ปัญหาเซรั่มแยกชั้น

ปัญหาเซรั่มแยกชั้น: การวิเคราะห์และแนวทางแก้ไข

เข้าใจเลยครับว่าการที่เซรั่มแยกชั้นหลังจากทำเสร็จแล้วเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดใจมาก โดยเฉพาะเมื่อลองแก้ไขหลายครั้งแล้วยังไม่สำเร็จ สูตรของคุณมีความซับซ้อนและมีสารออกฤทธิ์จำนวนมาก ซึ่งทำให้ความคงตัว (Stability) เป็นสิ่งที่ท้าทายครับ

จากสูตรและวิธีทำที่คุณให้มา สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดของการแยกชั้นและแนวทางแก้ไขมีดังนี้ครับ:

สาเหตุที่เป็นไปได้ของการแยกชั้น

1. ความไวต่ออิเล็กโทรไลต์ของสารเพิ่มความหนืด: สูตรของคุณมีส่วนผสมที่เป็นอิเล็กโทรไลต์หลายตัว โดยเฉพาะ Magnesium Sulfate (2%), 4MSK (0.8%), และ ActiveProtec™ OX (0.3%) คำอธิบายของ Natto Gum ระบุชัดเจนว่าเป็นอิเล็กโทรไลต์อ่อนๆ และอาจทำให้เนื้อสูตรเหลวหรือแยกชั้นได้ หากสารเพิ่มความหนืดที่ใช้ไม่ทนทานต่ออิเล็กโทรไลต์ ความเข้มข้นของเกลือจาก Magnesium Sulfate ก็สามารถรบกวนโครงสร้างของสารเพิ่มความหนืดและสารก่อเจลหลายชนิดได้ รวมถึง Hyaluronic Acid บางประเภท
2. ความแข็งแรงของระบบอิมัลซิไฟเออร์: คุณใช้ Silky Serum Base Plus (16%) และ LipidSoft™ Lite (1%) ร่วมกับน้ำมันและซิลิโคนอื่นๆ รวมเป็นเฟสน้ำมัน/ซิลิโคนประมาณ 26.4% คำอธิบายของ Silky Serum Base Plus ระบุว่าสามารถรองรับน้ำมัน/ซิลิโคนได้สูงสุด 30% (รวมตัวเบสเอง) และแนะนำให้มีเฟสน้ำอย่างน้อย 60-70% เพื่อความคงตัว แต่สูตรของคุณมีน้ำน้อยกว่าที่แนะนำอย่างชัดเจน (~43.25% บวกกับน้ำในสารออกฤทธิ์ที่เป็นของเหลว) สัดส่วนของเฟสน้ำมัน/ซิลิโคนต่อเฟสน้ำ อาจสูงเกินไปสำหรับ Silky Serum Base Plus เพียงอย่างเดียวที่จะคงสภาพไว้ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีปัจจัยอื่นๆ เช่น อิเล็กโทรไลต์และสารออกฤทธิ์จำนวนมากเข้ามาเกี่ยวข้อง
3. ขั้นตอนการผสมที่ไม่เหมาะสม: ขั้นตอน E ของคุณคือการเทเฟสน้ำลงในเฟสน้ำมัน โดยทั่วไปแล้ว การทำอิมัลชันชนิด Oil-in-Water (O/W) ซึ่งเซรั่มส่วนใหญ่มักเป็นชนิดนี้ มักจะแนะนำให้ค่อยๆ เติมเฟสน้ำมัน (หรือเบสที่มีน้ำมัน) ลงในเฟสน้ำ พร้อมกับปั่นด้วยความเร็วสูง คำอธิบายของ Silky Serum Base Plus ก็แนะนำให้ค่อยๆ เติมน้ำลงในเบส+น้ำมัน
4. ค่า pH ของสูตร: การมี Lactic Acid (AHA) 90% จะทำให้ค่า pH ของสูตรค่อนข้างต่ำ สารหลายชนิด รวมถึงสารเพิ่มความหนืด อิมัลซิไฟเออร์ และสารออกฤทธิ์อย่าง Collagen HP และ GABA Natural มีช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับความคงตัวและประสิทธิภาพ ค่า pH ที่ต่ำเกินไปอาจทำให้โครงสร้างของอิมัลชันหรือเจลไม่คงตัว โดยเฉพาะเมื่อมีอิเล็กโทรไลต์อยู่ด้วย

