การปรับปรุงสูตร: แก้ไขกลิ่นและเนื้อสัมผัส

จากคำอธิบายของคุณและคำตอบก่อนหน้านี้ กลิ่นคล้ายโลหะที่คุณพบอาจเกี่ยวข้องกับ Ethoxydiglycol เนื่องจากส่วนผสมนี้มีกลิ่นเฉพาะตัวอยู่แล้วตามธรรมชาติ ส่วนความรู้สึกเหนียว เป็นเมือก หรือเคลือบผิว เป็นคุณสมบัติทั่วไปของ Hyaluronic Acid โดยเฉพาะชนิดที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ เช่น Hyaluronic Acid (Standard Molecule) หรือ Hyaluronic Acid (Large Molecule) ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าสามารถสร้างเนื้อเจลและเคลือบผิวได้ เนื้อสัมผัสแบบนี้ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับสูตรที่มี Hyaluronic Acid ชนิดเหล่านี้ในความเข้มข้นหนึ่งๆ

เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของคุณและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ นี่คือข้อเสนอแนะบางประการ:

การลดความเหนียวเหนอะหนะ

• ลดความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid: ตามที่แนะนำไปก่อนหน้านี้ การลดเปอร์เซ็นต์ของ Hyaluronic Acid ในสูตรของคุณเป็นวิธีที่ตรงที่สุดในการลดความเหนียวและความรู้สึกเคลือบผิว ลองลดความเข้มข้นลงทีละน้อยจนกว่าจะได้เนื้อสัมผัสที่คุณต้องการ โดยที่ยังคงให้ความชุ่มชื้นเพียงพอ
• พิจารณาใช้ Hyaluronic Acid ขนาดโมเลกุลที่แตกต่างกัน: หากคุณใช้ Hyaluronic Acid (Standard Molecule) หรือ Hyaluronic Acid (Large Molecule) ลองพิจารณาผสมหรือเปลี่ยนไปใช้ Hyaluronic Acid (Small Molecule) Hyaluronic Acid โมเลกุลขนาดเล็กสามารถซึมลึกเข้าสู่ผิวได้มากกว่า และไม่สร้างเนื้อเจลหรือเคลือบผิวมากเท่า ซึ่งจะช่วยลดความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะได้ ในขณะที่ยังคงให้ความชุ่มชื้น

การลดกลิ่น

• ตรวจสอบเกรดของ Ethoxydiglycol: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้ Ethoxydiglycol เกรดเครื่องสำอางที่มีความบริสุทธิ์สูง Ethoxydiglycol เกรดที่มีความบริสุทธิ์ต่ำอาจมีกลิ่นที่แรงกว่าหรือไม่พึงประสงค์ได้
• เพิ่มน้ำหอม: วิธีที่พบบ่อยที่สุดในการกลบกลิ่นส่วนผสมในเครื่องสำอางคือการเติมน้ำหอมในปริมาณเล็กน้อย หากสูตรของคุณเป็นสูตรน้ำ คุณอาจต้องใช้สารช่วยละลายน้ำหอม (Solubilizer) เช่น Flora Solve™ Clear เพื่อช่วยกระจายน้ำหอมให้เข้ากับเนื้อสูตรได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ทำให้ผลิตภัณฑ์ขุ่นหรือแยกชั้น ควรใช้น้ำหอมที่ได้รับการรับรองสำหรับใช้ในเครื่องสำอางเท่านั้น และปฏิบัติตามอัตราส่วนที่แนะนำ
• พิจารณาใช้ตัวทำละลาย/ตัวนำพาทางเลือก: หากกลิ่นของ Ethoxydiglycol เป็นปัญหาและไม่ต้องการเติมน้ำหอม คุณอาจพิจารณาสำรวจตัวทำละลายหรือตัวนำพาทางเลือกอื่นๆ แต่การทำเช่นนี้จะต้องมีการปรับปรุงสูตรและทดสอบอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากันได้และมีประสิทธิภาพตามที่ต้องการ

การปรับปรุงสูตรเครื่องสำอางมักต้องอาศัยการลองผิดลองถูก แนะนำให้ปรับเปลี่ยนทีละน้อยและทดสอบผลลัพธ์จนกว่าจะได้เนื้อสัมผัสและกลิ่นที่คุณต้องการ