ปัญหาเนื้อเซรั่มเหลวและการขึ้นเจลด้วย Carbomer ในสูตร

ถามโดย: cheyang_cheyang เมื่อ: November 08, 2020 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ทำเซรั่มลดฝ้า หน้าใส ใช้ หลักๆ
AHA 2%
GlucoBright 4%
B3 4%
Butylene Glycol 2%
Cinnogel Cg. 3.5 %
แบบนี้ได้ไหมครับ
1.ควรปรับแก้ตรงไหนที่ให้ผลดีกว่าเดิมไหม
2.ทำไมเวลาทำแล้ว เนื้อกลายเป็นน้ำเลย อยากให้มันมีความเจลนิดๆ ขนาดเติม Carbomer ยังไม่ขึ้นเลยครับ

คำตอบ

การวิเคราะห์สูตรเซรั่ม

ส่วนประกอบที่คุณเลือกมานั้นเหมาะสมกับการทำเซรั่มเพื่อลดฝ้าและเพิ่มความกระจ่างใสครับ

  • AHA (Alpha Hydroxy Acid): ที่ความเข้มข้น 2% AHA จะช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ปรับปรุงผิวให้เรียบเนียนขึ้น และช่วยลดเลือนจุดด่างดำและฝ้าเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
  • GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine): ส่วนประกอบนี้ทำงานร่วมกับ Niacinamide (B3) ได้ดีมากในการลดรอยดำต่างๆ และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid ในผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวชุ่มชื้นและดูอิ่มฟูขึ้น
  • Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): Niacinamide เป็นวิตามินที่มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งช่วยลดรอยดำ รอยแดง เสริมเกราะป้องกันผิว ลดความมัน และปรับปรุงผิวให้เรียบเนียน การใช้เกรด Safe-B3™ ช่วยให้ใช้ที่ความเข้มข้นสูงถึง 10% ได้โดยไม่ค่อยเกิดอาการร้อนแดง (Flushing) ความเข้มข้น 4% ที่คุณใช้ถือว่าอยู่ในช่วงที่ให้ผลดี โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ Acetyl Glucosamine
  • Butylene Glycol: ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายและช่วยให้ความชุ่มชื้นในสูตรเซรั่ม ความเข้มข้น 2% เหมาะสมครับ
  • WaterLube™ Soft (Cinnogel CG): เป็นพอลิเมอร์ที่ช่วยให้เนื้อเจลใสในสูตรน้ำมีความนุ่มลื่น ไม่เหนอะหนะ และช่วยให้ความชุ่มชื้นผิวได้เล็กน้อย อัตราการใช้ 3.5% อยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.1-5.0%)
  • Carbomer 940: เป็นสารสร้างเนื้อเจลที่นิยมใช้ในเครื่องสำอาง

คำตอบสำหรับคำถามของคุณ

  1. ควรปรับแก้ตรงไหนที่ให้ผลดีกว่าเดิมไหม?
    การผสมผสานระหว่าง GlucoBright และ Safe-B3™ ที่ความเข้มข้น 4% เท่ากัน เป็นการจับคู่ที่ดีมากในการจัดการกับรอยดำตามผลการวิจัย ส่วน AHA 2% ก็ช่วยเสริมเรื่องการผลัดเซลล์ผิว

    หากต้องการให้ผลดียิ่งขึ้น อาจพิจารณาเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Vitamin C (ในรูปแบบ L-Ascorbic Acid หรืออนุพันธ์ที่เสถียร) หรือ Ferulic Acid ซึ่งจะช่วยเสริมฤทธิ์เรื่องความกระจ่างใสและปกป้องผิวจากมลภาวะ นอกจากนี้ การเพิ่มสารปลอบประโลมผิว เช่น Allantoin หรือ Panthenol ก็อาจเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะเมื่อมีส่วนผสมของ AHA เพื่อช่วยลดโอกาสการระคายเคือง

  2. ทำไมเวลาทำแล้ว เนื้อกลายเป็นน้ำเลย ขนาดเติม Carbomer ยังไม่ขึ้นเลยครับ?
    สาเหตุที่เซรั่มของคุณกลายเป็นน้ำ แม้จะเติม Carbomer 940 แล้ว น่าจะเกี่ยวข้องกับกลไกการทำงานของ Carbomer และความเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ ในสูตร โดยเฉพาะ AHA

