ปัญหาเกี่ยวกับสูตรกันแดด (กลิ่นเปลี่ยนและหัวปั๊มตัน)

Subject: ปัญหาเกี่ยวกับสูตรกันแดด (กลิ่นเปลี่ยนและปั๊มไม่ออก)

เรียน ท่านลูกค้า

ขอบคุณที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาในการทำสูตรกันแดดค่ะ เราเข้าใจว่าท่านกำลังประสบปัญหาหลักสองประการคือ กลิ่นเปลี่ยนไปในทางที่ไม่พึงประสงค์หลังจากผ่านไป 1-2 สัปดาห์ และหัวปั๊มสุญญากาศอุดตันหลังจากใช้งานไปประมาณ 3 เดือน

เกี่ยวกับปัญหาหัวปั๊มตัน:
จากสูตรของท่านและข้อมูลจากทีมงาน ปัญหาหัวปั๊มตันในสูตรแรกของท่าน (SPF Protect Ultra 20%, Light Cream Maker 1%, LipidSoft Dry 10%, ฯลฯ) น่าจะเกิดจากสารประสานเนื้อครีม Light Cream Maker ค่ะ Light Cream Maker ถูกออกแบบมาสำหรับสูตรที่มีสัดส่วนของน้ำมันไม่สูงมากนัก ในสูตรที่มีปัญหาของท่าน สัดส่วนของ Oil Phase ทั้งหมด (SPF Protect Ultra + LipidSoft Dry + Vit E) อยู่ที่ประมาณ 30.5% ซึ่งเกินความสามารถของ Light Cream Maker ในการคงสภาพอิมัลชั่นให้เสถียรในระยะยาว ความไม่เสถียรนี้ทำให้เนื้อสูตรเกิดการแยกชั้นหรือจับตัวเป็นก้อน ซึ่งเป็นลักษณะคล้าย "กาว" ที่อุดตันหัวปั๊มค่ะ สูตรก่อนหน้านี้ของท่านที่ใช้ LipidSoft CC 5% (สัดส่วน Oil Phase ประมาณ 25%) และไม่มีปัญหานี้ ก็สนับสนุนคำอธิบายนี้ เนื่องจากมีสัดส่วน Oil Phase ที่ต่ำกว่า

เกี่ยวกับปัญหากลิ่นเปลี่ยน:
ท่านสังเกตว่ากลิ่นไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับสูตรที่มี LipidSoft Dry และ Vit E แต่ไม่เกิดขึ้นกับสูตรก่อนหน้านี้ที่มี LipidSoft CC และไม่มี Vit E แม้ว่าการตอบของทีมงานจะเน้นไปที่ปัญหาการอุดตัน แต่การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นอาจเกี่ยวข้องกับส่วนผสมที่แตกต่างกันระหว่างสองสูตรนี้ค่ะ

• LipidSoft Dry (Isononyl Isononanoate) และ LipidSoft CC (Cetearyl Ethylhexanoate) เป็นสารให้ความนุ่มลื่น (Emollient) ที่แตกต่างกัน กลิ่นหรือความเสถียรโดยธรรมชาติอาจไม่เหมือนกัน
• Vitamin E (Tocopheryl Acetate) แม้จะนิยมใช้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แต่บางครั้งอาจเกิดการเสื่อมสภาพ (Oxidation) หรือทำปฏิกิริยากับส่วนผสมอื่น ซึ่งอาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ โดยเฉพาะหากคุณภาพของวัตถุดิบไม่ดีพอ หรือสูตรขาดสารช่วยคงสภาพอื่นๆ นอกเหนือจาก Vit E เอง

เพื่อลดปัญหาเรื่องกลิ่นในอนาคต ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดมีความสดใหม่และถูกจัดเก็บอย่างถูกต้อง หากใช้ Vitamin E ควรพิจารณาแหล่งที่มาและคุณภาพ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบสารต้านอนุมูลอิสระโดยรวมในสูตรมีความแข็งแรงเพียงพอค่ะ

เกี่ยวกับสูตรใหม่ที่ท่านเสนอโดยใช้ Milk Lotion Maker:
ท่านได้เสนอสูตรใหม่โดยใช้ Milk Lotion Maker เพื่อแก้ไขปัญหาการประสานเนื้อครีม ดังนี้:

• LipidSoft 20%, Cyclomethicone 10%, Dimethicone 7%, ZnO 10%, TiO2 5%, Milk Lotion Maker 5%, Phenoxyethanol 1%, น้ำ 42%

ทีมงานได้ให้คำแนะนำที่ถูกต้องแล้วว่า Milk Lotion Maker จำเป็นต้องมีสัดส่วนของน้ำอย่างน้อย 60% ของสูตรทั้งหมด แต่สูตรที่ท่านเสนอมีน้ำเพียง 42% (และส่วนผสมอื่นๆ ที่ไม่ใช่น้ำรวมกัน 58%)

เพื่อให้สามารถใช้ Milk Lotion Maker ได้สำเร็จ ท่านจำเป็นต้องปรับสัดส่วนของส่วนผสมต่างๆ เพื่อให้ปริมาณน้ำอยู่ที่ 60% หรือมากกว่า ซึ่งหมายความว่า สัดส่วนรวมของ LipidSoft, Cyclomethicone, Dimethicone, ZnO, TiO2, Milk Lotion Maker และ Phenoxyethanol จะต้องไม่เกิน 40% ค่ะ

นี่คือตัวอย่างการปรับสูตรที่ท่านเสนอเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดน้ำ 60% โดยยังคงสัดส่วนโดยประมาณของส่วนผสมอื่นๆ ที่ไม่ใช่น้ำไว้ (หรือปรับตามความรู้สึกที่ต้องการ/ค่า SPF):

• ตัวอย่างสูตรปรับปรุง (น้ำ >= 60%):*

• LipidSoft: 10%

• Cyclomethicone: 8%
• Dimethicone: 6%
• ZnO: 7%
• TiO2: 3%
• Milk Lotion Maker: 5%
• Phenoxyethanol: 1%
• น้ำ: 60%
• รวม: 100%

(หมายเหตุ: สัดส่วนรวมของส่วนผสมที่ไม่ใช่น้ำคือ 40% ทำให้มีน้ำ 60%)

ขั้นตอนการผสมที่ท่านให้มาสำหรับสูตร Milk Lotion Maker (อุ่น Oil Phase ที่ 80C, เติม Milk Lotion Maker, ตามด้วยสารกันแดดผง, ปั่นให้เข้ากัน, ค่อยๆ เติมน้ำพร้อมปั่น, เติมสารกันเสีย) โดยทั่วไปถือว่าถูกต้องสำหรับสารประสานประเภทนี้ค่ะ

อีกทางเลือกหนึ่ง ตามที่ทีมงานแนะนำ หากท่านต้องการคงสัดส่วน Oil/Powder Phase ไว้สูง (เช่นเดียวกับสูตรเดิมของท่าน) ให้พิจารณาใช้สารประสานเนื้อครีมชนิดอื่นที่เหมาะสำหรับ Oil Phase สูง หรือระบบ W/O Emulsion เช่น Water-in-Oil EZ (ต้องใช้เครื่องปั่นความเร็วสูง และจะได้เนื้อครีมที่กันน้ำได้)

หวังว่าคำอธิบายนี้จะเป็นประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาของท่านนะคะ

ขอแสดงความนับถือ
[Your Name/MySkinRecipes Team]