรแชมพูอยู่ในช่วงความเข้มข้นที่นิยมใช้ (บางผลิตภัณฑ์ใช้ถึง 2%) และโดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย
ทั้งโพลิเมอร์ประจุบวก (เช่น GuarCat) และสารลดแรงตึงผิวประจุบวก (เช่น CTAC) สามารถทำให้เกิดการสะสม บนเส้นผมได้เมื่อใช้เป็นเวลานานหรือใช้ในความเข้มข้นสูง การรับรู้ถึงการสะสมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของแต่ละบุคคล ความกระด้างของน้ำ และสูตรโดยรวม แม้ว่า GuarCat จะขึ้นชื่อเรื่องการเกาะติดเพื่อปรับสภาพเส้นผม แต่ CTAC ก็สามารถทำให้เกิดการสะสมได้เช่นกัน หากคุณพบว่าการใช้ CTAC ที่ 1% เพียงอย่างเดียวให้ความลื่นและลดการพันกันของเส้นผมได้ดีโดยไม่รู้สึกว่ามีการสะสมมากเกินไปสำหรับผมของคุณ ก็สามารถใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ควรทดสอบกับบริเวณเล็กๆ ก่อนใช้ทั่วหนังศีรษะเพื่อดูว่ามีการระคายเคืองหรือไม่
ส่วนผสมบำรุงเส้นผมและอาการคัน
ในสูตรก่อนหน้านี้ของคุณ มีส่วนผสมของ Panthenol (0.25%), Keratin (0.5%) และ Biotin (0.5%) ส่วนผสมเหล่านี้โดยทั่วไปใช้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เสริมความแข็งแรงให้เส้นผม และบำรุงหนังศีรษะ ความเข้มข้นที่คุณใช้โดยทั่วไปอยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับส่วนผสมเหล่านี้ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม
อาการคันหนังศีรษะอาจเกิดจากหลายปัจจัย รวมถึงการแพ้สารลดแรงตึงผิว สารกันเสีย น้ำหอม หรือแม้แต่สารออกฤทธิ์บางชนิด เป็นการยากที่จะระบุสาเหตุที่แท้จริงของอาการคันโดยไม่แยกทดสอบส่วนผสมแต่ละตัว เนื่องจากคุณได้ทดลองใช้สูตรต่างๆ มาหลายครั้ง ลองสังเกตว่าส่วนผสมใดที่มีอยู่ในสูตรที่ทำให้เกิดอาการคัน หรือมีความเข้มข้นสูงขึ้นในสูตรใหม่ การสังเกตผลของการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมแต่ละรายการเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการระบุสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองสำหรับหนังศีรษะของคุณ ความเข้มข้นของส่วนผสมบำรุงเส้นผมเองไม่น่าจะเป็นสาเหตุหลักของการระคายเคือง เว้นแต่คุณจะแพ้ส่วนผสมใดส่วนผสมหนึ่งเป็นการเฉพาะ
ความคงตัวต่อความร้อนของส่วนผสมที่ไม่ได้ระบุ
สำหรับส่วนผสมที่ไม่ได้ระบุข้อจำกัดด้านอุณหภูมิหรือคำแนะนำเกี่ยวกับความร้อนไว้บนหน้าผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปสามารถถือว่ามีความคงตัวและสามารถนำไปใช้ในสูตรที่อุ่นเบาๆ ได้ถึงประมาณ 80°C อย่างไรก็ตาม ในกระบวนการผลิตเครื่องสำอาง ควรใช้อุณหภูมิที่ต่ำที่สุดเท่าที่จำเป็นเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดคงสภาพและประสิทธิภาพไว้ และป้องกันการระเหยที่ไม่จำเป็น
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

Glycerin (USP/Food Grade)

Citric Acid (Monohydrate, Natural)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Cocamidopropyl Betaine

Cetrimonium Chloride (CTAC)

Lauryl Glucoside

Disodium EDTA

GuarCat™ Standard (1,000-5,000mpas)

Zinc PCA

AminoWash™ (Sodium Lauroyl Glutamate, Fine)

Dandruff-Guard™ (Piroctone Olamine)

Pure Keratin™ (Natural, Australian Sheep Wool)

Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)

Coco-Foam-50™ (Cocamidopropyl Hydroxysultaine)

Biotin Express™

EasyThick ™ (viscous in shampoo/liquid soap)

Poly-Conditioner Pro (400 mPa.s)