    • Carbomer ต้องการการปรับให้เป็นกลาง (Neutralization): Carbomer เป็นพอลิเมอร์ที่มีความเป็นกรด ซึ่งจะพองตัวและสร้างเนื้อเจลได้เมื่อถูกปรับให้เป็นกลางด้วยด่าง (เช่น Triethanolamine หรือ Sodium Hydroxide) หากคุณใส่ Carbomer ลงในน้ำแล้ว แต่ไม่ได้เติมสารปรับให้เป็นกลางตามลงไป ก็จะไม่เกิดเนื้อเจลขึ้น
    • ความไวต่อค่า pH: Carbomer 940 มีความไวต่อค่า pH ต่ำ ความสามารถในการสร้างเจลจะลดลงอย่างมากหรือหายไปเลยเมื่อค่า pH ต่ำกว่า 5 AHA มีความเป็นกรด ซึ่งจะทำให้ค่า pH ในสูตรของคุณต่ำลง หากคุณใส่ Carbomer แล้วตามด้วย AHA (หรือน้ำที่คุณใช้ผสมมี AHA อยู่แล้วจนเป็นกรด) ค่า pH ที่ต่ำจะขัดขวางไม่ให้ Carbomer สร้างเจลได้ แม้จะพยายามปรับให้เป็นกลางในภายหลัง หรืออาจทำให้เจลที่เคยขึ้นแล้วเหลวลงได้

    วิธีทำให้ Carbomer 940 สร้างเนื้อเจลได้:

    1. กระจาย Carbomer ในน้ำ (หรือ water phase) ก่อน
    2. เติมส่วนผสมอื่นๆ ที่ละลายน้ำได้ เช่น GlucoBright, Safe-B3™, Butylene Glycol
    3. เติม WaterLube™ Soft
    4. ขั้นตอนสำคัญ ค่อยๆ เติมสารปรับให้เป็นกลาง (เช่น Triethanolamine หรือสารละลาย Sodium Hydroxide) ทีละน้อย พร้อมกับคนหรือปั่น จนกว่าเนื้อเจลจะขึ้นและได้ความหนืดที่ต้องการ
    5. หลังจากได้เนื้อเจลแล้ว ให้วัดค่า pH ของสูตรสุดท้าย และปรับให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมและเสถียรสำหรับสารออกฤทธิ์ทั้งหมดของคุณ (โดยทั่วไปควรอยู่ระหว่าง pH 4.0 ถึง 7.0) โปรดทราบว่าการปรับ pH ให้ต่ำลงหลังจาก Carbomer สร้างเจลแล้ว อาจทำให้เจลเหลวลงได้

    หากคุณจำเป็นต้องทำสูตรที่มีค่า pH ต่ำ (เช่น ใช้ AHA ที่ความเข้มข้นสูงขึ้น หรือใช้ L-Ascorbic Acid) Carbomer 940 จะไม่ใช่สารสร้างเนื้อเจลที่เหมาะสม คุณจะต้องใช้สารสร้างเนื้อเจลที่ทนกรดได้ดีกว่า เช่น Aristoflex AVC หรือ Sepimax Zen

ข้อแนะนำ

  1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เติมสารปรับให้เป็นกลางสำหรับ Carbomer 940 เช่น Triethanolamine หรือ Sodium Hydroxide หลังจากที่กระจาย Carbomer ในน้ำและเติมส่วนผสมอื่นๆ ที่ละลายน้ำแล้ว
  2. ควบคุมและปรับค่า pH สุดท้ายของเซรั่มให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับสารออกฤทธิ์ทั้งหมดของคุณ (ควรอยู่ระหว่าง 4.0-7.0)
  3. หากพบว่ายังคงมีปัญหาในการสร้างเจลที่เสถียรด้วย Carbomer 940 เนื่องจากความเป็นกรดของ AHA หรือส่วนผสมอื่นๆ ให้พิจารณาเปลี่ยนไปใช้สารสร้างเนื้อเจลที่ทนกรดได้ดีกว่า

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Triethanolamine 99%
Triethanolamine 99%
เครื่องสำอาง
Butylene Glycol
Butylene Glycol
เครื่องสำอาง
Sodium Hydroxide
Sodium Hydroxide
เครื่องสำอาง
Carbomer 940 (EasyDisperse™, France)
Carbomer 940 (EasyDisperse™, France)
เครื่องสำอาง
WaterLube™ Soft (e.q. Emogel CG, Lubrajel CG)
WaterLube™ Soft (e.q. Emogel CG, Lubrajel CG)
เครื่องสำอาง