ปัญหาเจล Hyaluronic Acid มีกลิ่นบูดเสียและวิธีถนอมรักษา

ถามโดย: web.m.max เมื่อ: October 02, 2015 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ดิฉันจะทำเครื่องสำอางจำหน่าย แต่พอผสมสูตรเสร็จ ตอนเอาเครื่องสำอางออกมาจากตู้เย็นประมาณวันหนึ่ง เครื่องสำอางมีกลิ่นเหม็นเหมือนบูดเสีย

ขั้นตอนการผสมของดิฉันคือ:
1. ผสม Hyaluronic Acid ในน้ำ จนได้เนื้อเจล
2. หยด Vitamin E (Tocopheryl Acetate) 0.2%
3. นำไปแช่ตู้เย็น 3 ชั่วโมง
4. นำออกมาจากตู้เพื่อใส่ Phenoxyethanol 0.1%
5. แล้วแช่เย็นต่อ 1 วัน

คำถามคือ:
1. ใส่ Phenoxyethanol อยู่ทำไมยังมีกลิ่นบูด หรือต้องใส่ตอนไหนคะ หรือนำออกจากตู้เย็นไม่ได้หรอคะ?
2. อยากให้สตาร์ฟแนะนำขั้นตอนหน่อยคะ ว่าใส่ส่วนผสมเรียงลำดับถูกต้องมั้ย?
3. ถ้าสูตรสำเร็จดีแล้ว อยากจะสั่งส่วนผสมในจำนวนมาก มาผสมเพื่อจำหน่าย ติดต่อสตาฟโดยตรงได้หรือป่าวคะ?

คำตอบ

การแก้ไขปัญหาผลิตภัณฑ์เจล Hyaluronic Acid เสีย

กลิ่นไม่พึงประสงค์ในสูตรเจล Hyaluronic Acid ของคุณ แม้จะมีการเติม Phenoxyethanol แล้วก็ตาม มีแนวโน้มสูงว่าเกิดจากการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ เรามาดูคำถามของคุณทีละข้อนะคะ:

  1. ทำไมยังมีกลิ่นบูดเสียทั้งที่ใส่ Phenoxyethanol?

    • ความเข้มข้นไม่เพียงพอ: สาเหตุหลักน่าจะมาจากความเข้มข้นของ Phenoxyethanol ที่ใช้ (0.1%) ซึ่งต่ำเกินไป อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ Phenoxyethanol (Extra Pure) คือ 0.5-1.0% เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเป็นสารกันเสีย ความเข้มข้น 0.1% โดยทั่วไปไม่เพียงพอที่จะยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักอย่างเจลได้
    • ขอบเขตการทำงานของสารกันเสีย: Phenoxyethanol มีประสิทธิภาพต่อแบคทีเรีย แต่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าต่อเชื้อรา หากการปนเปื้อนเกิดจากเชื้อรา การใช้ Phenoxyethanol เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ มักแนะนำให้ใช้สารกันเสียแบบ Broad-spectrum หรือใช้สารกันเสียหลายชนิดร่วมกัน
    • ช่วงเวลาที่เติม: การเติมสารกันเสียหลังจากที่ผลิตภัณฑ์แช่เย็นแล้วและอาจมีการสัมผัสกับอากาศ อาจหมายความว่ามีการปนเปื้อนเกิดขึ้นก่อนที่สารกันเสียจะถูกผสมเข้ากันดีและออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่
  2. ลำดับและขั้นตอนการผสมที่แนะนำ:
    ลำดับการเติมส่วนผสมและกระบวนการมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความคงตัวของผลิตภัณฑ์ นี่คือแนวทางที่แนะนำ:

