ปัญหาการแยกชั้นและเปลี่ยนสีในสูตรครีมทารักแร้
คำถาม
ต้องการพัฒนาสูตรครีมทารักแร้เพื่อระงับกลิ่นและผิวขาวใส แต่สูตรที่ทำอยู่มีปัญหาแยกชั้นและเปลี่ยนสี รบกวนช่วยแนะนำและตรวจสอบสูตรที่ทำอยู่ให้หน่อยได้ไหมคะ ว่าควรปรับปรุงอย่างไรเพื่อให้สูตรคงตัว ไม่แยกชั้นและไม่เปลี่ยนสี
สูตรที่ทำอยู่มีส่วนประกอบดังนี้:
- Water: 50.8%
- Dissodium EDTA: 0.1%
- Hydroxyethyl Cellulose: 0.2%
- Polyglyceryl 10 Dipalmitate: 1.0%
- Polyglyceryl 6 Distearate: 1.0%
- Cetyl Alcohol: 5.0%
- Cetyl Dimethicone: 4.0%
- Glyceryl Stearate & PEG-100 Stearate: 1.5%
- Cyclopentasiloxane: 5.0%
- Aluminium Chlorohydrate: 15.0%
- Water: 8.0%
- Niacinamide: 5.0%
- Bioran Flower Acid: 1.0%
- Dipotassium Glycyrrhizate: 0.1%
- Cetetyl Morpholinium Ethosulfate: 1.0%
- Phenoxyethanol & Caprylyl Glycol & Chlorphenesin: 1.0%
- Fragrance: 0.3%
คำตอบ
ข้อเสนอแนะสำหรับสูตรครีมทารักแร้ของคุณ
ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรครีมทารักแร้ที่เน้นการระงับกลิ่นและผิวขาวใส พร้อมทั้งต้องการให้สูตรไม่แยกชั้นและไม่เปลี่ยนสี สูตรของคุณมีส่วนผสมหลายอย่างที่มีประสิทธิภาพ ลองมาดูสาเหตุที่อาจทำให้เกิดการแยกชั้นและเปลี่ยนสี พร้อมข้อแนะนำในการปรับปรุงนะคะ
การวิเคราะห์สูตรปัจจุบันของคุณ
สูตรของคุณใช้ส่วนผสมเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ดังนี้:
- ระงับกลิ่น/เหงื่อ: Aluminium Chlorohydrate เป็นสารออกฤทธิ์หลักสำหรับจุดประสงค์นี้
- ผิวขาวใส: Niacinamide และอาจรวมถึง Bioran Flower acid สำหรับปรับสีผิวให้กระจ่างใส
- อิมัลซิไฟเออร์และเนื้อสัมผัส: คุณใช้ Emulsifier หลายชนิด (Polyglyceryl 10 Dipalmitate, Polyglyceryl 6 Distearate, Glyceryl Stearate & PEG-100 Stearate) รวมถึงสารเพิ่มความข้น (Cetyl Alcohol, Hydroxyethyl Cellulose) และซิลิโคน (Cetyl Dimethicone, Cyclopentasiloxane)
- ความคงตัวและสารกันเสีย: Disodium EDTA และสารกันเสีย
- ปลอบประโลมผิว: Dipotassium Glycyrrhizate ช่วยลดการระคายเคือง
สาเหตุที่อาจทำให้เกิดการแยกชั้นและเปลี่ยนสี
จากสูตรของคุณและคุณสมบัติของส่วนผสมต่างๆ นี่คือสาเหตุที่อาจทำให้เกิดความไม่คงตัวที่คุณพบ:
- ระบบ Emulsifier ที่ซับซ้อน: การใช้ Emulsifier ทั้งแบบ W/O (Polyglyceryl 10 Dipalmitate, Polyglyceryl 6 Distearate) และ O/W (Glyceryl Stearate & PEG-100 Stearate) ร่วมกันในสูตรเดียวอาจทำให้เกิดความท้าทายในการทำให้คงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีปริมาณน้ำสูง
- ปริมาณอิเล็กโทรไลต์สูงจาก Aluminium Chlorohydrate: Aluminium Chlorohydrate เป็นสารระงับเหงื่อที่มีประสิทธิภาพสูง แต่มีปริมาณอิเล็กโทรไลต์สูงในเฟสน้ำ Emulsifier หลายชนิดมีความไวต่ออิเล็กโทรไลต์และอาจทำให้อิมัลชันแตกหรือแยกชั้นได้ ข้อมูลของ Anti-Sweat™ (Aluminum Chlorohydrate) ระบุชัดเจนว่าจำเป็นต้องใช้อิมัลซิไฟเออร์ที่ทนทานต่ออิเล็กโทรไลต์
- ข้อควรพิจารณาเรื่องค่า pH: Aluminium Chlorohydrate มีประสิทธิภาพและคงตัวได้ดีที่สุดที่ pH ที่เป็นกรดเล็กน้อย ในขณะที่ Niacinamide คงตัวได้ดีที่สุดในช่วง pH 4.0-7.0 หากค่า pH ของสูตรของคุณไม่ถูกควบคุมอย่างระมัดระวังให้อยู่ในช่วงที่เข้ากันได้กับส่วนผสมหลักทั้งหมด อาจนำไปสู่การเสื่อมสภาพหรือไม่คงตัวได้ Bioran Flower acid หากมีฤทธิ์เป็นกรด ก็จะส่งผลต่อค่า pH สุดท้ายด้วย