แนวทางแก้ไขปัญหาที่แนะนำ

เพื่อแก้ไขปัญหาการแยกชั้น ให้เน้นที่ประเด็นหลักเหล่านี้:

1. เปลี่ยนสารเพิ่มความหนืดที่ไวต่ออิเล็กโทรไลต์: นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ควรเปลี่ยน Natto Gum และอาจพิจารณาการใช้ 4D Hyaluronic Acid หากพบว่าไวต่ออิเล็กโทรไลต์เช่นกัน ให้เลือกใช้สารเพิ่มความหนืดหรือสารก่อเจลที่ทนทานต่อเกลือและอิเล็กโทรไลต์ได้ดี เช่น Acrylate Crosspolymers หรือ Carbomer บางเกรดที่ออกแบบมาสำหรับสูตรที่มีความท้าทาย
2. เสริมความแข็งแรงหรือเปลี่ยนระบบอิมัลซิไฟเออร์: พิจารณาเพิ่มความเข้มข้นของ Silky Serum Base Plus หรือเพิ่ม Co-emulsifier เพื่อช่วยคงสภาพเฟสน้ำมัน/ซิลิโคนที่มีปริมาณสูงและเฟสน้ำที่มีความซับซ้อน หรืออาจต้องเปลี่ยนไปใช้ระบบอิมัลซิไฟเออร์ที่แข็งแรงกว่าและเหมาะสมกับปริมาณน้ำมันและอิเล็กโทรไลต์ในสูตร
3. ปรับปรุงขั้นตอนการผสม: เปลี่ยนวิธีการผสมในขั้นตอน E และ F โดยรวมเฟสน้ำมัน/ซิลิโคน (ที่มี Silky Serum Base Plus, LipidSoft™ Lite, น้ำมัน, ซิลิโคน, Koji Acid Dipalmitate, Protec™ OX) เข้าด้วยกันและอุ่น จากนั้นค่อยๆ เทเฟสน้ำที่อุ่นแล้ว (ที่มีน้ำ, Disodium EDTA, Allantoin, Magnesium Sulfate, 4MSK, ActiveProtec™ OX, MOIST24, ฯลฯ) ลงในเฟสน้ำมัน/ซิลิโคน พร้อมกับปั่นด้วยเครื่องปั่นความเร็วสูงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งอิมัลชันก่อตัวและเย็นลง
4. วัดและปรับค่า pH: หลังจากเติมส่วนผสมทั้งหมดแล้ว ให้วัดค่า pH สุดท้ายของเซรั่ม หากค่า pH ต่ำเกินไปสำหรับส่วนผสมของคุณ ให้ค่อยๆ ปรับเพิ่มขึ้นโดยใช้สารละลาย Sodium Hydroxide อย่างระมัดระวัง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายเหมาะสมกับการทาบนผิวและความคงตัวของส่วนผสมทั้งหมด
5. ทบทวนความเข้ากันได้ของสารสำคัญ: แม้จะซับซ้อนกว่า แต่ควรทบทวนความเข้ากันได้ของสารออกฤทธิ์ทั้งหมดในสูตร โดยเฉพาะการรวมกันของอิเล็กโทรไลต์หลายชนิดและกรด ซึ่งอาจทำปฏิกิริยาและทำให้สูตรไม่คงตัวได้

การแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้ระหว่างอิเล็กโทรไลต์กับสารเพิ่มความหนืด การปรับระบบอิมัลซิไฟเออร์ และการปรับปรุงขั้นตอนการผสม ควรจะช่วยให้คุณได้เซรั่มที่มีความคงตัวมากขึ้นครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ!