ปัญหา Cetyl Alcohol แข็งตัวและความเสถียรของ L-Ascorbic Acid ในสูตรครีม

จากบทสนทนา ปัญหาที่คุณ ann_dc พบเรื่อง Cetyl Alcohol แข็งตัวเป็นเกล็ดหลังจากละลายกับน้ำมันแล้วเทลงในเนื้อครีม น่าจะเกิดจากสัดส่วนของน้ำมันในสูตรเดิมที่น้อยเกินไป (Fractionated Coconut Oil 2% ต่อ Cetyl Alcohol 5%) ซึ่งไม่เพียงพอที่จะช่วยละลายและคงสภาพของไขไว้เมื่ออุณหภูมิลดลง นอกจากนี้ ขั้นตอนการทำ โดยเฉพาะอุณหภูมิและความเร็วในการปั่นช่วงที่เป็นอิมัลชันก็มีความสำคัญเช่นกันค่ะ

ทีมงานยังได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับความเสถียรของ L-ascorbic acid (วิตามินซี) ในสูตรเดิมของคุณ ann_dc ด้วยค่ะ โดยระบุว่ามีแนวโน้มที่จะไม่เสถียร เนื่องจากความร้อนสูงที่ใช้ในการละลายไข (ซึ่งอาจทำให้ L-ascorbic acid เสื่อมสภาพได้) และการมี Triethanolamine (TEA) ซึ่งเป็นด่างที่ทำให้ค่า pH สูงขึ้น ในขณะที่ L-ascorbic acid ต้องการค่า pH ต่ำ (3.0-3.5) เพื่อความเสถียร

เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ทีมงานได้เสนอสูตรและขั้นตอนการทำที่ปรับปรุงแล้ว ดังนี้ค่ะ:

สูตรปรับปรุง:

• ส่วน A (ส่วนน้ำ): น้ำ (ส่วนที่เหลือ %), EDTA 0.05%, สารสกัดว่านหางจระเข้ 3%, กวาวเครือ 5%, L-ascorbic acid 15%
• ส่วน B: Ferulic Acid 0.5%, Ethoxydiglycol 3%
• ส่วน C: Rich Cream Maker 4%, Vitamin E 1%
• ส่วน D (ส่วนน้ำมัน/ไข): Fractionated Coconut Oil 2%, Cetyl Alcohol 2%
• ส่วน E (สารกันเสีย): Phenoxyethanol 1%

ขั้นตอนการทำที่ปรับปรุง:

1. ผสมส่วน A เข้าด้วยกัน ละลายจนใส พักไว้
2. ผสมส่วน B เข้าด้วยกัน ละลายจนใส พักไว้
3. ผสมส่วน C เข้าด้วยกัน
4. นำส่วน A, B, และ C ไปอุ่นที่อุณหภูมิ 45-50°C จากนั้นนำทั้ง 3 ส่วนมาปั่นรวมกันจนได้เนื้อครีม พักไว้
5. นำส่วน D ไปอุ่นให้ร้อนจัดจนละลายเป็นน้ำมันใสๆ
6. ขณะที่เนื้อครีมจากขั้นตอนที่ 4 ยังอุ่นอยู่ ให้ปั่นด้วยความเร็วสูงสุด (อย่างน้อย 1000 รอบ/นาที) แล้วค่อยๆ เทส่วน D ที่ร้อนจัดและเป็นน้ำมันใสๆ ลงไปในเนื้อครีม
7. เติมส่วน E (Phenoxyethanol) ลงในเนื้อครีม ปั่นให้เข้ากัน

ทีมงานยังได้ให้ข้อสังเกตว่า สัดส่วนของส่วนน้ำมันทั้งหมด (ส่วน D) ควรอยู่ที่ประมาณ 5-7% ของสูตร (ไม่ควรเกิน 10%) เพื่อให้สูตรมีความเสถียรและได้เนื้อสัมผัสที่เหมาะสม แม้ว่าสูตรปรับปรุงจะยังใช้ Cetyl Alcohol แต่การปรับสัดส่วนและขั้นตอนมีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ได้เนื้อครีมที่เสถียรค่ะ