- ปฏิกิริยาระหว่างส่วนผสม: การรวมกันของส่วนผสมที่หลากหลาย รวมถึง Emulsifier ต่างชนิดกัน ปริมาณอิเล็กโทรไลต์สูง และส่วนประกอบที่มีฤทธิ์เป็นกรด อาจนำไปสู่ปฏิกิริยาที่ซับซ้อนซึ่งทำให้อิมัลชันไม่คงตัวหรือทำให้สีเปลี่ยนไปเมื่อเวลาผ่านไป
- Dipotassium Glycyrrhizate: แม้จะมีประโยชน์ แต่ข้อมูลระบุว่ามีคุณสมบัติเป็นอิเล็กโทรไลต์อ่อนๆ และอาจทำให้สูตรมีความเหลวขึ้นเล็กน้อย ซึ่งอาจส่งผลต่อการแยกชั้นได้หากอิมัลชันมีความคงตัวที่ใกล้เคียงขีดจำกัดอยู่แล้ว
ข้อแนะนำในการปรับปรุง
เพื่อปรับปรุงความคงตัวและป้องกันการแยกชั้นและการเปลี่ยนสี ลองพิจารณาการปรับเปลี่ยนดังนี้:
- ปรับปรุงระบบ Emulsifier ให้เรียบง่าย: เน้นการใช้ Emulsifier O/W เพียงชนิดเดียวหรือผสมผสานกันที่ทราบว่ามีความแข็งแรงและทนทานต่อความเข้มข้นของอิเล็กโทรไลต์สูงและค่า pH ที่เป็นกรดเล็กน้อย Glyceryl Stearate and PEG-100 Stearate เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากระบุว่าทนทานต่ออิเล็กโทรไลต์ แต่ต้องแน่ใจว่าระบบ Emulsifier โดยรวมมีความสมดุลสำหรับเฟสน้ำมันและน้ำ รวมถึงปริมาณสารออกฤทธิ์ที่สูงในสูตรของคุณ
- ปรับกระบวนการผลิตให้เหมาะสม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระบวนการให้ความร้อน การผสม (โดยเฉพาะขั้นตอน Homogenization) และการทำให้เย็น เหมาะสมกับการสร้างอิมัลชันที่คงตัวด้วยส่วนผสมที่คุณเลือกใช้
- ควบคุมค่า pH อย่างระมัดระวัง: ปรับค่า pH สุดท้ายของสูตรให้อยู่ในช่วงที่มั่นใจได้ว่าทั้ง Aluminium Chlorohydrate และ Niacinamide มีความคงตัวและประสิทธิภาพ ซึ่งอาจอยู่ในช่วงที่เป็นกรดเล็กน้อย (เช่น pH 4.0-5.0) โดยต้องแน่ใจว่าระบบ Emulsifier ของคุณสามารถรองรับ pH นี้ได้
- ตรวจสอบความเข้ากันได้ของส่วนผสม: หากปัญหายังคงอยู่ ให้ทบทวนความเข้ากันได้ของส่วนผสมแต่ละชนิด โดยเฉพาะ Cetetyl Morpholinium Ethosulfate ซึ่งเป็นส่วนประกอบประจุบวก กับส่วนประกอบอื่นๆ ในสูตรภายใต้เงื่อนไข pH และอิเล็กโทรไลต์ที่กำหนด
ด้วยการปรับปรุงระบบอิมัลซิไฟเออร์ การจัดการปริมาณอิเล็กโทรไลต์จาก Aluminium Chlorohydrate และการควบคุมค่า pH อย่างระมัดระวัง คุณควรจะสามารถสร้างครีมทารักแร้ที่มีความคงตัวมากขึ้น ไม่แยกชั้นหรือเปลี่ยนสี พร้อมทั้งให้ประโยชน์ทั้งการระงับกลิ่นและผิวขาวใสได้ค่ะ ขอให้คุณทดลองปรับปรุงและทดสอบสูตรในปริมาณน้อยๆ เพื่อหาสมดุลที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสูตรของคุณนะคะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Cetyl Alcohol

Disodium EDTA

Anti-Sweat™ (Aluminum Chlorohydrate, 100% Powder)

Dipotassium Glycyrrhizate (DPG, High Purity)

ReadyMix™ White (Cyclopentasiloxane Based)

Hydroxyethyl Cellulose (HEC) (4500mPa.s)

Dimethiconol (Cyclopentasiloxane Base)

Chlorphenesin / Phenoxyethanol (Microcare PHC eq.)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)

Glyceryl Stearate and PEG-100 Stearate (Powder)

Hydroxyethyl Cellulose (HEC) (2800mPa.s)

ReadyMix™ Iron Oxides Red (Cyclopentasiloxane Based)

Polyglyceryl-6 Distearate
