ปัญหาความเข้ากันได้และความเข้มข้นสูงในสูตรเซรั่มไวท์เทนนิ่ง/ลดริ้วรอย
คำถาม
สูตรไวเทนนิ่ง หน้า ขาว ใส ลดริ้วรอย นี้สามารถผสมได้หรือไม่คะ โดยมีส่วนผสมและเปอร์เซ็นต์ดังนี้:
- Hyaluronic Acid Elastomer 5%
- Lift-Now™ 5%
- Pal-GHK, Pal-GQPR (eq. Matrixyl 3000) 8%
- Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine) 15%
- Ascorbyl Glucoside (AA-2G stabilized vitamin c) 10%
- DMAE (SkinTight MD™) Liquid 5%
- Repair Activator 15%
- GlucoBright™ (Acetyl glucosamine) 4%
- Safe-B3™ (Vitamin B3), Niacinamide, Switzerland 10%
- Niacinamide, Switzerland 4%
- Acetyl Hexapeptide-8 (eq. Argireline) 10%
- Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free) 1%
- Phospholipid 3%
คำตอบ
ตามรายการส่วนผสมและเปอร์เซ็นต์ที่ให้มา สูตรนี้มีส่วนผสมออกฤทธิ์ที่มีศักยภาพหลายชนิดที่มุ่งเน้นการปรับผิวให้ขาวกระจ่างใสและลดเลือนริ้วรอย อย่างไรก็ตาม มีปัญหาความเข้ากันได้ที่สำคัญและความเข้มข้นที่สูงมาก ซึ่งทำให้การผสมสูตรนี้ตามรายการที่ให้มา ไม่แนะนำ
นี่คือรายละเอียดของปัญหาที่อาจเกิดขึ้น:
- ปัญหาความเข้ากันได้ระหว่าง L-Ascorbic Acid (วิตามินซี) และ Niacinamide (วิตามินบี 3): นี่คือปัญหาที่สำคัญที่สุด L-Ascorbic Acid มีความเสถียรและมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ค่า pH ต่ำ (โดยทั่วไปต่ำกว่า 3.5) ในขณะที่ Niacinamide โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเข้มข้นสูงและค่า pH ต่ำ สามารถทำปฏิกิริยากับ L-Ascorbic Acid เพื่อสร้าง Niacin (Nicotinic Acid) ซึ่งทำให้ผิวแดง แสบร้อน และระคายเคือง สูตรนี้มีความเข้มข้นของ L-Ascorbic Acid สูงมาก (15%) และความเข้มข้นรวมของ Niacinamide สูง (10% + 4% = 14%) การผสมส่วนผสมเหล่านี้ที่ค่า pH ต่ำซึ่งจำเป็นสำหรับความเสถียรของ L-AA มีแนวโน้มสูงที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรงและลดประสิทธิภาพของส่วนผสมทั้งสอง
- ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์สูงมาก: เปอร์เซ็นต์รวมของส่วนผสมออกฤทธิ์ที่ระบุไว้คือ 95% (5+5+8+15+10+5+15+4+10+4+10+1+3) ซึ่งเหลือเพียง 5% สำหรับเบส (เช่น น้ำ หรือเบสเซรั่ม) แม้ว่าจะสามารถสร้างเซรั่มที่มีความเข้มข้นสูงได้ แต่ระดับของสารออกฤทธิ์ที่สูงขนาดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับส่วนผสมที่อาจขัดแย้งกัน เช่น L-AA และ Niacinamide จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการระคายเคืองผิว ความไวต่อแสง และความไม่เสถียรของสูตร
- ความไวต่อค่า pH ของส่วนผสม: L-Ascorbic Acid ต้องการค่า pH ต่ำ ในขณะที่เปปไทด์ (Matrixyl 3000, Argireline) และส่วนผสมอื่นๆ เช่น Bifida Ferment Lysate และ Acetyl Glucosamine โดยทั่วไปทำงานได้ดีที่สุดในช่วง pH ที่เป็นกรดเล็กน้อยถึงกลาง การบรรลุค่า pH เดียวที่เหมาะสมกับความเสถียรและประสิทธิภาพของส่วนผสม ทั้งหมด พร้อมกัน ในขณะเดียวกันก็ป้องกันปฏิกิริยา L-AA/Niacinamide และลดการระคายเคือง เป็นเรื่องที่ยากมาก หากเป็นไปไม่ได้
สรุป:
การผสมสูตรนี้ตามรายการที่ให้มา ไม่แนะนำ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความไม่เข้ากันระหว่าง L-Ascorbic Acid และ Niacinamide ที่ความเข้มข้นสูง การเสื่อมสภาพที่อาจเกิดขึ้นของส่วนผสมอื่นๆ ที่ไวต่อค่า pH และความเข้มข้นรวมของสารออกฤทธิ์ที่สูงมากซึ่งเพิ่มโอกาสในการระคายเคืองผิว
ทางเลือกที่ควรพิจารณา:
- ใช้รูปแบบอื่นของวิตามินซี: แทนที่จะใช้ L-Ascorbic Acid ให้พิจารณาใช้อนุพันธ์วิตามินซีที่มีความเสถียรมากกว่า เช่น Ascorbyl Glucoside (ซึ่งมีอยู่ในรายการของคุณแล้วที่ 10%), Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) หรือ Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) อนุพันธ์เหล่านี้เข้ากันได้กับ Niacinamide และทำงานได้ดีที่ค่า pH ที่สูงขึ้นซึ่งเป็นมิตรต่อผิวมากกว่า
- แยกส่วนผสม: สร้างเซรั่มสองชนิดที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น เซรั่มหนึ่งที่มี L-Ascorbic Acid (ที่ค่า pH ที่เหมาะสม) และอาจมีเปปไทด์ต่อต้านริ้วรอยบางชนิด และเซรั่มอีกชนิดที่มี Niacinamide, Ascorbyl Glucoside, Hyaluronic Acid Elastomer, Bifida Ferment Lysate, Acetyl Glucosamine, DMAE และส่วนผสมอื่นๆ ที่เข้ากันได้ จากนั้นสามารถทาแยกกันในเวลาที่ต่างกันของวัน หรือสลับวันกัน
- ลดความเข้มข้น: หากคุณยังต้องการผสมส่วนผสมบางอย่าง ให้ลดความเข้มข้นของ L-Ascorbic Acid และ Niacinamide ลงอย่างมาก และปรับค่า pH อย่างระมัดระวังเพื่อหาจุดสมดุล แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย
ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ทำให้สูตรง่ายขึ้นและหลีกเลี่ยงการผสม L-Ascorbic Acid และ Niacinamide ที่ความเข้มข้นสูงในผลิตภัณฑ์เดียวกัน.
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)

Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)

Lift-Now™

DMAE (SkinTight MD™) Liquid

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

Phospholipid
