การเลือกใช้แอลกอฮอล์สำหรับน้ำหอม

แอลกอฮอล์ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายหลักในน้ำหอม ช่วยละลายหัวน้ำหอม และช่วยให้โมเลกุลของน้ำหอมระเหยและกระจายตัวในอากาศได้ดี เปอร์เซ็นต์ของแอลกอฮอล์บ่งบอกถึงความบริสุทธิ์ของเอทานอลเมื่อเทียบกับน้ำและสิ่งเจือปนอื่นๆ

ผลของเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์ต่อน้ำหอม:

• ความบริสุทธิ์และกลิ่น: แอลกอฮอล์ที่มีเปอร์เซ็นต์สูง เช่น 96% และ 99.9% (เกรดสำหรับทำน้ำหอม) มีปริมาณน้ำและสิ่งเจือปนน้อยกว่า ทำให้มีกลิ่นของแอลกอฮอล์เองที่อ่อนโยนหรือไม่รบกวนกลิ่นหัวน้ำหอม ในขณะที่แอลกอฮอล์เปอร์เซ็นต์ต่ำกว่า เช่น 95% อาจมีน้ำมากกว่าและอาจมีกลิ่นเฉพาะตัวที่แรงกว่า ซึ่งอาจไปรบกวนหรือเปลี่ยนกลิ่นจริงของหัวน้ำหอมได้ การใช้แอลกอฮอล์บริสุทธิ์สูงช่วยให้มั่นใจได้ว่ากลิ่นหัวน้ำหอมจะโดดเด่นที่สุด
• การกระจายกลิ่น (Sillage): บทบาทหลักของแอลกอฮอล์ในการกระจายกลิ่นคือช่วยให้โมเลกุลของน้ำหอมที่ระเหยง่ายระเหยออกจากผิวและกระจายไปในอากาศ แอลกอฮอล์บริสุทธิ์สูงจะระเหยเร็วกว่าแอลกอฮอล์ที่มีน้ำผสมอยู่มากกว่า การระเหยที่เร็วกว่านี้ช่วยให้กลิ่นโน้ตบน (Top Notes) และโน้ตกลาง (Middle Notes) ของน้ำหอมปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระจายตัวของกลิ่นหรือ "Sillage" ในช่วงแรก
• ความติดทนของกลิ่น: แม้ว่าแอลกอฮอล์เปอร์เซ็นต์สูงจะระเหยเร็วกว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าน้ำหอมทั้งหมดจะจางหายไปเร็วขึ้นเสมอไป ความติดทนของกลิ่นน้ำหอมส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับความสามารถในการระเหยของส่วนประกอบน้ำหอมเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโน้ตฐาน (Base Notes) ซึ่งมีความหนักกว่าและระเหยช้า นอกจากนี้ ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมในเบสแอลกอฮอล์ก็มีบทบาทสำคัญต่อความติดทนของกลิ่น การระเหยที่เร็วขึ้นของแอลกอฮอล์ส่วนใหญ่ส่งผลต่อความเร็วในการรับรู้กลิ่นโน้ตเริ่มต้นที่ระเหยง่ายกว่าเท่านั้น

สรุปเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์:

• เอทิลแอลกอฮอล์ 99.9% (เกรดวิจัย/ทำน้ำหอม): มีความบริสุทธิ์สูงสุด มีกลิ่นอ่อนมากจนแทบไม่รู้สึก ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับน้ำหอมคุณภาพสูงที่ต้องการคงกลิ่นแท้ของหัวน้ำหอมไว้ มีความสามารถในการละลายหัวน้ำหอมได้ดีเยี่ยมและระเหยได้อย่างสะอาด
• เอทิลแอลกอฮอล์ 96% (เกรดทำน้ำหอม, กลิ่นอ่อน): เป็นแอลกอฮอล์ความบริสุทธิ์สูงที่เหมาะสำหรับใช้ทำน้ำหอม มีกลิ่นอ่อนที่ไม่รบกวนกลิ่นน้ำหอมส่วนใหญ่ เป็นตัวเลือกที่นิยมและคุ้มค่าสำหรับการทำน้ำหอม ให้ประสิทธิภาพที่ดีในการละลายและการกระจายกลิ่น
• เอทิลแอลกอฮอล์ 95%: มีปริมาณน้ำมากกว่า 96% หรือ 99.9% ขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาและกระบวนการแปลงสภาพ อาจมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ชัดเจนกว่า ซึ่งอาจส่งผลต่อกลิ่นของน้ำหอมได้ แม้ว่าจะยังสามารถนำมาใช้ได้ แต่โดยทั่วไปแล้วไม่เป็นที่นิยมเท่าเกรดที่มีความบริสุทธิ์สูงกว่า หากต้องการกลิ่นที่สะอาดบริสุทธิ์

โดยสรุป การใช้แอลกอฮอล์เปอร์เซ็นต์สูง (โดยเฉพาะความบริสุทธิ์สูง) ช่วยให้การกระจายกลิ่นดีขึ้นโดยเป็นเบสที่สะอาดและระเหยเร็ว แต่ไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่กำหนดความติดทนของกลิ่น ปัจจัยที่สำคัญกว่าคือส่วนประกอบและความเข้มข้นของหัวน้ำหอม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการทำน้ำหอม แนะนำให้ใช้แอลกอฮอล์เกรดทำน้ำหอมที่มีความบริสุทธิ์สูง เช่น เอทิลแอลกอฮอล์ 96% (เกรดทำน้ำหอม, กลิ่นอ่อน) หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ 99.9% (เกรดวิจัย/ทำน้ำหอม) เพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นรบกวน.