    • เตรียมส่วนของน้ำ: เริ่มต้นด้วยส่วนของน้ำ
    • กระจาย Hyaluronic Acid: เติมผง Hyaluronic Acid ลงในส่วนของน้ำตามคำแนะนำของผลิตภัณฑ์ (ซึ่งโดยทั่วไปเกี่ยวข้องกับการเขย่าและแช่เย็นจนกว่าจะละลายหมดและเกิดเป็นเนื้อเจล) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผงละลายหมด ไม่มีก้อนตกค้าง
    • การทำให้เย็น: หากมีการใช้ความร้อนในการละลาย Hyaluronic Acid (แม้จะมีการกล่าวถึงการแช่เย็น แต่อาจมีการใช้ความร้อนในขั้นตอนแรก) ให้แน่ใจว่าเจลเย็นลงก่อนเติมส่วนผสมที่ไวต่ออุณหภูมิ
    • เติมสารกันเสีย: เติม Phenoxyethanol ลงในส่วนของน้ำ/เจล Hyaluronic Acid ผสมให้เข้ากันดีเพื่อให้กระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ ใช้อัตราความเข้มข้นที่แนะนำ 0.5-1.0% การเติมในขั้นตอนนี้ หลังจากที่เจลก่อตัวแล้วแต่ก่อนเติมส่วนผสมอื่นๆ ที่อาจไวต่อการปนเปื้อน หรือก่อนบรรจุ ช่วยป้องกันการปนเปื้อนในเนื้อผลิตภัณฑ์ตั้งแต่เนิ่นๆ
    • ผสม Vitamin E: Vitamin E (Tocopheryl Acetate) เป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน การเติมลงในเจลที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักโดยตรงอาจทำให้เกิดการแยกชั้นหรือไม่กระจายตัวอย่างเหมาะสม ซึ่งอาจสร้างช่องว่างที่จุลินทรีย์สามารถเติบโตได้ หรือทำให้ Vitamin E เสื่อมสภาพ คุณอาจต้องนำ Vitamin E ไปกระจายตัวล่วงหน้าในตัวทำละลายที่เหมาะสมปริมาณเล็กน้อย หรือผสมในส่วนของน้ำมันเล็กน้อยหากสูตรของคุณมีส่วนของน้ำมัน ก่อนนำไปผสมกับเจล ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผสมเข้ากันดีและสม่ำเสมอ
    • ตรวจสอบขั้นสุดท้ายและบรรจุ: ตรวจสอบลักษณะและความข้นของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย บรรจุในภาชนะที่สะอาด

    กระบวนการปัจจุบันของคุณที่เติม Vitamin E แช่เย็น แล้วจึงเติม Phenoxyethanol ไม่ใช่ลำดับที่เหมาะสม สารกันเสียควรถูกเติมให้เร็วกว่านี้และในความเข้มข้นที่ถูกต้อง

  3. เกี่ยวกับการนำออกจากตู้เย็น:
    ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ได้รับการถนอมรักษาอย่างเหมาะสมควรมีความคงตัวที่อุณหภูมิห้องตลอดอายุการเก็บรักษาที่กำหนด หากผลิตภัณฑ์ของคุณเสียเมื่อนำออกจากตู้เย็น แสดงว่าระบบสารกันเสียไม่เพียงพอสำหรับการเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้อง การพึ่งพาการแช่เย็นเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทดแทนการใช้สารกันเสียที่มีประสิทธิภาพได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ตั้งใจจะนำไปจำหน่าย

  4. การสั่งซื้อส่วนผสมจำนวนมาก:
    สำหรับการสอบถามเกี่ยวกับการสั่งซื้อส่วนผสมในปริมาณมากเพื่อการผลิตเชิงพาณิชย์ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของเราโดยตรง พวกเขาสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับราคาสำหรับการสั่งซื้อจำนวนมากและสถานะสินค้าได้ค่ะ

สรุปคือ ปัญหาหลักอยู่ที่ความเข้มข้นที่ต่ำเกินไปและอาจรวมถึงช่วงเวลาในการเติม Phenoxyethanol ควรเพิ่มความเข้มข้นของ Phenoxyethanol เป็นระดับที่แนะนำ (0.5-1.0%) และเติมให้เร็วกว่านี้ในกระบวนการ หลังจากที่เจล Hyaluronic Acid ก่อตัวและเย็นลงแล้ว นอกจากนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันอย่าง Vitamin E ถูกผสมเข้ากับเจลที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักอย่างเหมาะสม

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง