ปัญหาความเหนอะหนะในสูตรเจลว่านหางจระเข้
คำถาม
ทำไมสูตรเจลว่านหางจระเข้ของฉันถึงรู้สึกเหนอะหนะหลังจากทา ทั้งๆ ที่เนื้อเป็นของเหลว? สูตรมีส่วนผสมดังนี้:
- Vitamin B5 5%
- Natural moisturizing amino acid 5%
- Vitamin B3 5%
- Glucosamine (N-Acetyl-D) 4%
- Gotu Kola (Centella Asiatica) Extract 5%
ฉันมีผิวผสมค่อนไปทางแห้ง และรู้สึกไม่สบายผิวจากความเหนอะหนะหลังจากที่ผลิตภัณฑ์ซึมแล้ว
คำตอบ
ทำความเข้าใจความเหนอะหนะในเจลว่านหางจระเข้ของคุณ
คุณสอบถามว่าทำไมสูตรเจลว่านหางจระเข้ของคุณถึงมีเนื้อเหลวแต่รู้สึกเหนอะหนะหลังจากทา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีส่วนผสมของ Vitamin B5 5%, Natural moisturizing amino acid 5%, Vitamin B3 5%, Glucosamine (N-Acetyl-D) 4% และ Gotu Kola (Centella Asiatica) Extract 5%.
ความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะที่คุณประสบนั้นมีแนวโน้มมาจากส่วนผสมประเภท humectant ในสูตรของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Vitamin B5 (Panthenol) และ Natural moisturizing amino acids ซึ่งใช้ในความเข้มข้น 5% ทั้งคู่ Humectants ทำงานโดยการดึงความชื้นจากสิ่งแวดล้อมหรือชั้นผิวที่ลึกกว่ามาสู่ผิวชั้นบน ซึ่งช่วยเรื่องความชุ่มชื้น แต่อาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะเล็กน้อยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ในเปอร์เซ็นต์ที่สูง
ดังที่ทีมงานได้กล่าวไว้ เป็นเรื่องปกติที่เนื้อเจลจะมีความเหนอะหนะเล็กน้อยในตอนแรกที่ทา อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกนี้ควรจะหายไปเมื่อผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิว หากความรู้สึกเหนอะหนะยังคงอยู่และทำให้คุณรู้สึกไม่สบายผิว แสดงว่าสูตรอาจจะหนักเกินไป หรือมี humectants ในระดับที่ผิวของคุณ (ผิวผสมค่อนไปทางแห้ง) รู้สึกว่ามากเกินไป แม้ว่าผิวของคุณจะต้องการความชุ่มชื้นก็ตาม
ในการแก้ไขปัญหานี้ คุณอาจพิจารณาปรับสูตร ซึ่งอาจรวมถึงการลดเปอร์เซ็นต์ของ Vitamin B5 และ Natural moisturizing amino acids หรืออีกทางเลือกหนึ่ง ตามคำแนะนำของทีมงาน คุณสามารถพิจารณาเปลี่ยนเบสของสูตรทั้งหมดได้ การเปลี่ยนไปใช้เบสครีมแบบ water-in-silicone โดยใช้อิมัลซิไฟเออร์อย่าง Warp Cream Maker สามารถให้ความรู้สึกที่เบาบางและเหนอะหนะน้อยลง ในขณะที่ยังคงให้ส่วนผสมที่เป็นประโยชน์แก่ผิวได้
ท้ายที่สุด วิธีที่ดีที่สุดคือการปรับสูตรจนกว่าคุณจะได้เนื้อสัมผัสที่รู้สึกสบายและน่าพอใจบนผิวของคุณหลังจากที่ผลิตภัณฑ์ซึมซาบเข้าสู่ผิวจนหมด
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Warp Cream Maker™ (e.q. Nikkomulese wo)
