ปัญหาตกตะกอนในสูตร SAP/MAP เมื่อปรับ pH ด้วย Citric Acid
คำถาม
ในการทำสูตรที่มี Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) 5% และ Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) 10% ผมได้เติม Citric Acid 1% และปรับ pH ให้ได้ประมาณ 7 แต่พบว่ามีตะกอนเกิดขึ้น อยากทราบว่าสาเหตุของการตกตะกอนนี้เกิดจากอะไรครับ?
คำตอบ
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตกตะกอนของ Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) และ Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP)
ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์การพัฒนาสูตรของคุณค่ะ การพบปัญหาการละลายเมื่อใช้ส่วนผสมออกฤทธิ์ในความเข้มข้นสูง เช่น Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) และ Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้
ถูกต้องแล้วค่ะที่ทั้ง SAP และ MAP มีความเสถียรและละลายได้ดีที่สุดในช่วง pH 7-9 แม้ว่าคุณจะปรับสูตรให้มี pH ประมาณ 7 ซึ่งอยู่ในช่วงที่แนะนำ แต่ก็มีปัจจัยบางอย่างที่อาจทำให้เกิดการตกตะกอนที่คุณพบเมื่อใช้ความเข้มข้นรวม 15% (SAP 5% + MAP 10%) ดังนี้ค่ะ:
- ข้อจำกัดด้านความเข้มข้น: คำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับทั้ง SAP และ MAP ระบุว่าการใช้ความเข้มข้นที่เกิน 8% ต่อชนิด อาจทำให้เกิดปัญหาในการละลายได้ ความเข้มข้นรวม 15% ถือว่าค่อนข้างสูง และเป็นไปได้ว่าเกินขีดจำกัดการละลายทั้งหมดในสูตรเฉพาะของคุณ แม้จะอยู่ในช่วง pH ที่เหมาะสมแล้วก็ตาม
- ความซับซ้อนของสูตรตำรับ: ผลิตภัณฑ์ที่คุณชื่นชอบมีส่วนผสมอื่นๆ อีกหลายชนิด รวมถึงตัวทำละลายอย่าง Butylene Glycol และสารเพิ่มความหนืด/สารช่วยให้คงตัว เช่น Sodium Hyaluronate และ Xanthan Gum ส่วนผสมเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการรักษาความเสถียรและการละลายของสารออกฤทธิ์ในสูตรที่ซับซ้อน สูตรที่คุณทดลองทำนั้นเรียบง่ายกว่า อาจขาดส่วนประกอบที่จำเป็นในการช่วยให้ SAP และ MAP ความเข้มข้นรวม 15% ละลายได้อย่างสมบูรณ์เมื่อเวลาผ่านไป
- ปฏิกิริยากับ Citric Acid: แม้ว่า Citric Acid จะใช้สำหรับปรับค่า pH แต่การทำปฏิกิริยาของ Citric Acid กับ SAP และ MAP ที่ความเข้มข้นสูง และเมื่อไม่มีส่วนประกอบอื่นๆ ในสูตร อาจทำให้เกิดความไม่เสถียรหรือการตกตะกอนเฉพาะจุดได้
คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาการตกตะกอน:
- ลองใช้ความเข้มข้นที่ต่ำลง: พิจารณาทดสอบความเข้มข้นรวมของ SAP และ MAP ที่ต่ำลง อาจเริ่มจากความเข้มข้นที่แนะนำ 3% ต่อชนิด หรือสูงสุด 8% ต่อชนิด เพื่อดูว่ายังเกิดการตกตะกอนหรือไม่ วิธีนี้จะช่วยตรวจสอบได้ว่าปัญหาเกี่ยวข้องกับการใช้ความเข้มข้นที่สูงเกินไปที่ 15% หรือไม่
- ใส่สารคีเลต (Chelating Agent): คำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับทั้ง SAP และ MAP แนะนำให้ใส่ Disodium EDTA ที่ความเข้มข้น 0.05% ในสูตร สารคีเลตช่วยจับกับไอออนของโลหะที่อาจรบกวนความเสถียรและการละลายของอนุพันธ์วิตามินซีเหล่านี้ การใส่สารคีเลตอาจช่วยได้ค่ะ
- พิจารณาส่วนประกอบทั้งหมดในสูตร: การทำให้สูตรมีความเสถียรในระดับเดียวกับผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ มักจะต้องทำความเข้าใจและใส่ส่วนผสมทั้งหมดที่ใช้ เนื่องจากส่วนผสมเหล่านั้นทำงานร่วมกันเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของสูตร
หากคุณยังคงพบปัญหาการตกตะกอนแม้จะใช้ความเข้มข้นที่ต่ำลงและใส่สารคีเลตแล้ว อาจบ่งชี้ว่าการทำให้สารละลายที่มีความเข้มข้นรวมของ SAP และ MAP ถึง 15% มีความเสถียรนั้น ต้องอาศัยวิธีการพัฒนาสูตรที่ซับซ้อนกว่าระบบที่ใช้น้ำเป็นหลักค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง
